The Third Wife ที่โด่งดังในระดับสากล และกวาดรางวัลในเวทีต่าง ๆ มากมาย กลับถูกถอดออกจากโรงฉายที่ประเทศเวียดนามบ้านเกิด จากประเด็นที่หนังมีบทของนักแสดงเด็กวัย 12 ปี ที่ต้องเล่นฉากเลิฟซีนกับผู้ใหญ่นั่นเอง
หลังตระเวณฉายในเทศกาลหนังนานาชาติมาทั่วโลก ในที่สุดหนังเวียดนามเรื่องดัง The Third Wife ก็ได้เข้าฉายที่บ้านเกิดแล้ว แต่สุดท้ายหนังดังแห่งปีของเวียดนามกลับถูกถอดออกจากโรงฉายอย่างรวดเร็ว เพราะประเด็นที่ว่าหนังใช้นักแสดงเด็กวัยแค่ 12 ปี มารับบทที่ต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนักแสดงผู้ใหญ่ จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ในแง่ลบออกมา
The Third Wife เล่าเรื่องของเด็กสาววัย 14 ปี ที่ต้องแต่งงานกับเจ้าของที่ดินผู้ร่ำรวย จนกลายเป็นภรรยาคนที่ 3 ของชายที่อายุสูงวัยกว่าเธอมาก โดยในเรื่องเด็กหญิงวัย 12 ขวบ เหงียวนเฝื่องจ่ามี ต้องมารับบทเป็นเด็กสาววัย 14 ปี ซึ่งจากชื่อเสียงความโด่งดังในการไปฉายในต่างประเทศทำให้คนเวียดนามสนใจหนังเรื่องนี้กันมาก จนสามารถทำเงินได้สูงถึง 4,000 ล้านดง หรือ 5.3 ล้านบาทกันเลยทีเดียว จากการฉายในระยะเวลาไม่ถึงสัปดาห์
แต่แล้วประเด็นเรื่องความไม่เหมาะสมสำหรับการให้เด็กมารับบทที่อื้อฉาว กลับทำให้ The Third Wife ตกเป็นที่วิจารณ์อย่างรุนแรง จนหนังถูกถอดจากโรงไปในที่สุด และส่วนใหญ่คนที่ไม่เห็นด้วยต่างชี้นิ้วโจมตีไปที่ผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 12 ปี ว่าปล่อยให้ลูกสาวมารับบทแบบนี้ได้อย่างไร
สำหรับตัวของ เหงียวนเฝื่องจ่ามี ที่ปัจจุบันอายุ 15 ปี แล้ว เจ้าตัวรู้สึกผิดหวังกับกระแสวิจารณ์มาก และเธอยังเชื่อว่าตนเองกับทีมงานผู้สร้างหนังควรจะได้รับเสียงชื่นชมที่สามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพออกมาได้ด้วยซ้ำไป“ฉันรู้สึกเศร้านิดหน่อย เสียใจกับนักแสดงคนอื่นในหนังด้วย ถ้าเป็นประเทศอื่นผู้ชมคงชื่นชมเรา ทีมงานทุกคนหวังกันมาตั้งแต่ต้นว่าอยากทำหนังเรื่องนี้ให้คนเวียดนามชม เราไม่สนใจเรื่องเงินด้วยซ้ำไป แต่อยากให้หนังได้ฉายที่เวียดนามจริง ๆ แต่ตอนนี้หนังถูกถอดออกจากโปรแกรมทั้ง ๆ ที่เข้าฉายได้แค่ไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำไป”
ขณะที่แม่ของ เหงียวนเฝื่องจ่ามี ก็ได้ให้สัมภาษณ์เช่นเดียวกัน เพราะเธอเองก็ตกเป็นเป้าวิจารณ์ไม่แพ้ลูกสาว “จริง ๆ แล้วนักวิจารณ์มืออาชีพชื่นชมหนังเรื่องนี้มาก มีแค่เสียงตำหนิจากผู้ชมนิดหน่อยเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าทำไมมาโฟกัสกันแค่จุดนี้ ทั้ง ๆ ที่คนในต่างประเทศชื่นชมหนังเรื่องนี้มาก เราเคยดีใจกันมาก ๆ ที่มีผู้ชมจากต่างประเทศมารอเราเป็นชั่วโมงเพื่อขอลายเซ็น แต่ตอนนี้นี้กลับมาบอกว่าลูกสาวของฉันคงไม่ได้เติบโตไปอย่างปกติ และมีความสุขแน่ ๆ ไม่รู้ว่าทำไมดูถูกการตัดสินใจของเราแบบนั้น”
เช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อที่บอกว่าเขาชื่นชมการแสดงอันทรงพลังของลูกสาว และมองว่าคนวิจารณ์หนังในแง่ลบมองโลกในแง่ร้ายเกินไป “ไม่รู้ว่าคนวิจารณ์นึกถึงหัวอกของนักแสดง และครอบครัวของพวกเขาบ้างรึเปล่า? หรือว่าแค่คอมเมนต์โดยไม่สนใจอะไรเลยว่าจะทำร้ายจิตใจเด็กแค่ไหน ผมได้แต่หวังว่า The Third Wife จะได้ฉายในวงกว้าง เพราะผู้ชมจะไม่ได้แค่รับความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังจะได้สัมผัสถึงคุณค่าทางศิลปะของหนัง และการที่หนังนำเสนอวัฒนธรรมของเราให้ประเทศอื่นๆ ได้เห็นไม่ใช่แค่เอาแต่สนใจกันเกี่ยวกับประเด็นของนักแสดงเด็กคนหนึ่งเท่านั้น”
by TVPOOL ONLINE





