ออกอากาศไปตอนแรกก็กลายเป็นกระแสฮือฮากันยกใหญ่ สำหรับละคร ใบไม้ที่ปลิดปลิว ที่ได้นักแสดงสาวมากฝีมืออย่าง ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก มาถ่ายทอดบทบาทสาวประเภทสองเป็นครั้งแรก ผ่านเรื่องราวสุดเข้มข้น สะเทือนอารมณ์ ซึ่งหลังจากออกอากาศไปหลาย ๆ เสียงต่างก็พากันชื่นชมการแสดงของเจ้าตัว และมีบางส่วนที่รู้สึกว่าดูมีความไม่สมจริง ในการรับบทเป็นสาวประเภทสอง
ล่าสุดใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เว็บไซต์ สยามดารา ก็ได้ออกมาเผยบทสัมภาษณ์ของเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า กว่าที่งานนี้จะมาถึงตน ทางฝั่งของผู้ใหญ่ก็ผ่านการพูดคุยกันมาแล้ว เมื่อตนได้บทนี้มา ตนจึงรู้สึกว่าต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งบางทีอาจจะไม่ต้องเป็นเพศที่สามจริง ๆ ก็ได้ แต่ตนสามารถศึกษาและทำความเข้าใจได้ เหมือนตอนที่เล่นเป็นโสเภณี ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องไปขายตัว แค่พยายามทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด และกว้างที่สุดเท่าที่นักแสดงคนหนึ่งจะทำได้
โดยสาวใบเฟิร์นยอมรับว่าตนทำการบ้านหนักมาก เพราะในเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องเพศที่สาม แต่ยังเป็นเด็กที่ถูกทำร้าย และมีปัญหาครอบครัวหลายอย่างด้วย ซึ่งตนผูกพันกับตัวละครมาก เพราะมีหลายแง่มุมที่ตนอยากถ่ายทอดให้คนดูได้เห็น ไม่ใช่แค่ความบันเทิงเท่านั้น
นอกจากนี้ สาวใบเฟิร์น เผยอีกว่า มีติดการพูดเสียงใหญ่จากในละครมาใช้ในชีวิตจริงบ้าง ส่วนเรื่องการถ่ายทอดความเป็นเพศที่สามของตัวละคร เจ้าตัวรู้สึกว่าอย่างไรเขาก็คือคนคนหนึ่ง แต่ถูกยัดเยียดคำว่า วิปริต หรือผิดพลาดอะไรต่าง ๆ ให้ โดยที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดอะไรกับการที่มีความชอบแบบนี้ มีความสุขกับการแต่งหน้าทำผม ตนจึงรู้สึกว่าตัวละครนี้เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่โตมาอย่างขาดความมั่นใจ ไม่มีที่ยืน และต้องการเป็นที่ยอมรับ ซึ่งมันคือปัญหาครอบครัว
ทั้งนี้ ใบเฟิร์น กล่าวว่า ตนตั้งใจกับทุกบทบาทอยุ่แล้ว และต้องขอบคุณโอกาสที่ทำให้ได้ทำอะไรแบบนี้สักครั้งในชีวิต ได้เจอกับความรู้สึกว่าไปกองถ่ายมีแต่เรื่องยาก ๆ กลับมาเครียดทุกวัน และมันคือความไว้ใจ ต้องขอบคุณทางผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส
