ชนวนศึกสาปแช่งให้นอนคุก! “เปิ้ลไอริณ” ย้อนเวลาได้จะไม่สาปแช่งใคร เผยคำพูดที่ ใบเตย เคยฝากมาให้
หลังจากที่ถูกชาวเน็ตขุดคลิปเก่าเมื่อ 9 ปีก่อน ที่ เปิ้ล ไอริณเคยให้สัมภาษณ์ถึง ใบเตย อาร์สยาม เมื่อครั้งที่มีดราม่ามีปัญหากันเอาไว้ว่า “ถ้าไม่ยอมขอโทษ ได้ไปนอนหนุนแอร์เมสในตารางแน่นอน ฝากไปบอกเขาด้วย”
ซึ่งเรื่องนี้ ชาวเน็ตต่างมองว่า คำสาปแช่งของ เปิ้ล ไอริณ นั้นศักดิ์สิทธิ์มากๆ หลังจากที่ ใบเตย และ ดีเจแมน พัฒนพล ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ หลังจากที่ถูกส่งฟ้อง ในคดี Forex-3D และศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว โดย เปิ้ล ได้เปิดใจถึงกระแสสังคมที่ชาวเน็ตพูดถึงเรื่องนี้ว่า
จริงๆ แล้วถ้าย้อนกลับไปได้ก็คงจะไม่พูดนะคะ เพราะว่าความรู้สึกของเราตอนนั้น จิตใจของเรามันค่อนข้างจะอ่อนแอ มันหลายเรื่องในตอนนั้น จริงๆ ก็ไม่ได้อยากพูดเรื่องเก่า ถ้าอธิบายว่าทำไมเราต้องพูดแรงขนาดนั้น คือตอนนั้นเราโดนหลายเรื่องมาก ทั้งโดนแคนเซิลงาน โดนผู้ใหญ่โทรมาต่อว่า โดยที่เราไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิด และเปิ้ลเป็นคนไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง เปิ้ลรู้สึกว่าขาดความยุติธรรมในตอนนั้น เปิ้ลขออธิบาย
คือเปิ้ลเป็นคนที่ให้เกียรติคนอย่างที่สุดเลย ไม่เคยเรียกยามว่ายาม เรียก รปภ. ทุกคน แม่บ้านก็จะเรียก พี่คะๆ ไม่เคยจิกใช้ใคร หรือไม่เคยไม่ให้เกียรติใครเลย เป็นคนที่มองเรื่องการให้เกียรติคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเปิ้ลเลย
แต่ชั่วโมงนั้นรู้สึกว่าโดนหยามเกียรติ โดนไม่ให้เกียรติ ก็ยอมรับว่าใจมันก็ค่อนข้างบางเลยพูดอะไรไปตอนที่เราโมโหอยู่ พอหลายปีผ่านมา ลองมาย้อนดู ก็รู้สึกเรื่องเกียรติยศ หรือศักดิ์ศรี มันก็คืออัตตา ตัวตน เรามายึด เรามาถือมันก็หนัก ตอนนี้สำหรับเปิ้ล ถ้าย้อนกลับไปได้ก็ไม่คิดพูด ไม่สาปแช่งใคร อยากให้ส่งพลังงานดีๆ ให้กับคนมากกว่า
คิดว่าตัวเองปากศักดิ์สิทธิ์มั้ย เปิ้ลคงไม่กล้าอ้างว่าตัวเองเป็นคนพูดอะไรแล้วศักดิ์สิทธิ์หรอก แต่เชื่อในหลักฟิสิกส์ ควอนตัม เชื่อในกฎวิทยาศาสตร์ว่าอะไรก็ตามที่พอเราพูดออกไปจากหัวใจด้วยพลังงานเพียวๆ มันก็จะส่งผลให้เป็นเรื่องจริง
