จากกรณีที่ เอมี่ อาเมเรีย จาคอป มิสทีนไทยแลนด์ 2006 ถูกตร.191 บุกจับขณะเสพไอซ์อยู่ในบ้านพัก เจ้าตัวร่ำไห้รับสารภาพเสพมากว่าปีแล้ว อ้างเครียด ตำรวจยึดมือถือเช็กความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับดารา-บุคคลในวงการบันเทิงอีกหรือไม่ หลังขยายผลจับเพิ่มคนที่นำยามาส่งให้ เผยตำรวจกองกำกับสายตรวจ 2 ขยายผลจากการจับผู้เสพซัดทอดถึงแฟนเอมี่คนขาย ก่อนจะล่อซื้อแต่ไม่พบของกลาง สอบจนรับสารภาพว่ามียาไอซ์-ยาอีซุกอยู่ที่บ้าน จึงตามไปตรวจค้นพบนางเอกสาวกำลังเสพอยู่พอดี โดนข้อหาเสพ ครอบครอง และจำหน่ายส่งให้ตำรวจท้องที่ดำเนินคดีนั้น
ความคือหน้าล่าสุด รรท.รอง ผบช.ทท. กล่าวอีกว่า ได้นำโทรศัพท์ของเอมี่และพล แฟนหนุ่มมาตรวจสอบ ยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึงใคร หากพบว่าเกี่ยวโยงถึงใครพร้อมเข้าจับทันที ไม่เว้นแม้ดาราหรือคนธรรมดา นอกจากนี้ได้ประสานข้อมูลกับทาง ป.ป.ส. เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์ของอดีตดาราสาวและผู้เกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตามมาตรการสมคบ เพื่อการค้ายาเสพติด หากดูจากปริมาณยาของกลางที่ยึดได้ เป็นที่แน่ชัดว่า ปริมาณยาเกินขนาดที่กฎหมายกำหนดไว้กว่าที่จะมีไว้เสพเอง หากเป็นไปตามนี้ทาง ป.ป.ส.ก็สามารถดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
น.ส.ณัฐชา หรือพั้นช์ ได้เปิดปากกับชุดสืบสวนแล้วว่า ปกติมีอาชีพขายของออนไลน์ รู้จักกับนายปุณยวัจน์เป็นเวลากว่า 1 ปี ทำหน้าที่รับยาจากคนๆหนึ่งเหมือนกับนายปุณยวัจน์ หรือพล ก่อนนำไปปล่อยขายต่อ ซึ่งคดีดังกล่าวมีเส้นทางเชื่อมโยงคือ เพื่อนของนายพลเป็นเอเย่นต์ตัวใหญ่ ก่อนจะกระจายของมาให้ น.ส.พั้นช์ กับนายพล ที่อยู่ในระนาบเดียวกัน ก่อนที่ น.ส.พั้นช์กับนายพล จะนำของไปปล่อยต่ออีกทอดหนึ่ง บางครั้งหากของไม่พอก็จะขอยาซึ่งกันและกัน.