คำชมจากพ่อหลวง!! ความปลาบปลื้มที่ไม่มีวันลืม
ของ “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติ
เมื่อครั้งมีโอกาสได้ถวายงานรับใช้ในหลวง รัชกาลที่ 9

เรื่องราวสุดประทับใจเกี่ยวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของ “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติ  ที่มีโอกาสถวายงานรับใช้และร่วมแสดงฝีมือในการเขียนภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” โดยอาจารย์ได้เล่าว่า

“พระมหาชนก” เป็นเรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพระราชนิพนธ์ไว้นานแล้ว และก็มีการกล่าวถึงความรู้ เนื้อหาที่มีสาระประโยชน์กันหลายครั้ง จนกระทั่งโปรดเกล้าฯ ให้ทำออกมาเป็นหนังสือ โดยศิลปะภาพเขียนที่จะประกอบนั้น พระองค์ทรงต้องการที่จะให้เป็นศิลปะไทยสมัยใหม่ที่เป็นของยุครัชกาลของพระองค์ ดังนั้นก็ได้มีศิลปินหลายคนที่ส่งรูปและแบบร่างกราบบังคมทูลถวายให้ทอดพระเนตรเห็นงานศิลปะของผมบ้างแล้ว เช่น งานเขียนในหนังสือ งานเขียนที่วัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน คิดว่าพระองค์ทรงถูกพระทัยในงานศิลปะไทยสมัยใหม่ที่ผมตั้งใจเขียนสร้างงานศิลปะยุคใหม่ขึ้นมา

ในการเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งแรกพระองค์ทรงถามว่าใครเป็นคนเขียนรูปที่พระพุทธประทีปที่ลอนดอนเมื่อผมยกมือขึ้นพระองค์ท่านก็ตรัสว่าเป็นงานเขียนที่ดีมากในคำชมของพระองค์ท่านทำให้ผมรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากเพราะสิ่งที่ผมและน้องๆ เหน็ดเหนื่อยพยายามสร้างกันมาถึง 4 ปี เป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่นอกสายพระเนตรของพระองค์เลย

เมื่อได้ถวายการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทผมรู้สึกมีความสุขและด้วยความที่พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพอย่างยิ่งในงานศิลปะทรงให้ความเป็นกันเองและทรงมีจิตวิทยาที่ยอดเยี่ยมในการติชมงานเป็นอย่างยิ่งพระองค์ทรงรับสั่งเสมอว่า “หนังสือท่านจะมีค่าขึ้นก็เพราะว่ามีรูปเขียนของพวกเรา รูปเขียนมีส่วนสำคัญยิ่งในหนังสือของเรา” คำตรัสนี้ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าพระองค์ให้เกียรติต่อคนเขียนรูปมาก

บรรยากาศในการทำงานเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจมิรู้ลืมพระองค์ทรงมีอารมณ์ขันให้ความเป็นกันเองกับผู้ร่วมงานอย่างมากแม้บางงานที่ต้องมีการแก้ไขแต่พระองค์ก็ทรงเข้าใจถึงอารมณ์ของศิลปินอย่างพวกเราทรงใช้วิธีตำหนิแบบบัวไม่ให้ช้ำทรงถ่อมพระองค์อยู่ตลอดเวลา

พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในด้านศิลปะเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นในแง่ขององค์ประกอบศิลป์การวางองค์ประกอบของภาพหรือหรือองค์ประกอบสีเช่นภาพบางภาพพระองค์อยากให้ออกมาเบลอๆ บางภาพอยากให้คงไว้พระองค์ทรงตรวจงานเขียนด้วยความละเอียดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

แนวทางการปฏิบัติที่ได้รับแบบอย่างมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสำหรับตัวผมนั้นคือความมุ่งมั่นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความขยันทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นอย่างจริงจังเพราะการทำงานในแต่ละครั้งพระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายในการทำงานอย่างเต้มที่ซึ่งผมยึดถือปฏิบัติมากับตัวเองเสมอมานอกจากนี้พระองค์ทรงเมตตาพระราชทานเงินให้ผมและศิลปินทุกคนที่ร่วมงานนี้คนละสามหมื่นบาทต่อเดือนในระยะเวลา 8 เดือนที่ต้องเขียนรูปเพราะพระองค์เห็นว่าพวกเรายังต้องหาเลี้ยงชีวิตหาเลี้ยงครอบครัว และยังให้ศิลปินและครอบครัวทุกคนอยู่ในความอนุเคราะห์ของพระองค์ท่านในยามมีปัญหาหรือยามเจ็บป่วย

ผมได้ถวายงานรับใช้ใต้ฝ่าพระบาทเป็นการส่วนพระองค์อีกสองงานก็คือการวาดรูปส่วนพระองค์และการออกแบบเหรียญซึ่งทรงพระราชทานให้คณะแพทย์ที่ทำการรักษาพระองค์เมื่อทรงพระประชวรและตัวผมก็กำลังสร้างวัดที่มีความโดดเด่นในด้านศิลปกรรมปฏิมากรรมและจิตรกรรมไทยสมัยใหม่เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อพระชนมายุครบ 80 พรรษา โดยผมมีความมุ่งหวังที่จะให้เป็นวัดศิลปะไทยประจำรัชกาลที่ 9 ที่ผมอยากให้เป็นศิลปะอันล้ำค่าของแผ่นดิน

 

 

ข้อมูลจาก :  นิตยสาร “คุณหญิง” คอลัมน์ “ในหลวงของเรา“