เป็นที่รู้กันดีว่านักแสดงฮอลลีวูดต่างก็ทำงานอย่างหนัก
และอุทิศตัวเองเพื่องาน กว่าจะมาเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จ และโด่งดังในฮอลลีวูดได้นั้น
จะต้องอาศัยทักษะหลายๆ อย่างควบคู่กันไป พวกเขาล้วนแล้วแต่มีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม
และมีความสามารถล้นเหลือ และนี่คือ 10 อันดับนักแสดงชายผู้ทรงเสน่ห์แห่งวงการฮอลลีวูดในปี
2014 ที่เรานำฝากกัน…
10. Tom Hanks
‘Tom Hanks’ เป็นนักแสดงฮอลลีวูดที่มีความสามารถสูง
ที่ได้รับรางวัลออสการ์ถึง 2 ครั้งด้วยกัน แถมยังเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง และผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงของยุค
และได้รับรางวัลจากภาพยนตร์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่อง “Sleepless in Seattle” “You’ve Got
Mail” “The Green Mile” “Forrest Gump” และเรื่อง “Apollo 13”
9. Jude Law
นักแสดงชาวอังกฤษที่มากด้วยพรสวรรค์อย่าง
‘David Jude Heyworth Law’ หรือที่เขาคุ้นหูกันดีในชื่อของ
‘Jude Law’ เขาเป็นนักแสดงมากฝีมือของวงการฮอลลีวูด
ที่เกิดในอเมริกา และมีรางวัลการันตี บอกได้เลยว่าลุคส์ของเขานั้นดูเท่มาก จนขโมยหัวใจแฟนคลับสาวๆ
ไปมากมาย ผลงานที่น่าประทับใจของเขา ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์เรื่อง “Cold Mountain”
และเรื่อง “The Talented Mr.Ripley”
8. Matt Damon
‘Matt Damon’ เป็นผู้กำกับ
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ และนักแสดงที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่งของอเมริกา เขาได้รับการยอมรับว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดของยุค
และประสบความสำเร็จครั้งแรกในปี 1997 กับภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องว่า “Good Will Hunting” ผลงานการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเขาเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับรางวัลต่างๆ
มากมาย ทั้งเรื่อง “Saving Private Ryan” “The Bourne” และเรื่อง “Oceans
Trilogy”
7. Tom Cruise
ขึ้นชื่อว่าเป็นดาราฮอลลีวูดที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง
แถมยังหล่อเหลาเอาการ ‘Tom Cruise’ ยังเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นหนุ่มทรงเสน่ห์ของอเมริกา
และเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ แล้วก็ยังได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลออสการ์อีกด้วย
สำหรับหนังที่ประสบความสำเร็จของเขาก็มีเรื่อง “Risky
Business” “Top Gun” “A Few Good Men” และเรื่อง “The Last
Samurai”
6. Bradley Cooper
นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน ‘Bradley Cooper’ เกิดในรัฐ ‘Pennsylvania’
และเริ่มอาชีพในฐานะนักแสดงโทรทัศน์ เขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของรายการโทรทัศน์ต่างๆ อย่างรายการ “Alias” และ “Jack
& Bobby” เป็นนักแสดงฮอลลีวูดที่ได้รับการยอมรับ และได้ฝากผลงานการแสดงในหนังเรื่อง
“Limitless” และ “The Hangover” ทั้ง 3 Part อีกด้วย
5. Leonardo Dicaprio
‘Leonardo Dicaprio’ นักแสดงที่มีความสามารถรอบด้าน
และฮอตที่สุดคนหนึ่งของฮอลลีวูด เขาได้ฝากผลงานที่เป็นที่จดจำไปตลอดการอย่าง “Titanic” ค่าตัวของหนุ่มคนนี้อยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์ต่อเรื่องเลยทีเดียว มีผลงานการันตีมากมายอย่างเรื่อง
“The Aviator” และเรื่อง “The Wolf of Wall Street”
4. Adam Sandler
นักแสดงตลกชาวอเมริกันอย่าง
‘Adam Sandler’ แถมมีดีกรีเป็นนักดนตรี
นักเขียนบทภาพยนตร์ และผู้สร้างภาพยนตร์อีกต่างหาก
เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงในรายการโทรทัศน์ “Saturday Night Live” และเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมในภาพยนตร์ของเขาเสมอ
อย่างผลงานภาพยนตร์เรื่อง ”Billy Madison” “Happy Gilmore” และ “Big Daddy” ก็ล้วนแล้วแต่เปิดตัวทำรายได้ดีทั้งนั้น
3. Robert Pattinson
‘Robert Pattinson’ นักแสดงชาวอังกฤษ
ผู้มีชื่อเสียงด้านนายแบบแฟชั่น เขาเริ่มต้นอาชีพนายแบบตั้งแต่อายุได้
12 ขวบ และเขาก็เคยรับบทเป็น ‘Cedric
Diggory’ ในเรื่อง “Harry Potter and the Goblet of Fire” แล้วเขาก็ทำมันได้เยี่ยมมาก
จนมาแจ้งเกิดในบทบาทของ ‘Edward Cullen’ ในเรื่อง “Twilight” ที่ดังเป็นพลุแตก จนแฟนคลับต่างคลั่งไคล้
2. Will Smith
‘Will Smith’ เป็นทั้งนักแสดง
และผู้อำนวยการสร้างที่มากล้นด้วยความสามารถ ด้วยผลงานภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาทั้ง
“Bad Boys” และ “Six Degrees of Separation” แถมยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม
จากภาพยนตร์เรื่อง “The Pursuit of Happiness” เท่านั้นยังไม่พอเขายังสามารถคว้ารางวัล
‘NAACP Image Awards’ และ ‘Saturn Awards’ มาครองได้อีกด้วย
1. Johnny Depp
‘John Christopher Depp’ หรือชื่อสั้นๆ
ที่เรารู้จักกันว่า ‘Johnny Depp’ นั่นเอง เขาเป็นหนึ่งในนักดนตรีและนักแสดงของฮอลลีวูดที่มีชื่อเสียง
ที่ได้รับรางวัลนักแสดงที่ดีที่สุดจาก ‘Golden Globe Awards’ และจาก ‘Screen Actors Guild Awards’ ในปี 2012 และยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนักแสดงชายที่มีค่าตัวสูงที่สุดจัดอันดับโดย ‘Guinness Book of World Records’ อีกด้วย
มีเสน่ห์จริงไม่จริง วัดกันที่ผลงานการแสดง
และรางวัลที่เป็นเครื่องการันตีความสามารถ
รวมไปถึงรูปลักษณ์ที่สง่างามของนักแสดงหนุ่มแต่ละราย ที่พูดได้เลยว่า
ไม่มีใครแพ้ใครเลยทีเดียว ทีนี้ก็แล้วแต่คุณสาวๆ จะเลือกเอาแล้วกัน ว่าชอบคนไหน
และโดนใจใครเป็นพิเศษ ก็ว่ากันไป…
