วันที่ 19 มีนาคม 2562 นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ ผู้บริหารบริษัทมิวสิค บั๊กส์ จำกัด ซึ่งเป็นคู่ความในคดีพิพาท กับนักร้องชื่อดัง หนุ่ม กะลา อายุ 37 ปี ให้สัมภาษณ์พร้อมกับทนายความ ภายหลังเมื่อช่วงเช้าร่วมเข้าฟังการพิจารณา ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง หนุ่ม วงกะลา เป็นจำเลย เรื่อง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ซึ่งศาลนัดสอบคำให้การจำเลยในวันนี้และคดีที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ รวม 19 สำนวน
โดยทนายความของนายชนินทร์ กล่าวว่า ทางบริษัทมิวสิค บั๊กส์ ยังได้ยื่นฟ้องแพ่งอีก 2 สำนวน สำนวนแรกฟ้อง บริษัท จีเอ็มเอ็มฯ และหนุ่ม วงกะลา เป็นคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดลิขสิทธิ์ นำเพลง “ยาม” ของลาบานูนไปร้องถึง 44 ครั้ง, สำนวนที่ 2 ยื่นฟ้องบริษัท จีเอ็มเอ็มฯ กับวงบิ๊กแอส กรณีที่นำเพลงลิขสิทธิ์ เพลง “ก่อนตาย” ไปร้องเพื่อประโยชน์ รวม 28 ครั้งด้วย โดยก่อนหน้านี้เราเคยไกล่เกลี่ยกันไปแล้วในชั้นศาลตามคำชี้แนะของศาล เพราะศาลเห็นว่าคดีประเภทนี้น่าจะตกลงกันได้
ซึ่งมูลค่าความเสียหายทางแพ่งในส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “ยาม” 44 ครั้ง เราเรียกค่าเสียหายครั้งละ 1 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 44 ล้านบาท สำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ก่อนตาย 28 ครั้ง บริษัทได้เรียกค่าเสียหายครั้งละ 1 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 28 ล้านบาท ซึ่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศได้นัดติดตามผลการไกล่เกลี่ยทั้ง 2 สำนวนอีกครั้งวันที่ 18 เมษายนนี้
ขณะที่ หนุ่ม กะลา กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดพร้อมในคดีที่ถูกฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์ทั้ง 19 สำนวน ซึ่งตนได้ให้การยอมรับผิด ศาลจึงพิพากษารอการกำหนดโทษ 1 ปี โดยในระหว่าง 1 ปีนี้ห้ามกระทำผิดซ้ำ ในส่วนของคดีอาญาวันนี้ถือว่าสิ้นสุดทั้งหมดแล้ว สำหรับคดีที่เหลืออีก 20 กว่าคดีเป็นเรื่องทางแพ่งต้องรอศาลนัด ตนชัดเจนรับสารภาพทั้งหมด แต่เรื่องค่าเสียหายทางแพ่งค่ายเพลงต้นสังกัดจะเป็นผู้ดำเนินการเจรจาแทน ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องระวังเรื่องการร้องเพลงแล้ว เพราะตนหยุดเล่นเพลงนี้ตั้งแต่ทราบเรื่อง และอยากขอบคุณแฟนเพลง ทุกกำลังใจ พี่ ๆ ในค่าย ที่ทำให้เราเข้มแข็งและเดินทางมาถึงวันนี้
