สำหรับ “ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล” หลังลูกชายคนเดียว “โตน รามบุตร บริบูรณ์เวช” จากไปอย่างไม่มีวันกลับในวัยเพียง 39 ปี ด้วยโรคมะเร็ง โดยเจ้าตัวได้ออกมาเผยเรื่องราวดังกล่าว ผ่านทางรายการคุยแซบSHOW ยอมรับว่าเตรียมใจทุกวัน และห้ามลูกชายมีลูก เพราะกินยาเยอะโดยก่อนหน้านี้ลูกชายเธอป่วยด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งกว่าจะตรวจพบและรักษาตัว ก็ตอนที่รู้ว่าเป็นขั้นที่ 4 แล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาของการรักษา “ต่าย เพ็ญพักตร์” ได้ทำหน้าที่ดูแลลูกชายคนเดียวของเธออย่างใกล้ชิดมาตลอด ในชีวิตนี้มีกันแค่สองคนแม่ลูก เพราะตัวเธอเองก็ใช้ชีวิตโสดมาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ตราบจนสิ้นลมหายใจสุดท้ายของลูกชาย เธอยังคงทำหน้าที่คุณแม่ได้อย่างงดงามและเข้มแข็งมาก ๆ
ซึ่งทางด้านของ “ต่าย เพ็ญพักตร์” ได้โพสต์ข้อความผ่านไอจีระบุว่า “ทุกสิ่งเกิดขี้น ตั้งอยู่ และดับไปไม่มีคำว่า “ตลอดไป” ในโลกนี้…. ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งมานะคะ” “ลูกชายจากไปเกือบจะปีแล้วค่ะ ทุกคนต้องเจอเกิดแก่เจ็บตาย แต่ในมุมของเรามองในหลักความจริง เสียใจค่ะ แต่เราบอกเขาตั้งแต่วันที่รู้ว่าเป็นว่าต้องดูแลตัวเองให้ดี ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ยาวกว่านี้ แต่จำไว้อย่างนึงว่าโรคนี้ไม่มีทางรักษาหาย วันนึงก็ต้องเสีย”
“เราว่าประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตที่ผ่านมา ทำให้เรามองและคิดแบบนี้ เราเจออะไรที่ทั้งดีและไม่ดีมาเยอะมาก เพียงแต่ว่าไม่ได้เอาสิ่งพวกนั้นมาทำให้เราแย่ลง ทุกสิ่งที่เราเจอ เราเป็นคนเปิดประตูให้สิ่งพวกนี้เข้ามาในชีวิต มันทำให้เราแข็งแกร่ง ทำให้เรามองทุกสิ่งในความเป็นจริง
ตั้งแต่วันที่รู้ว่าเป็นโรคร้ายจนถึงวันนั้นก็อยู่มาได้ 3 ปีค่ะ ตอนรู้ครั้งแรกเป็นระยะที่ 4 แล้ว ชีวิตวัยรุ่นของเด็กผู้ชายก็ใช้แบบปกติทั่วไป เขาไอเยอะมากจนเราบอกว่าต้องไปตรวจ ตอนที่รู้เราไม่ช็อก เห็นอาการเขาเราเสิร์ซเข้าไปในกูเกิลว่าอาการนี้น่าจะเป็นอะไร”
“กับลูกชาย เราเลี้ยงกันแบบเหมือนเพื่อน มีอะไรเราคุยกัน เราบอกเขาตลอดเวลาว่า ทำอะไรที่เธออยากทำแล้วมีความสุข เราบอกเขาแค่นี้
เขาก็ทำเพราะไม่รู้ว่าจะไปวันไหนเมื่อไหร่ มันเหมือนเป็นสิ่งที่ทำให้เราเตรียมใจมาตลอดทุกวัน ว่าวันนึงคำว่าตายจากกันมันต้องมี จนวันเผาเราน้ำตาไหล บอกให้เขาไปสู่ภพภูมิที่ดี เป็นวันเดียวที่มีน้ำตา”
เลือกที่จะไม่ปั๊มหัวใจลูกชาย
“ใช่คะ เราคุยกันแล้วว่าไม่ปั๊ม เราดูก็รู้แล้วมันเป็นสัญญาณว่าวีกนี้น่าจะไป เราคุยกันมาตลอดตอนที่ทุกอย่างเขายังดีๆ บอกว่าไม่ต้องห่วงแม่ เรายื้อเขาไปมันก็ไม่ใช่ความจริง เขาอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ สื่อสารกับเราไม่ได้แล้ว”
“ถามว่าทำใจยังไงเพราะเขาเป็นลูกคนเดียว สำหรับเรามันไม่ได้ยาก เรามองในความจริงในสัจธรรม ถ้าเรายื้อเขาไปแก่นแท้ของเรามีความสุขจริงๆ หรือปล่า ลึกๆ มันไม่มีความสุข เรารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่อยู่แล้ว ทุกอย่างมันเป็นความจริงเรายึดหลักสัจธรรมเกิดแก่เจ็บตาย เวลาคิดถึงลูกก็พูดกับอากาศไป เราคิดว่าเขาน่าจะมีความสุขที่เขาได้ไปในจุดที่เขาอยากไป” ครองโสดมา 20 ปี เมื่อถามว่ามีหนุ่มๆ มาดูแลบ้างไหม เจ้าตัวก็ยอมรับอยากมีมากแต่ไม่มีใครเข้ามาเลย
“อยากให้มีมากเลยแต่ไม่มี น่าจะเพราะว่าเราปิดที่จะมีใครสักคนเข้ามาหาเรา ชีวิตเราไม่ได้ออกไปไหนอยู่กองถ่ายทั้งวัน มันก็ไม่เจอใคร วงจรเราอยู่แต่กองถ่าย พอวันหยุดก็อยู่บ้าน โสดมาเกือบ 20 ปีแล้ว เราว่าเราผ่านความรักมาเยอะ ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่เราจะไม่โทษใคร เราบอกตัวเองว่าเวลาเรามีแฟนหรือไม่มี เราก็ใช้ชีวิตปกติ เราก็ยังทำมาหากินโดยตัวเราเอง ไม่มีเลยดีกว่า ไม่มีมันก็โอเคกว่า มีแล้วชีวิตเราก็ไม่ได้เปลี่ยน อาจจะมีเพิ่มขึ้นมานิดนึง
by TVPOOL ONLINE




