เป็นดราม่าสั่นสะเทือนไปทั้งวงการ เมื่อนางเอกแถวหน้า ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ออกมาเปิดประเด็นเรื่อง อำนาจเงินทำลายครอบครัว ทำเอาตีความไปต่างๆนาๆ เพราะ คำว่าเงินนั้น มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ พ่อแม่พี่น้องคนสายเลือดเดียวกันแตกกันเพราะเงินมาแล้วหลายครอบครัว
แต่สำหรับขวัญเธอย้ำว่า ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำและมีค่ากว่าเงินทอง
” มันเป็นเรื่องของคนในบ้าน ดังนั้นมันก็ไม่จำเป็นจะต้องออกมาชี้แจงเพื่อให้คนมาว่าคุณแม่หรือว่าพี่สาวเรา เราเป็นเลือดเนื้อครอบครัวเดียวกัน “
แม้จะมีเสียงเข้มๆ จากคุณแม่แอ๊ว ปราณี ในประเด็นสร้างได้ก็ทำลายได้ แต่ขวัญก็ยังให้ความเคารพรักคุณแม่เสมอ
“ในฐานะที่ขวัญเป็นลูก เราก็ไม่มีสิทธิ์โกรธอยู่แล้ว เราอยู่ในสังคมไทย ขวัญอยู่ในครอบครัวไทย ที่ขวัญมีได้ทุกวันนี้ก็เพราะครอบครัวขวัญซึ่งก็คือคุณพ่อคุณแม่”
และถึงจะเป็น นางเอกฮอท ระดับนางเอกเรียกเรทติ้งเบอร์ต้นๆของวงการ เพราะ ละครเรื่องล่าสุด เพชรตัดเพชร เพิ่งลงจอไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ด้วยเรทติ้งเปิดตัวร้อนแรง 7กว่าๆ และพีคสุด 8 กว่าๆ แต่เรื่องส่วนตัว หนักหนาทั้งเรื่องความรักที่เพิ่งจะมีดราม่ารักรีเทิร์นกับอดีตหวานใจ กอล์ฟ พิชญะ เพราะกระแสแม่ไม่ปลื้ม แล้วก็สาหัสทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ที่ตอกย้ำให้เห็นว่าขวัญไม่ได้มีชีวิตที่สบายเหมือนนางเอกคนอื่นเลย
เแค่ 2-3 ขวบ ก็ทำงานแล้ว เริ่มจากเป็นนางแบบรุ่นจิ๋วที่ขายดิบขายดี โตขึ้นมาหน่อย กลายเป็นดาราเด็กแถวหน้างานรุมสุดๆ ปี 2537 ปีเดียว วัยเพียง 6 ขวบ มีงานละครไป 4 เรื่อง เริ่มจาก พ่อขาแม่ขาลูกรัก ต่อด้วย ปลายฝนต้นหนาว ขอโทษทีไม่มีเวลาโง่ และ ไกรทอง ปี 2538 อายุ 7 ขวบ ก็มีอีก 3 เรื่องติดๆ ทั้ง ดาวแต้มดิน ละครสั้นชุดปากกาทอง เรื่อง พรหมลิขิตจากนิ้วป้อมๆ และ คือหัตถาครองพิภพ
เรียกว่า ช่วงวัยระหว่าง 6 ขวบ ถึง 13 ขวบ ดาราเด็กอย่างขวัญเล่นละครไปร่วม 20 เรื่อง ขวัญมาเบรกงานละครไปเกือบๆ 2 ปี ก่อนจะเข้าสู่วัยสาว แล้วพออายุครบ 16 ขวบ ในปี 2547 ก็เซ็นสัญญาเป็นดาราช่อง 7 สี ประเดิมด้วย สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2 ตอนแม่มดน้อยตัวป่วน” ก่อนจะดังสนั่นในฐานะนางเอกเต็มตัว ใน เรื่องต่อมา “อกธรณี”
