เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ท็อป ณฐกร” ควงอดีตภรรยา เปิดใจ ดาราชายหลอกสาว คบซ้อน ???

กรณีในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวหญิงสาวที่อ้างว่าโดนดาราชายชื่อดัง มาขอคบหาเป็นแฟนอยู่ 2 ปี แต่มารู้ทีหลังว่ามีครอบครัวแล้ว และภายหลังเกิดมีปากเสียงเรื่องถ่ายรูปเล่น แล้วฝ่ายชายเกิดอารมณ์โมโหทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอจนเกือบตาย สุดท้ายต้องแจ้งความเอาผิดนั้น เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวรายหนึ่งที่อ้างว่าโดนดาราชายชื่อดัง มาขอคบหาเป็นแฟนอยู่ 2 ปี  โดยผู้ชายเซ็กซ์จัดไม่ใส่ถุงยาง มารู้ทีหลังว่าเจ้าตัวมีครอบครัวแล้ว ภายหลังเกิดมีปากเสียงกันเรื่องถ่ายรูปเล่น แล้วฝ่ายชายเกิดอารมณ์ฉุนเฉียวทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอจนเกือบตาย สุดท้ายต้องไปแจ้งความเอาผิด ซึ่งหลังจากมีข่าวออกไป ก็ทำเอาชาวเน็ตอยากรู้หนักมากว่าดาราคนดังกล่าวคือใคร

 

ก่อนหน้านี้ ทางรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ก็ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้ผู้ประกาศข่าวคนดัง ไก่-ภาษิต ได้เล่าว่า “ล่าสุดมีชื่อชัดเจนออกมาแล้วข่าวนี้กลายเป็นคุณ ท็อป-ณฐกร ที่ถูกกล่าวหา เบื้องต้นแหล่งข่าวยืนยันแบบนี้ว่าคนใกล้ชิดกับท็อปบอกว่า ท็อปไม่ได้มีโลกสองใบ ไม่ได้หลอกผู้หญิงคนนี้ศึกษากับผู้หญิงคนนี้คุยกันมาอยู่สองปี ตอนนั้นเลิกกับภรรยาไป แต่พอโควิดกลับมาคุยกับภรรยาและลูกจึงสานสัมพันธ์กันกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง กับผู้หญิงคนนี้ถอยห่างออกมาแล้ว คนที่ไปแจ้งความแล้วเขาก็มาขู่เรียกเงินแล้วเข้ามาด่า”

ยืนยันว่าไม่เคยมีการทำร้ายร่างกาย วันที่เกิดเหตุที่ผู้หญิงคนนี้อ้าง ตื่นขึ้นมาเห็นโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนี้เปิดอยู่แอบเข้าไปดูปรากฏว่าแอบถ่ายรูปและคลิปไว้เยอะมาก จึงกลายเป็นเรื่องแต่ไม่ได้บีบคอ แต่ยังไงเรื่องนี้เป็นคดีความอยู่ สน.โชคชัย”

หนุ่ม ท็อป ณฐกร พร้อมควงอดีตภรรยาอย่าง แพร์ ธัชกร มาเปิดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ผ่าน รายการคุยข่าวเย็น ว่า

ตนขอแยกเรื่องราวทั้งหมดเป็น 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย ตนขอชี้แจงว่าตอนนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย อยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจ อยากให้ได้ข้อพิสูจน์เท็จจริงที่ตรงกันออกมาก่อนแล้วค่อยออกมาพูด

ส่วนเรื่องการคบกันกับผู้หญิงที่ออกมาให้ข้อมูล ยอมรับว่าคบกันจริงแต่คบกันหลังจากลดสถานะกับภรรยาแล้ว เป็นการคบกันแบบเปิดเผย ไม่ได้ซุก ไม่ได้มีโลกสองใบ เหตุการณ์การทำร้ายกันในห้องพักขอปฏิเสธว่าไม่ได้บีบคออีกฝ่าย ที่อ้างว่าตนเป็นนักกีฬาเสพติดความรุนแรง ขอชี้แจงว่านักกีฬาทุกคนมีวิจารณญาณรู้ว่าจะต้องทำอะไร ถ้าตนทำจริง ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่งัดนิดเดียวนิ้วคงจะหักไปแล้ว คงไม่ได้บาดเจ็บแค่เล็กน้อยแบบนี้

