เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยถึงกรณีมีการเผยแพร่รูปแตงโมยืนหันหลังบนเรือสปีดโบ๊ตว่า เรื่องนี้ตนไม่สามารถยืนยันได้ว่ารูปดังกล่าว ใช่แตงโมจริงหรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่ารูปนี้มีอยู่ในสำนวนคดีของตำรวจแล้ว ซึ่งการจะพิสูจน์ว่าเป็นแตงโมจริงหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานในการตรวจสอบ แต่รูปนี้ไม่มีผลกระทบต่อรูปคดีแน่นอน ทั้งนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าเจตนาคนเผยแพร่รูปนี้หรือตัดต่อรูปนี้ออกมา จะทำไปเพื่ออะไร เพราะการแสดงความเห็นในโซเชียลตอนนี้ไม่ต้องมีเหตุผล เป็นการทำตามอารมณ์ สามารถทำได้หมดทุกอย่าง

ส่วนที่ แซน ยอมรับว่า เป็นคนถ่ายเอง ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะพูดอะไรก็ได้

ทนายเดชา ยังได้เตือนไปยังคนที่นำรูปมาเผยแพร่ออกสู่สังคมว่าอาจมีความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้เสียชีวิต โดยทำให้เสียหาย เพราะรูปดังกล่าวเป็นรูปที่ไม่ได้สวยงาม ทำให้อับอายได้ และหากเป็นการตัดต่อรูปขึ้นมา ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพิ่มเติมด้วย โดยคนถ่ายไม่ถือว่ามีความผิด แต่คนที่นำมาเผยแพร่มีความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี ขออย่าให้ไปซ้ำเติมผู้ตาย เอาภาพที่ไม่สวยงามมาประจาน

โดยล่าสุด ตนได้ส่งภาพดังกล่าวให้คุณแม่ภนิดา คุณแม่ของแตงโมดูแล้ว ซึ่งคุณแม่ไม่เชื่อว่ารูปนี้คือลูกสาว เพราะลูกสาวน่าจะไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ และลักษณะแขนที่มีกล้ามก็ไม่น่าจะใช่แตงโม ซึ่งคุณแม่รู้สึกเสียใจที่มีการเผยแพร่ภาพแบบนี้ออกมา อยากให้คนหิวแสงหยุดได้แล้ว และคุณแม่กำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการเอาผิดกับใครอย่างไรบ้าง

สำหรับประเด็นที่นายอัจฉริยะ บอกว่ารูปนี้ แซน ไม่ได้เป็นคนถ่าย โดยอาจเป็นจ๊อบถ่าย หรือว่า เป็นการปลอมรูปขึ้นมาเพื่อเพิ่มน้ำหนักว่า แซน อยู่ท้ายเรือนั้น ทนายเดชา บอกว่า คำพูดของนายอัจฉริยะ ไม่ได้เป็นพยานในคดี ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคดี ดังนั้น อย่าไปหลงเชื่อคำพูด และฝากบอกไปยังนายอัจฉริยะในฐานะที่เป็นเพื่อนกันด้วยว่า ให้หยุดหิวแสงได้แล้ว ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

และในวันที่ 22 เม.ย. นี้ ตนก็เชื่อว่า ผู้เชี่ยวชาญของนายอัจฉริยะ อาจจะไม่กล้าไปให้ปากคำกับตำรวจ เพราะตอนนี้ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่าแตงโมตกที่ท้ายเรือ หากไปให้การที่ขัดกันก็อาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการโดนข้อหาให้การเท็จได้ ส่วนที่นายอัจฉริยะจะแถลงข่าว โดยบอกว่ามั่นใจว่าเมื่อเปิดหลักฐานแล้วตำรวจจะไปไม่เป็น ตนกลัวว่านายอัจฉริยะเองมากกว่าที่จะต้องหงายท้อง

ทั้งนี้ การที่ตำรวจต้องเลื่อนวันแถลงข่าวปิดคดีออกไป เพราะต้องรอสอบปากคำเพิ่มก่อนนั้น คุณแม่ภนิดา และตนเองไม่ได้มีความกังวลอะไร มองว่าเป็นแค่การทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลาทำงาน จากคนที่หิวแสง ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วมาร้องเรียน ซึ่งส่วนตัวตนได้เห็นหลักฐานคลิปสำคัญของตำรวจแล้ว เชื่อว่าจะสามารถตอบคำถามสังคมได้ว่าคดีนี้ไม่มีอะไรมากกว่าอุบัติเหตุ และตนก็มั่นใจในการทำงานของตำรวจว่าครบถ้วนแล้ว

by TVPOOL ONLINE