พ่อแม่เฝ้าใกล้ชิด หนุ่ม นศ.ปี4 ลูกชาย ผบ.มทบ.38 ที่ถูกยำหน้าตาเละในผับดังเมืองเชียงใหม่ต่อหน้ากลุ่มดาราไม่มีใครห้าม แม่ติดใจ ทำไมไม่ดำเนินคดีกับคนที่สั่งทำร้ายลูก เผยคู่กรณีใหญ่โตมาก อวดศักดา ประกาศลั่น กูรวย กูจะทำอะไรก็ได้…
จากกรณีการ์ดคุมผับ ร้านมาลินสกาย ตรงข้ามด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถนนห้วยแก้ว ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ 4 คน รุมทำร้าย นายอิศราชนุวัฒน์ วรรคาวิสันต์ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง และเป็นลูกชายของ พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผบ.มทบ.38 ต่อหน้ากลุ่มดาราช่อง 3 ชายหญิงหลายคน ที่มากินเลี้ยงในร้าน แต่กลับไม่มีใครห้ามปราม ปล่อยให้คนถูกทำร้ายต่อหน้า
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 27 พ.ย. ที่โรงพยาบาลลานนา พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผบ.มทบ.38 และนางปุนยวัจนา วรรคาวิสันต์ อายุ 49 ปี แม่ของนายอิศราชนุวัฒน์ ได้เฝ้าดูอาการลูกชายอย่างใกล้ชิด โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ 2 นาย ไปขอสอบปากคำคนเจ็บ แต่ทางผู้ปกครองไม่อนุญาต เนื่องจากลูกชายยังไม่พร้อม และมีอาการบาดเจ็บจากแผลที่ถูกทำร้าย จนตำรวจต้องเดินทางกลับ
นางปุนยวัจนา วรรคาวิสันต์ กล่าวว่า แม้ตอนนี้มีคนที่อ้างว่า คนที่ทำร้ายลูกชายตนเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว 1 คนก็ตาม แต่คนที่สั่งให้การ์ดทำร้ายลูกชายคือ ผู้ชายคนหนึ่ง ที่ประกาศตัวว่าเป็นแฟนดาราสาวช่องหนึ่ง และประกาศว่า กูรวย กูจะทำอะไรก็ได้ในที่ของกู ขณะนี้ชายคนนี้ยังไม่ถูกจับมาดำเนินคดี ซึ่งลูกชายจำได้ว่านายคนนี้เป็นคนสั่งให้การ์ดทำร้าย และยังประกาศศักดาว่าเป็นเจ้าของผับอีกด้วย จึงขอให้ตำรวจติดตามผู้กระทำความผิดที่เหลือมาดำเนินคดีให้ด้วย
ด้าน พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผบ.มทบ.38 กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นกับลูกชาย ขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ผู้ที่กระทำความผิด ที่ทำร้ายร่างกาย ก็มีตัวบทกฎหมายที่บังคับใช้กับทุกคนอยู่แล้ว ซึ่งฝ่ายกฎหมายต้องดูแลให้มีความเท่าเทียมกัน คดีนี้ก็เช่นกัน ต้องดำเนินการไปให้ถึงที่สุด
ต่อมา ได้มี น.ส.ภาณุมาศ อุดมขันติกุล เลขานุการเจ้าของโครงการตลาดมาลินพลาซ่า หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำกระเช้ามาเยี่ยมมอบให้กำลังใจกับคนเจ็บ โดยยืนยันว่า ทางเจ้าของโครงการคือนายธานินทร์ อ่ำบำรุง ได้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ฮ่องกง ตนจึงเป็นตัวแทนนำกระเช้ามาเยี่ยมครอบครัวคนเจ็บ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนร้านมาลินสกาย ที่เกิดเหตุ ได้มาทำสัญญาเช่าพื้นที่กับโครงการปีต่อปี โดยเจ้าของทำสัญญาเช่าเป็นร้านอาหาร เมื่อมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นจึงได้ยกเลิกสัญญาเช่าไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ได้เชิญพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ 3 รายมาสอบปากคำที่ห้องทำงานบนโรงพัก โดยปิดประตูไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ หรือสังเกตการณ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น.
ที่มา – ไทยรัฐ