เราเป็นคนที่ค่อนข้างรักษาศีล เปิ้ลพยายามไม่มุสา และใช้ปากในการสวดมนต์ทุกคืนตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยไม่สวดมนต์เลยสักคืน เหมือนกับเราใช้ปากเราท่องคาถามั้ง แล้วเวลาที่เราใช้ชีวิตประจำวันก็พยายามไม่พูดคำหยาบอะไร เราเลยคิดว่าอาจจะมีส่วนที่ทำให้เวลาเราพูดอะไรแล้วมีพลัง เปิ้ลเชื่อเรื่องพลังงานมากกว่าไปเชื่อเรื่องงมงายค่ะ
จริงๆ แล้วหลายๆ คนไม่เคยรู้เลยว่าเขาเองก็ขอโทษเปิ้ลเป็นนัยๆ แล้ว เขาฝากขอบคุณผู้จัดการเปิ้ล ว่าถ้าไม่ได้พี่เปิ้ลช่วงนั้นเขาก็อาจไม่เปรี้ยงก็ได้ คือเขาฝากผู้จัดการเปิ้ลมาพูดแล้ว เปิ้ลก็ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ตัวเปิ้ลไม่ชอบเห็นใครโดนซ้ำเติม และเปิ้ลจะไม่ทำอย่างนั้นกับใครด้วย
ส่วนที่จะไปตัดสินใคร ว่าใครเป็นอย่างไร มันเกินสิทธิ์เปิ้ลที่จะไปก้าวล่วง ตอนนี้เปิ้ลไม่มีอะไรกับใคร ใฝ่หาความสงบ อยากจะเดินหน้าทำงานของตัวเองต่อไป อยากทำอะไรให้สังคม เพลงใหม่ที่ทำออกมาก็อยากส่งพลังงานดีๆ ให้กับผู้คน เราอยากเป็นตัวอย่างให้กับผู้คน ไม่อยากส่งอะไรที่ทำให้คนทุกข์ เพราะรู้ว่าผู้คนต้องการกำลังใจ
เราอยากส่งกำลังใจให้ผู้คนมากกว่า ถ้าย้อนกลับไปได้ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะ ทุกหลายคอมเมนต์เปิ้ลอ่านหมด สำหรับคนที่เขียนถึงเราในแง่บวก รู้สึกซาบซึ้งจริงๆ 30 ปีที่อยู่ในวงการมา ปีนี้เป็นปีที่เปิ้ลได้เห็นคอมเมนต์อะไรดีๆ เกี่ยวกับตัวเองเยอะมาก จนเราไม่กล้าส่งพลังงานไม่ดีออกไปให้ผู้คนเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายค่ะ
เรื่องคนเข้าข้างใครน้อย ใครมาก พูดจากหัวใจไม่เคยใส่ใจเลยจริงๆ เปิ้ลอยู่ในวงการ หลายคนชอบบอกว่า ตอนนั้นเปิ้ลไม่ดัง ตัวเปิ้ลไม่ได้ปรารถนาที่อยากจะดังอะไรเลย พอเราดัง การที่ทำให้คนมารักและลุ่มหลง มันคือกิเลสอย่างหนึ่ง แล้วเขาต้องยกความรัก ความศรัทธาของตัวเขามาให้เรา เปิ้ลอยากให้ทุกคนรักตัวเอง ศรัทธาตัวเองมากๆ เพราะสุดท้ายเวลาที่เราเศร้า ตัวเราเองนี่แหละที่เป็นคนปาดน้ำตาตัวเอง
ขอบคุณทุกๆ คนจากหัวใจ ปีนี้เป็นปีที่เป็นสีสันและเปลี่ยนชีวิตเปิ้ลให้ไม่เหมือนเดิม จำตัวเองเวอร์ชันเดิมไม่ได้แล้ว รู้สึกว่าตัวเองได้พัฒนาจิตวิญญาณ และความคิดได้เยอะมากๆ ต้องขอบคุณทุกปัญหาและอุปสรรค ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเปิ้ล เพราะทุกคนคือครูของเปิ้ลค่ะ ขอบคุณนะคะ
