เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 24 มิ.ย. พ.ต.ท.ไชยาสิทธิ์ จันทร์เสน สว.เวร สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจยย.หน้า รพ.ระยองหลายสิบคัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบมีชาวบ้านกำลังยืนมุงกันอยู่ที่บริเวณหน้า ร.พ.ระยอง จึงเข้าไปตรวจสอบพบกับภาพรถจยย.ล้มระเนระนาด 32 คัน และรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สสีขาว ทะเบียน กบ 6488 ระยอง สภาพหันหน้าออกถนนด้านหน้าพังยับด้านท้ายรถชนอัดกับกำแพงโรงพยาบาล เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พบคนขับรถยนต์ต้นเหตุนั่งอยู่ในรถเป็นผู้หญิง
เจ้าหน้าที่จึงเข้าให้ความช่วยเหลือ กลับพบว่าสาวคนขับรถกลับมีอาการเหม่อลอย นั่งยิ้มตาลอย อยู่บนเบาะคนขับ จึงเข้าไปสอบถามอาการ เพราะคิดว่าได้รับบาดเจ็บและอยู่ในอาการตกตะลึงกับเหตุที่เกิดขึ้น แต่จากการสอบถาม หญิงสาวกลับไม่ยอมพูดจา เอาแต่นั่งยิ้ม จึงต้องช่วยกันนำตัวออกมาจากรถ แต่หญิงสาวคนดังกล่าวกลับขัดขืน จึงนำตัวออกมาอย่างทุลักทุเล แล้วนำตัวตรวจอาการในร.พ.ระยองทันที สำหรับคนขับรถทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ปนัดดา (ขอสงวนนารมสกุล) อายุ 26 ปี
สำหรับรถจยย.ที่ถูกชนส่วนใหญ่เป็นรถของผู้ที่มาเยี่ยมญาติในร.พ.ระยองที่มาจอดไว้ หน้าบริเวณทางเข้ารพ. ริมถนนสุขุมวิท ซึ่งต่างก็สุดเซ็งเมื่อเห็นสภาพรถที่ล้มทับกันเป็นแถวยาว จากการตรวจสอบมีรถจยย.ถูกชนทั้งหมด 32 คัน เสียหายหนัก 12 คัน รวมค่าเสียหายกว่าแสนบาท ส่วนที่เหลือเสียหายเล็กน้อย ซึ่งเจ้าของจยย.ที่เสียหายเตรียมนำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อไป ที่สภ.เมืองระยอง
จากการสอบถาม รปภ.ของร.พ ระยอง ได้เล่านาทีระทึกว่า รถยนต์ที่พุ่งชนได้วิ่งมาจาก 3 แยกไฟแดงที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาน 15 เมตร จู่ๆก็วิ่งพุ่งเข้ามาที่จุดจอดรถจยย.หน้าร.พ.แล้วก็ชนอย่างจังโดยไม่ได้เหยียบเบรคเลยทำให้ชนเต็มแรง
เบื้องต้นทางตำรวจได้นำตัวน.ส.ปนัดดา คนก่อเหตุมาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองระยอง หลังแพทย์ตรวจพบว่าปัสาวะมีสีม่วง มีการเสพสารเสพติดมา แต่อาการยังอยู่ในอาการเบลอ คาดน่าจะเสพสารเสพติดเกินขนาดจนทำให้ออกอาการเบลอไม่รู้สึกตัวเอาแต่ยิ้มไม่ยอมพูด จึงตัวเข้าห้องขังรออาการปกติแล้วค่อยสอบสวนต่อ และได้แจ้งทั้งหมด 5 ข้อหา 1.เสพยาเสพติด 2.เป็นผู้ขับขี่แล้วเสพยาเสพติด 3.ขับรถโดยประมาท 4.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอื่น 5.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ส่วนเจ้าของรถจยย.ที่เสียหายขณะเริ่มทยอยนำหลักฐานเข้าแจ้งความแล้ว รวมค่าเสียหายทั้งหมดประมาณ 1.5แสนบาท ทั้งหมด 12 คัน
ที่มา – http://www.khaosod.co.th/