วันนี้ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางขอเข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมนำหนังสือเดินทางมามอบให้ตำรวจ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจและยืนยันจะไม่หลบหนี หากหลังจากนี้จะถูกออกหมายจับ กรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทา นอกจากนั้นได้นำเอกสารหลักฐานจำนวน 3 กระเป๋า อ้างว่าเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทามามอบให้กับตำรวจโดยยื่นความจำนงหากเป็นไปได้อยากขอมีส่วนร่วมช่วยเรื่องสำนวนคดีด้วย
นายสันธนะ แจง ก่อนหน้านี้ตนเองเคยถูกพาดพิงเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา จะมีการออกหมายจับครั้งใหญ่ ซึ่งมีข่าวมาอย่างต่อเนื่องและพาดพิงชื่อตัวเองชัดเจน จนกระทั่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็กลับคำว่า ตัวเองเป็นเพียงตัวเล็กไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง วันนี้จึงนำหนังสือเดินทางมามอบให้กับ ผบ.ตร.ไว้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งถ้าเกิดทาง ผบ.ตร.ไม่รับไว้ตัวเองก็จะนำไปยื่นให้กับ ผกก.สน.ปทุมวันต่อไป
โดยภายในหนังสือเดินทาง นายสันธนะ ได้โชว์ข้อมูลระบุวันที่ 8-10 ก.ค.2565 พบว่ามีการเดินทางไปประเทศลาวโดยบอกว่าไปคุยธุรกิจ เมื่อสอบถามว่าเกี่ยวข้องกับนายทุนจีน 5 คนที่ทางประเทศไทยตามตัวอยู่หรือไม่ นายสันธนะ บอกว่ามีทั้งนักลงทุนคนจีนและลาว ซึ่งตัวเองก็จะเอาข้อมูลที่ได้พูดคุยกับนักธุรกิจกลุ่มนี้ให้ข้อมูลกับตำรวจด้วย
นายสันธนะ เปิดเผย ส่วนเรื่องเอกสารหลักฐานที่จะนำมายื่นให้ ผบ.ตร. เป็นหลักฐานที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะขอมายื่นให้ในฐานะพยาน เป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือไม่ใช่เพียงคำพูดปากเปล่าโดยไม่มีหลักฐาน ซึ่งมองว่าหากตัวเองได้เข้ามามีส่วนกับคดีจะทำให้การดำเนินคดีไม่สามารถมีการวิ่งเต้นคดีกันได้ ยกตัวอย่างเรื่องของเสี่ยเอี่ยว เจ้าของคลับวันพัทยา ที่เคยถูกดำเนินคดียาเสพติดและฟอกเงินแต่กลับมาเปิดผับได้อีก ซึ่งต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังและการช่วยคดีจึงมองว่าหากตัวเองมีส่วนมาช่วยจะไม่เกิดเหตุแบบนี้ ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่าง นายสันธนะและ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ จนถึงขั้นท้าชกต่อยกันในโซเชียลฯ มันเป็นเรื่องดรามาเกินไปไม่เกิดประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสันธนะต้องการขอพบพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่มาเป็นประธานในการประชุมกองอำนวยการร่วมศูนย์รักษาความปลอดภัยการประชุมเอเปก ก่อนที่พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงมารับเรื่อง ก่อนที่นายสันธนะจะขอเดินไปสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 4 พร้อมกับขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยจะไม่เข้าไปพบพล.อ.ประวิตร และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ที่กำลังเสร็จสิ้นการประชุม และเดินลงมาตรวจแถวรักษาความปลอดภัยด้านหน้าอาคาร 1 ตร.
ข่าวเกี่ยวข้อง
- ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ประยุทธ์ ได้ไปต่อ ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 60 นั่งนายกฯ ไม่ครบ 8 ปี
- ถึงเวลาพักผ่อน! ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ
by TVPOOL ONLINE