บุ๋ม ปนัดดา เปิดโปง เต้ มงคลกิตติ์ เคยประกวดโดมอนแมน ไม่อยากเป็นดารากลัวเสียตัว!!

ต้องบอกเลยคะว่าแซ่บต่อเนื่องกับรายการ “เรื่องลับมาก” โดยมีพิธีกรคนเก่ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” มาพร้อมสโลแกน “เรื่องไม่ลับบุ๋มไม่คุยด้วย” โดยในวันนี้ พบกับแขกรับเชิญ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” หรือ “เต้ พระราม 7” ที่พร้อมมาเผยเรื่องลับๆ กันทุกซอกทุกมุม จะว่าอย่างไรบ้างมาดู?

การเป็นส.ส. เหมือนหรือต่างจากที่ฝันเอาไว้?
“มีหลายอย่างในการทำหน้าที่ เราก็ทำหน้าที่ร่วมกับเพื่อนส.ส.อีกหลายคน มีทั้งเรื่องตั้งใจทำ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีขั้นตอนตามระบบระเบียบกฎเกณฑ์มีฝักมีฝ่าย มีความต้องการของประชาชน ใช่ว่าเราจะทำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์”

ที่คุณตั้งใจต้องคิดเยอะ?
“ใช่ และต้องใช้เวลา กระบวนการต่างๆ ต้องมีขั้นตอนระเบียบแบบแผน ตามระบบราชการ”

ฤทธิ์เดชเขี้ยวเล็บหายไปมั้ย?
“วิธีการทำให้ผมทำงานได้ง่ายไม่ติดระบบราชการ หรือระบบวิป ผมเลยจำเป็นต้องออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ผมทำงานง่ายขึ้นไม่ต้องเกรงใจเพื่อนพ้องน้องพี่มากเกินไป มันมีสองอย่างถ้าจะทำห้พี่น้องประชาชนรักมากๆ ต้องทำให้สำเร็จ ทำด้วยความจริงใจแต่อาจไปขัดผลประโยชน์ระบบราชการ ขัดผลประโยชน์พวกพ้อง เราต้องเลือกระหว่างประชาชนและเพื่อนพ้องพรรคพวก เพราะฉะนั้นผมเลือกเป็นตัวผมดีกว่า ผมตั้งใจมาเป็นผู้แทนราษฎร ผมต้องเลือกประชาชนเป็นหลัก ส่วนพวกพ้องเพื่อนๆ จะไม่รักหรือไม่รักก็ไม่เป็นไร ผมขัดผลประโยชน์ก็ต้องขอโทษด้วย มีความจำเป็นต้องขัด ต้องแย่งผลประโยชน์จากคนบางกลุ่มมาให้พี่น้องประชาชน มันจำเป็นต้องทำ”

สมัยโจ๋ๆ เขาว่าเรี่องฉาวโฉ่ที่สุดของคุณ โม้เป็นนักเลงโต ตีกับสถาบันโน่นนี่นั่นเป็นเรื่องมโนทั้งสิ้น?

“ไม่ได้มโน มีส่วนจริงเกิน 50 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ที่เหลืออาจพูดด้วยความมันส์ตอนไลฟ์สด เรื่องจริงอาจโหดร้ายยิ่งกว่าที่ผมพูดก็ได้ ซึ่งบางทีมันพูดไม่ได้ ไม่ได้โม้ซะเยอะ มีความจริงอยู่ในนั้นพอสมควร”

ซุกกระโปรงผู้หญิงมาจากไหน?
“เวลามีเรื่องเราก็ให้ผู้หญิงช่วย แต่ผู้หญิงจะมาช่วยได้ยังไง มีแค่สมัยหนึ่ง ผมสู้ไม่ได้ ให้พี่สาวช่วย พี่สาวคบวัยรุ่นเกกมะเหรกเกเรมาช่วยกัน มันเป็นระบบการคุ้มครอง”

เป็นเด็กเกเรคนหนึ่ง?
“ไม่ใช่ เป็นเด็กเรียบร้อย เด็กเรียน มาเกเรบ้างหลังมาอยุกรุงเทพ ตอนอายุ 15”

เที่ยวผับ เที่ยวกลางคืน?
“พอใช้ได้อยู่ประมาณ 3 ปี”

