จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหญิงสาวชาวญี่ปุ่นจำนวนมากถูกบังคับให้แต่งงานกับชายชาวอเมริกันที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรูของพวกเธอมาก่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นี่คือเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อของพวกเธอ ที่ต้องยอมแต่งงานกับชายหนุ่มชาวอเมริกันเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการที่สหรัฐฯ จะเข้ามาช่วยฟื้นฟูประเทศบ้านเกิดของพวกเธอที่ย่อยยับจากไฟแห่งสงคราม
หลังจากที่ญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี ค.ศ.1945 มีรายงานว่าทหารสหรัฐฯ ราวครึ่งล้านและพลเรือนอีก 5,000 คน ได้เดินทางมายังญี่ปุ่นเพื่อช่วยฟื้นฟูญี่ปุ่นที่บอบช้ำจากไฟสงคราม การเข้ามาของทหารจีไอหนุ่มได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับสาว ๆ ชาวอาทิตย์อุทัยเป็นอย่างมาก กล่าวคือหนุ่มอเมริกันเหล่านั้นต่างหล่อเหลาและดูดี เรือนผมสีทองเป็นประกาย นัยน์ตาสีน้ำเงินที่ดูงดงามราวกับน้ำทะเล และร่างกายสูงใหญ่และกำยำ แตกต่างจากชายชาวญี่ปุ่นที่ตัวเล็กและตาตี่
การเข้ามาของทหารสหรัฐฯ ในครั้งนั้นได้รับการต้อนรับจากหญิงสาวชาวอาทิตย์อุทัยเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดวัฒนธรรมการจับหาคู่ระหว่างหนุ่มอเมริกันและหญิงสาวชาวญี่ปุ่นอย่างแพร่หลาย มีรายงานว่าหลังปี ค.ศ.1950 มีหญิงสาวชาวญี่ปุ่นราว 50,000 คนตกลงปลงใจแต่งงานกับทหารอเมริกัน และย้ายถิ่นฐานไปอยู่กับสามีที่สหรัฐฯ อีกราว 45,000 คนเลยทีเดียว
หญิงสาวบางรายสารภาพว่าตนเองถูกบังคับให้แต่งงานกับหนุ่มอเมริกัน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกับสามีเสียด้วยซ้ำ บางคนโชคดีหน่อยเพราะได้มีโอกาสคบหาดูใจจนเกิดเป็นความรักและได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หลังจากแต่งงานแล้ว หญิงสาวชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่ต้องย้ายถิ่นฐานจากบ้านเกิดไปยังสหรัฐฯ พวกเธอต้องเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาของชาวอเมริกัน และอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านที่เป็นชาวอเมริกัน และบางคนนั้นมีญาติเป็นทหารที่เสียชีวิตในเพิร์ล ฮาร์เบอร์ และสงครามที่อเมริกาและญี่ปุ่นเป็นคู่กรณีโดยตรง และปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขายังคงเกลียดชังชาวญี่ปุ่นชนิดเข้าเส้นเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม กาลเวลาได้ผ่านไป ลูกหลานที่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น ได้เริ่มออกมาพูดถึงเรื่องราวที่ใครหลายคนไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับชาติกำเนิดของพวกเธอ เพื่อเปิดเผยเรื่องราวอีกมุมให้ชาวอเมริกันและชาวโลกได้รับรู้ความจริงที่ถูกซ่อนในหน้าประวัติศาสตร์นี้