กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.ท.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนใบกระท่อม จำนวน 6 คน ประกอบด้วย
1.นายสุเมธ หาญสุวรรณ อายุ 36 ปี
2.นายยศศักดิ์ คงเกื้อ อายุ 33 ปี
3.นายเอกรัตน์ ช้างอินทร์ อายุ 32 ปี
4.นายสุรชาติ เอาชัย อายุ 25 ปี
5.นายอนุวัฒน์ กาญจนอารี อายุ 23 ปี
6.นาย สิทธิศักดิ์ บุญสันเทียะ อายุ 22 ปี
ทั้งหมดเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช
พร้อมของกลางใบกระท่อมจำนวน 15 กระสอบ น้ำหนักรวม 70 กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาวหมายเลขทะเบียน 5กธ1064 กทม. โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ริมถนนเลียบทางด่วนพระราม 9 รามอินทรา ฝั่งตรงข้าม รพ.พระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายใบกระท่อมให้กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ย่านดินแดง จึงส่งเจ้าหน้าที่ชุดสายสืบลงพื้นที่ เพื่อสืบหาเบาะแส กระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้กำลังลักลอบขนใบกระท่อมล็อตใหญ่จาก จ.ปทุมธานี เข้ามาเก็บสต๊อกไว้ที่บ้านพักย่านดินแดง เพื่อรอนำไปแบ่งขายให้กับกลุ่มลูกค้า จึงเฝ้าสะกดรอยตามรถยนต์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้ จนถึงถนนเลียบทางด่วนพระราม 9-รามอินทรา บริเวณฝั่งตรงข้าม รพ.พระราม 9 พร้อมกับแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น พบของกลางใบกระท่อมจำนวน 15 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนยังกองบังคับการปราบปราม
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนให้การรับสารภาพว่า เดิมทีมีอาชีพรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าโรงงานแห่งหนึ่งย่านดินแดง แต่เนื่องจากรายได้จากการทำงานนั้นไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพและเลี้ยงดูครอบครัว จึงหันมาขายใบกระท่อมเป็นอาชีพเสริมเพื่อให้ครอบครัวได้มีกินมีใช้ ที่ผ่านมายอมรับว่าทำมานานแล้วประมาณ 2-3 ปี ซึ่งใบกระท่อมของกลางทั้งหมดนั้นรับซื้อมาจากชาวบ้านในพื้นที่ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ในราคา 1 หมื่นบาท เพื่อเตรียมนำมาเก็บกักตุนไว้รอแบ่งขายให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใช้แรงงาน วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ในพื้นที่ย่านดินแดง โดยแต่ละครั้งจะขายในราคากำละ 1 ร้อยบาท กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 5 (ใบพืชกระท่อมสด) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน นำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
