ทักษิณ ชินวัตร (เกิด 26 กรกฎาคม 2492) เป็นนักธุรกิจและนักการเมืองชาวไทย นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 23 ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2544 ถึง 2549 เขาดำเนินธุรกิจโทรคมนาคมและการสื่อสาร ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อดีตเจ้าของและประธานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี มีสัญชาติไทยโดยการเกิด ปัจจุบันอาศัยอยู่นอกประเทศและถือสัญชาติมอนเตเนโกร
ปี 2537 ทักษิณเข้าสู่วงการเมืองสังกัดพรรคพลังธรรม โดยการชักนำของพลตรี จำลอง ศรีเมือง ต่อมาก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ในปี 2541 หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปปี 2544 พรรคไทยรักไทยได้รับเสียงข้างมากในสภา จึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยแรก นโยบายเด่นของเขา ได้แก่ การขยายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การลดความยากจนและลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการประกาศสงครามยาเสพติด ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท เขาดำรงตำแหน่งสมัยแรกจนครบวาระสี่ปี ผลการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปปี 2548 ทำให้ทักษิณดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง ด้วยคะแนนเสียงสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ รัฐบาลทักษิณถูกกล่าวหาหลายอย่าง เช่น ละเมิดสิทธิมนุษยชน ฉ้อราษฎร์บังหลวง เป็นเผด็จการรัฐสภา มีผลประโยชน์ทับซ้อน และควบคุมสื่อ ส่วนข้อกล่าวหาของตัวทักษิณเอง ก็มีว่าเลี่ยงภาษี หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตลอดจนขายทรัพย์สินของบริษัทไทยให้นักลงทุนต่างชาติ กรณีขายหุ้นชินคอร์ปเป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงใหญ่โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปี 2549
วันที่ 19 กันยายน 2549 คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ ทำให้ทักษิณพ้นจากตำแหน่ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) คณะรัฐประหารซึ่งแปรสภาพมาจาก คปค. เป็นผู้แต่งตั้ง ทำการอายัดทรัพย์ของทักษิณและครอบครัวในประเทศไทยรวม 76,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเขาร่ำรวยผิดปกติขณะอยู่ในตำแหน่ง ทักษิณเคยเดินทางกลับประเทศไทยครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 หลังพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง แต่หลังจากนั้นอาศัยอยู่ต่างประเทศโดยตลอด เขาถูกตัดสินจำคุก 2 ปีในคดีที่ดินรัชดาฯ ทักษิณเป็นผู้สนับสนุนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในปี 2552 รัฐบาลอภิสิทธิ์เพิกถอนหนังสือเดินทางของทักษิณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้ทรัพย์สินของทักษิณประมาณ 46,000 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน ทักษิณถูกถอดยศพันตำรวจโทเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2558
ประวัติและปฐมวัย
ทักษิณ ชินวัตรเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรคนที่สองในจำนวน 10 คนของเลิศ และยินดี ชินวัตร มีชื่อเล่นว่า “น้อย” ส่วนชื่อ “แม้ว” เป็นฉายาที่เพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 (ตท.10) ตั้งให้
ทักษิณเติบโตขึ้นในหมู่บ้านในอำเภอสันกำแพงจนอายุ 15 ปี ระหว่างนั้นเขาช่วยเหลือกิจการร้านกาแฟและสวนส้มของครอบครัว รวมทั้งขายกล้วยไม้ เมื่ออายุได้ 16 ปี ช่วยบิดาดำเนินการโรงภาพยนตร์ของครอบครัว
ครอบครัว
ยินดี ชินวัตร มารดา เป็นธิดาของเจ้าจันทร์ทิพย์ (ณ เชียงใหม่) ระมิงค์วงศ์[11] ผู้เป็นธิดาในเจ้าไชยสงคราม (สมพมิตร ณ เชียงใหม่)
เขาสมรสกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ หลังลาออกจากราชการตำรวจ ในปี พ.ศ. 2523 และมีบุตรด้วยกันสามคน ได้แก่