ถึงขนาดติดคุกเลย?
“คืนเดียวเอง สมัยนั้นกฎหมายห้ามวัยรุ่นเที่ยวกลางคืนต่ำกว่าอายุ 18 เราอายุ 15 ไปเที่ยวกับเพื่อน ตร.มาตรวจกันเต็มเลย เขาตรวจฉี่ เพื่อนฉี่ม่วงแต่เราไม่ได้ฉี่ม่วงเราดื่มเหล้าธรรมดา ตร.พาไปสน.มักกะสัน 3-4 ชม. เผอิญมีรุ่นพี่ไปประกันตัวให้ เราไม่อยากให้ใครรู้เรื่องเยอะ เราเป็นเด็ก ก็มาบอกพ่อแม่ทีหลัง หลังเหตุการณ์เกิดไปหลายเดือนแล้ว ไม่ใช่คุกเป็นห้องขังชั่วคราว แล้วประกันตัวออกมา อีกสองวันก็มาเที่ยวต่อเหมือนเดิม เพราะเพื่อนๆ เขาเที่ยวกันหมด ถ้าเราไม่เที่ยวเดี๋ยวเพื่อนไม่คบไง”

ทุกวันนี้ยังออกกำลังกายอยู่มั้ย?
“ทุกวันนี้ไม่ได้ออก มันเลิกดึก อยากให้ท่านชวนเปลี่ยนเวลาเป็ปกติ แปดโมงเช้าเลิกห้าโมงเย็น ไม่ใช่เข้าบ่ายโมงเลิกสามสี่ทุ่ม เพื่อนๆ ผมอายุ 70-80 จะไม่ไหวกัน ความดันขึ้น หัวใจหยุดเต้นจะมีปัญหากันหมด ท่านชวนก็อายุมากแล้ว น่าจะเปลี่ยนมาเป็นเวลาปกติ”

ทำไมชอบเพาะกาย?
“เมื่อก่อนตัวเล็ก ผอมสูงแต่สู้คนอื่นไม่ได้ เราก็ทำให้ร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ทำตัวเองให้ใหญ่ขึ้น หน้าอกใหญ่ขึ้น มีกล้าม เวลามีเรื่องกับใคร เขาเอาไม้มาฟาดหลังจะได้มีความอดทนกว่าเพื่อน”

ไม่ได้อยากเป็นนายแบบ ถึงขนาดเข้าประกวดโดมอนแมน?
“ถ้าประกวดแล้วได้ตังค์ก็โอเค ตอนนั้นน่าจะอายุ 15 เมื่อก่อนผอม แต่ตอนอยู่ปีสองปีสามปริญญาตรีแล้วผมออกกำลังกายวันละสามชั่วโมง วันๆ ไม่ทำอะไร เรียนก็เข้าเรียนบ้างไม่เข้าบ้าง เขาไม่ได้เช็กชื่อ เน้นอ่านหนังสือเอา เราก็อยู่ยิมตลอด ผมเน้นเป็นนักกีฬา เอาไว้โชว์สาวด้วยนิดหน่อย เวลาว่ายน้ำจะได้สนุกๆ”

เข้ารอบไหน?
“แค่คัดเลือกรูปผ่านก็จบแล้ว เราก็ตกรอบตั้งแต่ต้นๆ แล้ว สมัยนั้นต้องอาศัยหลายๆ อย่าง”

มีคนชักชวนคุณเข้าวงการ?
“เพื่อนผมเป็นดารากันหมด แต่เพื่อนผมต้องไปอยู่กับโมเดลลิ่ง ผมก็รู้สึกไม่ดี”

กลัวเสียตัวเหรอ?
“ก็ใช่ไง เสียตัวกับผู้ชายด้วยกัน ก็กระไรอยู่นะ ผมเช็กเพื่อนผมแล้วที่เข้ารอบเกือบทุกคน บางคนเฉพาะกลุ่มที่รู้จักนะ อย่าไปเหมาทั้วงการก็คงไม่ได้ เพื่อนผมก็ได้รถมาขับ ได้ครบ แต่ต้องเสียความเป็นนชายก็ไม่ไหวนะ เสียให้ผู้ชายไม่ไหว รับไม่ได้ แต่พื่อนผมรับได้ เขาก็ได้เติบโตไป”