เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สาวสวยสุดระทึก หนุ่มหื่นบุกห้องสาว ชกท้อง จับย่าขังในห้องน้ำ จะข่มขืน แต่สุดท้ายบังคับใช้ปาก ถูกกัดนกเขาหวิดขาด โดน ตร.จับขังสุดระบมนอนไม่ไหว ต้องให้พาส่ง รพ. อ้างสาวขี่รถปาดหน้าแค้นจะไปเอาคืน แต่เห็นใส่ชุดนอน เลยเปลี่ยนใจ…

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 14 ม.ค. พ.ต.ต.นรินทร์ นามบ้านค้อ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งจาก น.ส.สวย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ว่า ตนพร้อมคุณย่าอายุ 78 ปี ได้พากันมาเช่าอยู่หอพักแห่งหนึ่งในซอย 10 ถนนเทวาภิบาล ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เพื่อสะดวกกับการไปทำงาน

น.ส.สวย ให้การต่อว่า กระทั่งคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 1 ทุ่ม มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้ง จึงลุกไปแง้มประตูเพื่อดูว่าเป็นใครมาเคาะ ทันใดนั้นประตูถูกผลักอย่างแรง แล้วมีชายหนุ่มร่างกายบึกบึน อายุ 25 – 30 ปี สวมเสื้อกันหนาว ที่หน้าอกด้านขวามีตัวเลข 89 สีขาวขนาดใหญ่ ได้สวมวิญญาณเป็นคนร้าย ใช้หมัดขวาที่มีสนับมือ เป็นอาวุธ ชกที่หน้าท้องตนเองหลายครั้ง คุณย่าจึงเข้ามาช่วย จึงถูกคนร้ายชกไป 1 ครั้ง แล้วลากคุณย่าเข้าไปขังไว้ในห้องน้ำ ต่อจากนั้นคนร้ายได้ถอดกางเกง เปลือยท่อนล่าง เดินเข้ามาหาตน

แต่ด้วยสัญชาตญาณ และรู้ว่าคนร้ายต้องข่มขืนตนแน่ จึงทำใจดีสู้เสือ พูดกับคนร้ายไปว่า อย่าทำร้ายฉันเลย อยากได้อะไร ก็เอาไป แต่ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ด้วย คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนร้ายได้ชกที่ท้องหลายครั้ง ทำให้ปวดที่มดลูกอย่างแรง คนร้ายจึงบังคับตนให้ใช้ปากสำเร็จความใคร่ ด้วยภาระจำยอมจึงยอมทำไประยะหนึ่ง จนคนร้ายเผลอตัว จึงใช้ปากกัดอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด  จึงฉวยโอกาสนี้หนีออกมาขอความช่วยเหลือ คนร้ายรีบคว้าเอากางเกงขายาวพร้อมกางเกงใน วิ่งออกไปนอกห้อง หายไปในความมืด

ทางด้าน พ.ต.ต.นรินทร์ หลังรับแจ้งความจึงประสาน พ.ต.ท.ไพรรัตน์ บุปผา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ต.สมโภช แสวงแก้ว สว.สืบสวน และตำรวจสืบสวนชุดสุรสีห์ ทราบเหตุ พร้อมบอกลักษณะรูปพรรณของคนร้าย จนกระทั่งถึงเวลา 01.00 น. วันที่ 15 ม.ค.60 ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.เมืองร้อยเอ็ด พบชายต้องสงสัยอยู่ที่ร้านเนื้อหมูจุ่มแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด สวมเสื้อกันหนาวที่มีตัวเลข 89 ขนาดใหญ่

เมื่อตำรวจเดินเข้าไปหา ชายหนุ่มคนดังกล่าวยิ่งออกอาการพิรุธ ตำรวจชุดสืบสวนจึงเชิญไป สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อสอบถาม ขณะเดียวกันนั้น ตำรวจได้พา น.ส.สวย ผู้เสียหายมาดูตัวแล้วให้การยืนยันว่า เป็นคนร้ายที่บุกเข้าไปข่มขืนตน ทาง พ.ต.ท.ไพรรัตน์ พร้อมตำรวจชุดสืบสวนสุรสีห์ จึงจับตัวไว้ ทราบภายหลังว่าชื่อนายชาตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เป็นชาว อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด นำตัวมามอบให้ พ.ต.ต.นรินทร์ นามบ้านค้อ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองร้อยเอ็ด ดำเนินคดี

จากการสอบสวน นายชาตรี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านั้นเวลาประมาณ 1 ทุ่มของวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปถึงสามแยกถนนกองพล 10 ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด น.ส.สวย ได้ขี่รถจักรยานยนต์วิ่งตัดหน้ากระชั้นชิด ทำให้รถจักรยานยนต์ของตนล้ม เป็นเหตุให้ตนโกรธ น.ส.สวย มาก จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังไป จนทราบว่า น.ส.สวย พักอยู่ที่หอพักในซอย 10 ถนนเทวาภิบาล ในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

หลังจากนั้น จึงรอเวลาพอเหมาะ ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดไว้นอกรั้วหอพัก แล้วเข้าไปเคาะประตูห้องพักของ น.ส.สวย บุกเข้าไปจะทำร้ายเพื่อสั่งสอน แต่เนื่องจากเห็นน.ส.สวย ใส่ชุดนอน รูปร่างหน้าตาสะสวย จึงเกิดอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรง ลงมือกระทำมิดีมิร้ายต่อ น.ส.สวย แต่ถูก น.ส.สวย กัดนกเขาอย่างแรง ถึงกับร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด และต้องรีบหนีออกมา ก่อนถูกตำรวจติดตามจับได้

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ข่มขืนกระทำชำเรา กระทำอนาจาร บุกรุกเคหสถานในยามวิกาล ควบคุมตัวไว้ในห้องขัง สภ.เมืองร้อยเอ็ด

ต่อมาเวลา 10.30 น. วันที่ 15 ม.ค.60 ปรากฏว่า นกเขาของนายชาตรี เกิดแผลอักเสบ บวมเป่ง เจ็บปวดถึงขั้นทนไม่ไหว จึงบอกกับตำรวจเวร ให้แจ้งพนักงานสอบสวน เพื่อขออนุญาตไป รพ.ร้อยเอ็ด เพื่อรักษาแผลโดยด่วน ซึ่ง พ.ต.ต.นรินทร์ นามบ้านค้อ ทราบเหตุจึงให้ ร.ต.อ.นิคม ตาลเลี่ยม รอง สว.ป.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมตำรวจสายตรวจ นำเอานายชาตรี ผู้ต้องหาไปที่ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน รพ.ร้อยเอ็ด ให้แพทย์ตรวจ ปรากฏว่าหลังจากแพทย์ตรวจแล้ว ได้สั่งให้พักรักษาตัวอยู่ใน รพ.ร้อยเอ็ด เพราะบาดแผลถูกกัดเริ่มติดเชื้อ และอักเสบอย่างรุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามร่างกายของนายชาตรี พบการบาดเจ็บที่กราม และตามศีรษะมีรอยบวมหลายแห่ง ซึ่งนายชาตรีไม่ได้บอกสาเหตุของการบาดเจ็บครั้งนี้ โดยตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดจากหอพักมาตรวจสอบ พบภาพผู้ชายคล้ายกับนายชาตรีกำลังยืนพูดคุยกับผู้ที่คล้ายกับ น.ส.สวย อยู่ที่ประตูหน้า และในภาพมีการยื่นกระเป๋าเงินให้กันและกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ว่าทั้ง 2 รู้จักกันมาก่อนหรือไม่ เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย.

ที่มา – ไทยรัฐ