น้องสาวคนสุดท้อง ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าสู่การเมืองในปี พ.ศ. 2554 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ต่อมาได้รับลงมติจากสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรี
การศึกษา
ทักษิณ ชินวัตรสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย ปีการศึกษา 2508 และระดับอุดมศึกษาที่โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 (พ.ศ. 2512) และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 26 (พ.ศ. 2516) โดยสอบได้ที่หนึ่งของรุ่น ต่อมา ทักษิณศึกษาต่อในระดับปริญญาโท โดยได้รับทุนของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในสาขากระบวนการยุติธรรม ที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเคนทักกี สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2518 และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตต เมื่อปี พ.ศ. 2521 เขาได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ในสาขาวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2537
การรับราชการและธุรกิจ
ทักษิณเริ่มทำงานในตำแหน่งหัวหน้าแผนกแผน 6 กองวิจัยและวางแผน กองบัญชาการตำรวจนครบาลและรองผู้อำนวยการศูนย์ประมวลข่าวสาร กองบัญชาการตำรวจนครบาล เขายังเคยเป็นอาจารย์สอน ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในปี พ.ศ. 2518–19 ในปี พ.ศ. 2523 ทักษิณเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวหลายอย่างระหว่างรับราชการตำรวจ เช่น ค้าขายผ้าไหม กิจการโรงภาพยนตร์ ธุรกิจคอนโดมิเนียม แต่ล้มเหลว เป็นหนี้สินกว่า 50 ล้านบาท ทักษิณเคยเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยมักเป็นการนำภาพยนตร์ที่เคยได้รับความนิยมกลับมาสร้างใหม่ แต่ส่วนมากไม่ประสบความสำเร็จในด้านรายได้ เช่น ไทรโศก (2524) รักครั้งแรก (2524) โนรี (2525) รจนายอดรัก (2526)
หลังจากการประกอบธุรกิจมาหลายประเภท ทักษิณก่อตั้งบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์ จำกัด (เดิมชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอซีเอสไอ) ในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2526 เพื่อประกอบธุรกิจให้เช่าเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมแก่หน่วยงานของรัฐโดยประสบความสำเร็จอย่างจำกัด แต่ธุรกิจระบบความมั่นคง (SOS) และบริการวิทยุรถโดยสารประจำทางสาธารณะล้มเหลวทั้งสิ้น จากนั้นเขาก่อตั้งบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (เอไอเอส) ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2529
ในปี พ.ศ. 2530 ทักษิณลาออกจากราชการตำรวจ แล้วขายละครเรื่อง บ้านทรายทอง ซึ่งประสบความสำเร็จในโรงภาพนตร์ ในปี พ.ศ. 2531 เขาเข้าร่วมกับแปซิฟิกเทเลซิสเพื่อดำเนินการและจัดจำหน่ายบริการเพจเจอร์ แพ็กลิงก์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างจำกัด แต่ต่อมาเขาขายหุ้นเพื่อไปตั้งบริษัทเพจเจอร์ของตัวเอง ในปี พ.ศ. 2532 เขาเปิดบริษัทโทรทัศน์เคเบิลไอบีซี สุดท้ายบริษัทขาดทุนจนสุดท้ายรวมบริษัทกับยูทีวีของซีพีกรุ๊ป ในปี พ.ศ. 2532 เขาตั้งบริการเครือข่ายข้อมูล ชินวัตรดอตคอม ซึ่งปัจจุบันชื่อ แอดวานซ์ ดาต้าเน็ทเวิร์ค และมีเอไอเอสและทีโอทีเป็นเจ้าของ ธุรกิจของทักษิณหลายอย่างต่อมารวมกันเป็นชินคอร์เปอเรชัน
เข้าสู่การเมือง
ในปี 2537 ทักษิณลาออกจากตำแหน่งประธาน บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น และเข้าสู่ภาคการเมือง โดยพลตรี จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม เป็นผู้ชักชวน หลังการปลดรัฐมนตรีจากพรรคพลังธรรมที่เป็นสายบุญชู โรจนเสถียร อดีตหัวหน้าพรรค ทักษิณได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในเดือนธันวาคม 2537 ในรัฐบาลชวน หลีกภัยและในปีต่อมา เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังธรรมแทนพลตรีจำลอง และดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ในปี พ.ศ. 2539 ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 ทักษิณก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค จนในที่สุดก็ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544
การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 23 โดยดำรงตำแหน่งสองสมัยติดต่อกัน ระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 หลังจากสภาผู้แทนราษฎรครบวาระ และดำรงตำแหน่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยเป็นนายกรัฐมนตรีรวมรักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นระยะเวลา 5 ปี พ.ศ. 222 วัน รวมระยะเวลาเป็นนายกรัฐมนตรี นานเป็นอันดับที่ 5 จาก 29 อันดับ
เกียรติยศและรางวัลที่ได้รับ
- ได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุด จาก สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ประจำปี พ.ศ. 2544, พ.ศ. 2550, พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2555 เขาได้รับการจัดอันดับเป็นนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดอันดับที่ 1
- รางวัล 1992 Asean Business Man of the Year โดย Asean Institute ประเทศ อินโดนีเซีย (พ.ศ. 2535)
- ได้รับการยกย่องให้เป็น บุคคลดีเด่นผู้พัฒนาโทรคมนาคม เพื่อสังคมของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2536 จากสมาคมโทรคมนาคม แห่งประเทศไทย (พ.ศ. 2537)
- ได้รับการยกย่องให้เป็น Asian CEO of the Year จาก นิตยสาร Financial World (พ.ศ. 2537)
- รับพระราชทาน วารสารศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2537)
- รางวัล Outstanding Criminal Justice Alumnus Awards จาก Criminal Justice Center, มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตท สหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2539)
- รางวัล Distinguished Alumni Award จากมหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตท (5 ตุลาคม พ.ศ. 2539)
- รางวัลเกียรติยศจากสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย สาขานักการเมือง พ.ศ. 2540
- รางวัล โลซินเซีย แอปพลิเคชัน อวอร์ด จากองค์การภาพยนตร์ โมชั่น พิคเจอร์แอปพลิเคชัน (พ.ศ. 2546)
- ได้รับการยกย่องให้เป็น นักการเมืองชายดีเด่นแห่งปี จาก กรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประจำปี พ.ศ. 2546
- รางวัล International Forgiveness Award 2004 ซึ่งมอบให้แก่บุคคลที่มีความพยายามมุ่งไปสู่สันติภาพ และสร้างความเป็นเอกภาพ (พ.ศ. 2547)
- ได้รับการยกย่องให้เป็น บุคคลในสังคมไทยที่มีพฤติกรรมน่าชื่นชมยกย่องมากที่สุดในรอบปีในสายตาคนกรุงเทพ จาก กรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประจำปี พ.ศ. 2548
- ได้รับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันเศรษฐศาสตร์แห่งรัสเซีย (Plekhanov Russian Academy of Economics) (พ.ศ. 2550)
- ได้รับการแต่งตั้งเป็น ศาสตราจารย์อาคันตุกะทางด้านธุรกิจของเอเชียและโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยทากุโชกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2550
- รางวัลรัฐบุรุษเอบีแอลเอฟ พ.ศ. 2555
- ได้รับการยกย่องให้เป็น บุคคลที่คนไทยชื่นชอบที่สุด จากยูกอฟ บริษัทวิจัยและสำรวจข้อมูลและความคิดเห็นด้านการตลาดทางอินเทอร์เน็ตแห่งสหราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. 2561
หน้าที่การงาน และ บทบาททางสังคม
- อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ศ. 2518 – พ.ศ. 2519
- รองสารวัตรป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง (พ.ศ. 2519)
- หัวหน้าแผนก 6 กองวิจัย และวางแผนกรมตำรวจ (พ.ศ. 2522)
- อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล (พ.ศ. 2522)
- รองผู้อำนวยการศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ (พ.ศ. 2523)
- รองผู้กำกับการศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ (พ.ศ. 2524)