ส่วนเรื่องแย่งโทรศัพท์มือถือ มีการแย่งกันจริง เพราะต้องการจะลบรูปที่ฝ่ายหญิงแอบถ่ายคลิปไว้ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ลบก็เลยมีการแย่งกัน ปัดป้องกันเกิดขึ้น ขอยืนยัน 100% ว่าไม่ได้มีการบีบคออีกฝ่าย ไม่มีการงัดนิ้วขึ้นมาสแกน หลังจากเกิดเหตุไปเจอกันที่สถานีตำรวจแล้วรอบนึง ถ้าเขาต้องการตรงนั้นควรจบกันตั้งแต่ตรงนั้น มันไม่ควรมีประเด็นอะไรออกมาอีก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นประมาณปลายปีที่แล้ว มันผ่านมานานแล้ว

นอกจากนี้ท็อปยังบอกอีกว่าอยากจะขอบคุณ แพร์ อดีตภรรยา ที่ออกมาช่วยยืนยันว่าตนไม่ได้ทำผิด ไม่ได้คบซ้อนอย่างที่ถูกกล่าวหา พร้อมเล่าย้อนว่าช่วงต้นปี 61 ตนกับแพร์อดีตภรรยาได้ลดสถานะความสัมพันธ์ ความเป็นสามี ภรรยาลง เหลือเพียงความเป็นพ่อ-แม่ของลูก และยังเป็นครอบครัวดูแลลูกร่วมกันเป็นอย่างดี  หลังจากนั้นตนก็ได้มีโอกาสคุยกับคนใหม่ๆ จนกระทั่งไปรู้จักกับหญิงสาวที่ออกมาให้ข้อมูลดังกล่าว ความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายก็ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ได้ปิดบังอะไร

ท็อปเล่าต่อว่า เรื่องที่ทำร้ายจิตใจตนที่สุด คือ ตนทนไม่ได้ที่ใครมาทำร้ายลูก มัน คือ สิ่งที่ตนอึดอั้นที่สุด อีกฝ่ายจะทำร้ายตนไม่เคยกลัว ถ้าตนผิดตนยินดีขอโทษ แต่ถ้าตนไม่ผิดจำเป็นต้องออกมาพูดว่าตนไม่ได้ทำ

ด้าน แพร์ อดีตภรรยา ได้เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอดีตสามีที่ต้องจัดการ แต่ที่ต้องออกมาพูดเพราะต้องการปกป้องสิทธิของตัวเอง เพราะเรื่องที่ออกมาส่งผลกระทบไปถึงลูก ยืนยันอีกเสียงว่าแม้ตอนนี้จะไม่ได้เป็นสามี ภรรยากันแล้ว แต่ท็อปยังคงทำหน้าที่ของความเป็นพ่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เรียกว่าออกมาเคลียร์ให้ชาวเน็ตได้หายสงสัยว่าหนุ่มคนนั้นเป็นใครและเรื่องจะสรุปจบลงอย่างไรต้องติดตามกันต่อไป

หนุ่ม ท็อป ณฐกร ออกมาแจงด้วยว่าขณะเกิดเหตุได้นอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวปิดที่ร่างกาย แล้วตื่นขึ้นมาเห็นโทรศัพท์ของฝายหญิงวางอยู่บนเตียงและกล้องเปิดอยู่ จึงหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าในโทรศัพท์มีคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กันและแชตต่างๆ จึงทำการลบภาพแต่ก็ลบไม่หมด ยืนยันไม่ได้ทำร้ายร่างกาย และตลอดระยะเวลา 2 ปีที่คบกันก็ไม่เคยทำร้ายร่างกาย พร้อมกับเผยถึงสิ่งที่ฝ่ายหญิงต้องการในวันที่นัดไกล่เกลี่ย ไม่ใช่แค่คำขอโทษ

ด้านหญิงสาวคู่กรณีก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องที่ไปปรึกษาการลงทุนขายครีมและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพกับท็อป และท็อปก็รับปากที่จะลงทุนให้เป็นจำนวน 200,000 แต่ก็ยังไม่ได้มีการให้เงินดังกล่าว จึงไม่ใช่การนำภาพลับในโทรศัพท์มาเพื่อเรียกร้องเงินจำนวนนี้ ส่วนเรื่องการถ่ายภาพต่างๆ เป็นการถ่ายภาพตามปกติของคนที่คบหากันเป็นแฟน ไม่ได้เป็นการแบล็คเมลแต่อย่างใด ถ้าจะทำคงทำไปนานแล้ว

by TVPOOL ONLINE