ทำงานมาตั้งแต่เด็กถามว่าเบื่อมั๊ย ขวัญ เคยให้สัมภาษณ์ไปเมื่อตอนต้นปีว่า … “ไม่เคยเบื่อเลย เพราะงานของเธอไม่ใช่งานรูทีน แต่มันมีความใหม่เข้ามาหาเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นละครเรื่องใหม่ บทบาทใหม่ๆ คาแร็กเตอร์ใหม่ๆ” ที่สำคัญ ขวัญบอกว่า “การที่เราไปไหนแล้วเราพบเจอรอยยิ้ม มีแต่คนยิ้มให้เรา คุยกับเรา มันคือความสุข ถ้าเดินออกไปข้างนอก ไม่มีใครคุยหรือยิ้มให้ ชีวิตขวัญคงเหงาและเฉามาก”
25 ปีในวงการ เฉพาะกับช่อง 7 สีก็ 12 ปีและ มีผลงานทางวิกหมอชิต ผ่านสายตาไป 30 เรื่อง มีงานโฆษณาทั้งในฐานะพรีเซนเตอร์และแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกร่วมๆ 10 ตัว เป็นทั้งนางเอกฝีมือดีมาก รูปร่างหน้าตาสวยมาก ผลงานมากมาย แต่ละเรื่อง เรทติ้งดีกระแสได้ หลายคนมองว่าดาราระดับขวัญ ต้องดังกว่านี้ และต้องรวยกว่านี้ ชีวิตต้องเป็นดั่งเจ้าหญิงหรือนางฟ้า
ที่ไหนได้ความลับแตกโพละว่า ได้เงินใช้เดือนละแค่ 4 หมื่นบาท ซึ่งเพิ่งจะขึ้นมาจาก 3 หมื่นซะด้วยซ้ำ และบัตรเอทีเอ็มใบแรกในชีวิต ก็เพิ่งจะมี เมื่อตอนที่รับปริญญาตรี จากม.กรุงเทพ เมื่อปี 2553 มานี้เอง และหลายครั้งงานก็สะดุดเพราะการสื่อสารผ่านคนกลางเจ้ากี้เจ้าการจนกลายเป็นการสะกัดจุดความดังของขวัญไปแบบไม่รู้ตัว
“ขวัญไม่ใช่เจ้าหญิงอย่างที่คนอื่นคิด แต่ขวัญก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดให้ใครมาตราหน้าว่าขวัญไม่ดีขวัญเลว เพราะขวัญมั่นใจว่าการกระทำของขวัญที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ มันได้พิสูจน์แล้วว่าขวัญเป็นยังไงโดยที่ขวัญไม่จำเป็นต้องพูด”
จริงแท้แน่นอนที่สุดเพราะขวัญได้ชื่อว่าเป็นดาราลูกกตัญญูอันดับต้นๆของวงการ แต่ก็ไม่เคยเอาความดีความชอบตรงนี้มาอวดใคร เพราะเธอถือว่าการดูแลพ่อแม่เป็นหลักให้ท่านได้พักพิง คือหน้าที่ของลูก
“ทุกคนกตัญญู เพียงแต่ไม่ได้ทำออกสื่อ อย่างขวัญเป็นคนสาธารณะ ทำอะไรคนรู้หมด คือมันเป็นอะไรที่ไม่เกี่ยวกับคำว่ากตัญญู มันเกี่ยวกับการที่ว่าวันนึงเราสามารถให้พ่อแม่มาพักพิงเราได้ ลูกๆ ทุกคนทำเพราะอยากรู้สึกภูมิใจว่าโตขึ้นมาสามารถทำให้คุณพ่อคุณแม่พักพิง ไม่ใช่เราต้องไปพักพิงพ่อแม่ หรือไปเบียดเบียนพ่อแม่ตลอด”
ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก ไม่เคยปริปากบ่น ชีวิตอยู่ในกรอบมาตลอด ความรักก็ต้องหักห้ามใจ ไม่เคยมีชีวิตเป็นดังเจ้าหญิงเหมือนดาราคนอื่นๆ ใครยังหาว่าเธออกตัญญูไม่รู้คุณ ถือว่าจิตใจมืดบอดเกินไปแล้ว