- ผู้ริเริ่มแนวความคิดพัฒนาการสื่อสารไทยในยุคแรก โดยการส่งดาวเทียมสื่อสารของขึ้นสู่อวกาศเป็นคนแรก และ ให้กำเนิดดาวเทียม “ไทยคม”
- ประธานกรรมการ บริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (พ.ศ. 2530)
- ประธานกรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (พ.ศ. 2533)
- ผู้ก่อตั้งมูลนิธิไทยคม เพื่อสนับสนุนการศึกษาผ่านดาวเทียม ปัจจุบันเปลี่ยนรูปแบบมาเป็น สนับสนุนการศึกษาของเยาวชนในหลายรูปแบบ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กชนบทผู้ยากไร้ มีโอกาสเรียนต่อในท้องถิ่น
- ประธานที่ปรึกษานักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 และ นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 26 พ.ศ. 2537
- กรรมการอำนวยการ สถาบันเอเชียศึกษา ปี พ.ศ. 2538
- กรรมการสภาที่ปรึกษา สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- กรรมการอำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (23 ตุลาคม พ.ศ. 2541)[108]
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- นายกสมาคมชาวเหนือ พ.ศ. 2541
- ประธานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
- ประธานกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (พ.ศ. 2545)
- อาจารย์พิเศษรับเชิญมาบรรยายเรื่องสอนอย่างไรให้ไปถึงฝัน ณ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย พ.ศ. 2546
- ประธานมูลนิธิไทยคม (พ.ศ. 2536) – ปัจจุบัน
- นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549)
- นายกสมาคมกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย
- อาจารย์พิเศษรับเชิญมาบรรยายเรื่องธุรกิจของเอเชียและโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ ตำแหน่งศาสตราจารย์อาคันตุกะ แห่งมหาวิทยาลัยทากุโชกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พ.ศ. 2550
- ประธานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี พ.ศ. 2551
- ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา พ.ศ. 2552 – พ.ศ. 2553
- วิทยากรในงานเสวนาแชร์ประสบการณ์ ทักษิณ ชินวัตร ณ สภาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร พ.ศ. 2555
- วิทยากรในงานสนทนาเป็นการส่วนตัวกับ ทักษิณ ชินวัตร ณ สถาบันนโยบายโลก นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2559
- วิทยากรรับเชิญในงานการบรรยายการแก้ปัญหาความยากจนและการลดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย ณ มหาวิทยาลัยโลโยลา แมรีเมาท์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2559
- วิทยากรรับเชิญในงานสัมมนาทางไกลเรื่อง โควิด-19 และ เศรษฐกิจ (THE POST COVID-19 WORLD is the coronavirus pandemic reshaping the global order?) ผ่านแอปพลิเคชันซูม 11 มิถุนายน พ.ศ. 2563
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ประเทศไทย
- พ.ศ. 2539 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2538 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2544 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)
- พ.ศ. 2545 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ฝ่ายหน้า (ท.จ.ว.)
เขาถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของประเทศไทยทั้งหมด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2562
ต่างประเทศ
- ค.ศ. 2001 –
เครื่องอิสริยยศลำดับสหไมตรี ชั้นสูงสุด ชื่อมหาสิริวัฒน์ จากราชอาณาจักรกัมพูชา
- ค.ศ. 2002 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อะห์หมัด อัล ฟาติห์ ชั้นสอง จากบาห์เรน
- ค.ศ. 2002 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซเทีย เนการา บรูไน ชั้นสูงสุด จากบรูไน
- ค.ศ. 2003 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์โพลาร์สตาร์ ชั้นหนึ่ง จากสวีเดน
- ค.ศ. 2004 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา ชั้นสูงสุด จากเนเธอร์แลนด์
by TVPOOL ONLINE