คุณพ่อน้องภูติ เผยว่า ตนเองพาน้องออกมาทำงานด้วยได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว เหตุที่ต้องพาน้องออกมา เพราะว่า ตนเองอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ กับภรรยาเพียง 2 คน ไม่มีคนช่วยเลี้ยง
ซึ่งภรรยาต้องออกไปทำงานทุกวัน เป็นผู้ช่วยพยาบาล ส่วนตนเองมีอาชีพหลักขับแกร็บฟู้ดอยู่แล้ว พอมีลูกรายจ่ายเพิ่มขึ้นแต่รายรับเท่าเดิม จึงตัดสินใจพาน้องออกมาทำงานด้วยกัน และลองทำคลิปวีดีโอดูเล่นๆ
ด้าน คุณแม่น้องภูติ เผยว่า ครั้งแรกที่พ่อเขาพาไปเราไม่รู้ด้วยซ้ำ เขาไม่ได้บอกเราว่าจะพาน้องไปวิ่งงานด้วย พอรู้ก็ถามหมดเลย น้องเป็นยังไง งอแงไหม ร้องไหม แดดร้อนหรือเปล่า เพราะเป็นห่วงมาก แต่พอเห็นน้องโอเค เราก้ไม่ได้ห้าม คอยโทรศัพท์หรือทักไปถามตลอด ให้รับงานใกล้ๆ ไม่ต้องเยอะ ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงน้อง
ทางเรามีความจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้จริงๆ เราเลี้ยงกันเอง สลับกันดูแล แต่ค่าใช้จ่ายไม่พอ พ่อน้องเขาอยากแบ่งเบา นิดนึงก็ยังดี เพราะเวลามีน้องเราจะไม่รับงานเยอะ ในหนึ่งวันรับแค่ 2-3 งาน เราคิดถึงครอบครัวเป็นหลัก เวลาท้อก็อย่าคิดสั้น ให้มองคนที่เขาลำบากกว่าเรา เขาก็ยังสู้ เราก็ต้องสู้
หลายคนอาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแต่ คุณพ่อ คุณแม่ น้องภูติ ได้ช่วยกันเซฟทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ มีหมวกกันน็อก ผ้าบัฟกันฝุ่นกันลม ใส่เสื้อแขนยาวกันแดด ไม่ขับรถเร็ว
พยายามอยู่เลนซ้ายเพื่อความปลอดภัย เลือกเวลารับงาน หากช่วงเวลาไหนอากาศร้อนเกินไป ฝนทำท่าเหมือนจะตก ก็จะไม่รับงาน โดยส่วนใหญ่เลือกรับงานจากความปลอดภัยของน้องเป็นหลัก
