ในประเทศไทยเวลานี้มีเรื่องแรงที่ประชาชนสนใจมากที่สุดอยู่ 2 เรื่องคือ โควิด-19 ระลอกใหม่ที่กลืนกินคนไทยกว่าหมื่นคนและทยอยตายไปวันละหลายศพ ในอีกไม่กี่เดือน สรยุทธ สุทัศนะจินดา จะออกจากคุกแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ระหว่างช่อง 3 กับช่อง7
เหตุผลที่บอกว่าจะไปอยู่ไหนระหว่างช่อง 3 กับช่อง 7 ก็เพราะเวลานี้ “นาย” สายตรงของสรยุทธและหุ้นส่วนบริษัทไร่ส้มจำกัดและบริษัทชัดถ้อยชัดคำจำกัดที่พิธีกรกร้าวคนดังเป็น CEO อยู่…ได้ถอนสมอออกจากช่อง 3 ไปแล้ว
ฟังไม่ผิดครับ “ไบรอัน” ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ “มาลีนนท์” มามากกว่า 20 ปี สิ้นปี 2563 เขาปัดตูดออกจากช่อง 3 ไปแล้ว ไปโดยควักกระเป๋าซื้อหุ้นของ BEC-TERO จำกัด (มหาชน) จากช่อง 3 ที่ถืออยู่ 60% (ไบรอันถือหุ้นบริหาร 40%) ตกลงช่อง 3 ขายให้ไบรอัน 15 ล้านบาท
ทำไม ไบรอัน ต้องออกจากช่อง 3… นี่คือเรื่องที่คนในวงการสงสัยมากๆ ตามกระแสข่าวคือ…บริษัทบีอีซี-เทโร จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารของไบรอัน เมื่อสิ้นปี 2563 เทโร ขาดทุน เมื่อขาดทุนก็ต้องตัดออกไป…ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เช่นนั้น ประเด็นหลักคือไบรอันกับผู้บริหารระดับสูงของช่อง 3 มีการ “…..” กันนิดหน่อยในเรื่อง “ส่วนตัว” และเรื่อง “น้ำใจ” … เรื่องนี้ใครรู้ความจริง ใครเป็นไบรอันก็ต้องออก
เพื่อบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น ขอออกเงียบๆ เพราะอยู่ต่อไปก็รังแต่ช้ำหัวใจ โดยเฉพาะผู้บริหารช่อง 3 ยุคใหม่ 3 หญิง รัตนา-อัมพร-นิภา ซึ่งไบรอันสนิทกับ”มาลีนนท์” ผู้ชายมากกว่า (ประสาน-ประวิทย์-ประชา-ประชุม)… เขาจึงตัดสินใจ ถอยดีกว่า…ไม่เอาดีกว่า…”ไบรอัน” ไปเจรจาทั้ง PPTV …ทั้ง TRUE และท้ายสุด มาลงเอยที่ช่อง 7 สี
ตอนอยู่ช่อง 3 ไบรอัน มีรายได้หลักอยู่ 3 แหล่งคือรายการทีวี ลิขสิทธิ์ และขายบัตร…อยู่ชายคาช่อง 3 เขาถูกให้ปลุก “เวลาเน่า” ขึ้นมาให้เป็นเงินให้ได้ “เวลาเน่า” คือเวลาที่ไม่ทำเงิน-ไม่มีคนดู ช่อง 3 พยายาม ปรับอย่างหนักแต่ไม่เคยประสบผลสำเร็จ “ไบรอัน” รับอาสาเอา “เวลาเน่า” มาเจียรนัย โดยดึงสรยุทธ สุทัศนะจินดา จากช่อง 9 มาประเดิมรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ปรากฏว่ากรุสมบัติแตก!! รายการฮอทระเบิด โฆษณาวิ่งเข้าไม่หยุดหย่อน ปีแรกสามารถทำเงินให้เทโรเป็น 100 ล้าน กำไรทุกๆปี บางปีทะลุถึง 8 ร้อยล้าน
โอ้แม่เจ้า…จากนั้นก็ขยายมา “ปรับเวลาเน่าภาคกลางคืน” คือเวลาหลังเที่ยงคืน ที่วงการทีวีเรียกว่า “เวลาตาย” ทำอย่างไรก็ไม่มีใครดู มีแต่ทีวีไดเร็ค เหมาไปขายของ…“นายใหญ่” ส่งโจทย์ยากให้ “ไบรอัน” เช่าเวลาภาคดึก-ทำรายการ “ข่าววันใหม่” ผีจับยัดอีก รายการข่าวภาคดึกไม่ทำให้ผิดหวัง เรตติ้งกระฉูดขายโฆษณา “เรื่องเล่าเช้านี้” พ่วง “ข่าววันใหม่” รายได้ก็อู้ฟู่
