ทรัมป์เตรียมเก็บภาษี 100% ภาพยนตร์ต่างประเทศ อ้างปกป้องอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ

วอชิงตัน, 4 พฤษภาคม — ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า เขามีแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าภาพยนตร์จากต่างประเทศในอัตรา 100% โดยให้เหตุผลว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศกำลังประสบภาวะถดถอยอย่างรุนแรง

ทรัมป์ระบุผ่านแพลตฟอร์ม “ทรูธโซเชียล” ของเขาว่า ได้สั่งการให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เริ่มดำเนินกระบวนการเพื่อเรียกเก็บภาษีดังกล่าว พร้อมทั้งวิจารณ์ว่า ประเทศอื่น ๆ กำลังใช้ “ความพยายามร่วมกัน” ในการเสนอแรงจูงใจเพื่อดึงดูดบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ ซึ่งเขามองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

“เราต้องการให้ภาพยนตร์สร้างขึ้นในอเมริกาอีกครั้ง!” ทรัมป์กล่าว

นับตั้งแต่กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ดำเนินมาตรการทางภาษีต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องผู้ผลิตในประเทศและรักษางานของชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเตือนว่า การปรับขึ้นภาษีดังกล่าวอาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และทำให้ราคาสินค้าทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น

ในส่วนของจีน รัฐบาลทรัมป์ได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 145% สำหรับสินค้าจากจีนบางรายการ และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 245% หากรวมกับภาษีที่มีอยู่เดิม ซึ่งส่งผลให้จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 125%

ในขณะเดียวกัน ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกยังต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าเฉลี่ย 10% จนกว่าจะสิ้นสุดช่วงการปรับขึ้นภาษีชั่วคราวในเดือนกรกฎาคมนี้

ระหว่างการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินประจำตำแหน่ง แอร์ ฟอร์ซ วัน เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทรัมป์เปิดเผยว่า เขากำลังเจรจากับหลายประเทศ รวมถึงจีน เกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้า แต่ยังไม่มีแผนจะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในเร็ว ๆ นี้