BEC-TERO เดิมชื่อ World media Supply ก่อตั้งเมื่อปี 2537(26 ปี) เปลี่ยนชื่อเป็น BEC-TERO เมื่อช่อง 3 เข้ามาซื้อหุ้น เมื่อปี 2541 (22ปี) เปลี่ยนชื่อล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2563 เป็น TERO Entertianment โดยมี ไบรอัน มาร์คาร์ เป็นผู้ถือหุ้นคนเดียว เขาก็นำพาพลพรรคจากช่อง 3 ไปซบช่อง 7 สี โดยเข้าบริหาร Matcing Stotio ซึ่งช่อง 7 สี ซื้อมาจาก ตี๋ แมชชิ่ง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Matcing Moximize Solution จำกัด (มหาชน) ซึ่งไบรอันจะไปดูแล
ส่วนบริษัทในเครือที่ ไบรอัน ดูแล(รายการทีวี) บริษัท Have a good dream (แชมป์กระทะเหล็ก) จะเห็นได้ว่าไบรอัน-สัมพันธ์กับช่อง 7 สีมานาน บริษัทไร่ส้ม บริษัทชัดถ้อยชัดคำ (หุ้นกับสรยุทธ) มี รายการเรื่องเล่าเช้านี้ เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ เรื่องเด่นเย็นนี้ , จับเข่าคุย (ประเภท-รายการอีเวนท์) จัดโชว์จากต่างประเทศล้วนยิ่งใหญ่มหากาฬของประเทศ-เวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ อาชีพหลักดั่งเดิมของไบรอัน รายได้เป็นกอบเป็บกำตลอดมา (ประเภทธุรกิจเพลง) วิทยุเวอร์จิ้นเรดิโอ สถานีวิทยุอันดับ 1 ของประเทศไทย ค่ายเพลงโซนี่ (มีลิขสิทธิ์เพลงสากลมากที่สุดในไทย) ค่ายเพลงเบเกอรี่ ค่ายเพลงเลิฟอิส(หุ้น บอย โกสิยพงษ์) (ประเภท-ขายบัตรผ่านประตู) หุ้นกับกลุ่มเมเจอร์ คือไทยทิกเก็ตเมเจอร์ (รวยระเบิดระเบ้อ) และบริษัทกีฬาทำทีมฟุตบอลอีก-ด้วยภาพของไบรอันจึงมหากาฬไม่ธรรมดาเลย
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ถูกพิพากษา 6 ปี เกือบ 7 ปี เพราะทำดีเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักโทษ จึงถูกลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ถ้าตามหลักแล้วเขาจะพ้นโทษในเดือนมีนาคม 2564 ตลอดระยะเวลาที่เขาติดคุก คนที่ดูแลครอบครัวสรยุทธอย่างดีคือไบรอัน มาร์คาร์ ซึ่งถือเป็น “นายสายตรง” ก็ไม่ผิด ออกจากช่อง 9 (รายการถึงลูกถึงคน , คุยคุ้ยข่าว จากเงินเดือน 2 แสนบาท) แต่บริษัทไร่ส้ม ก็ฟันโฆษณาเดือนละเป็น 100 ล้านบาท (จนมีคดีทุจริตถึงขั้นติดคุก) ปี 2550 ไบรอัน ดึงมาทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ด้วยเงินเดือน 5 แสนบาท … บริษัทไร่ส้ม ก็ทำการตลาด ร่วมกับเทโรรับเละ แบ่งเดือนละเป็น 100 ล้านบาท เป็นนักข่าวที่รวยที่สุดเป็นประวัติศาสตร์จนใครๆอิจฉา ดังนั้นเขาจึงนับถือ “ไบรอัน”เสมือนพ่อ” คนหนึ่ง
“เมาคลีลูกหมาป่า”
by TVPOOL ONLINE