บทสรุปดราม่า “ครีมบูสบูส” ที่พลิกผันจากความเข้าใจผิด สู่การโต้ตอบไปมาระหว่าง “นารา เครปกระเทย” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และ “มายดาว เดี๋ยวรู้จัก” เจ้าของแบรนด์ หลังนาราประกาศยุติบทบาทการทำงานกับแบรนด์ ซึ่งหลายคนเข้าใจมาโดยตลอดว่า “บูสบูส” คือแบรนด์ของเธอ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ “นารา เครปกระเทย” ผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ “บูสบูส” ให้กลายเป็นไวรัลและติดปากคนไทย ด้วยคอนเทนต์และไลฟ์สดสุดปัง ได้ประกาศยุติบทบาทการทำงานกับแบรนด์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการจากกันด้วยดีในตอนแรก แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่าใหญ่
จุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิดและปมปัญหา:
* นารายันขาดทุน 8 แสน: หลังจากยุติบทบาท นาราได้ออกมาไลฟ์เปิดใจถึงสาเหตุว่า “บูสบูสมันถึงจุดอิ่มตัวแล้ว” โดยอ้างว่าได้เงินจากแบรนด์มา 2.5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักลบค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำคอนเทนต์, ไวนิล, แจกไอโฟน, มอเตอร์ไซค์, ค่าเดินทาง และอื่นๆ รวม 3.3 ล้านบาท ทำให้เธอขาดทุนไป 8 แสนบาท พร้อมยืนยันทำไปเพราะรัก และไม่ได้คำชมใดๆ นอกจากผ้าหลุยส์ 1 ผืน กับเงิน 1 แสนบาท
* FC เข้าใจผิด ถล่มแบรนด์: คำบอกเล่าของนาราทำให้แฟนคลับบางส่วนเข้าใจผิด คิดว่านาราเป็นเจ้าของแบรนด์ และแบรนด์เอาเปรียบนารา จึงพากันเข้าไปคอมเมนต์โจมตีแบรนด์ อาทิ “จะไม่อุดหนุนถ้านาราไม่โฆษณาต่อ” หรือ “อ้าว ไม่ใช่เจ้าของเหรอ งั้นเลิกใช้จ้า”
* มายดาวโพสต์น้อยใจ: “มายดาว เดี๋ยวรู้จัก” เจ้าของแบรนด์บูสบูส ได้ออกมาโพสต์ถึงผลกระทบจากคอมเมนต์ของแฟนคลับนาราว่า “จากใจนะ ตอนแรกคิดว่าจะจ้างต่อเยอะๆ เพราะไม่เคยคิดว่าจะหยุดจ้างเลยค่ะ แต่เม้นด่าทุกเม้นทำให้คิดหนัก” ทำให้หลายคนมองว่ามายดาวกำลังแขวะนารา
* นาราตั้งคำถาม: นาราได้โพสต์ตั้งคำถามกลับว่า “พี่มายดาว โพสแขวะหนูทำไมคะ” และแสดงความกังวลว่าการโพสต์ลักษณะนี้จะทำให้เจ้าของแบรนด์รายอื่นไม่กล้าจ้างงานเธอ
การโต้ตอบผ่านโซเชียลมีเดีย:
หลังจากนั้น ดราม่าก็ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายมีการโต้ตอบผ่านโซเชียลมีเดีย โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:
* มายดาวยืนยัน FC นาราด่าแบรนด์: มายดาวตอบโต้ว่า “ใครโพสแขวะนารา มีแต่เอฟซีนารา ด่าแบรนด์ไม่หยุด 3 วันแล้ว” และยืนยันว่าแฟนคลับนาราเข้าใจผิดว่าแบรนด์เอาเปรียบนารา
* นาราไม่เข้าใจว่าโดนด่าตอนไหน: นาราถามกลับว่า “ด่าตอนไหนคะ เอามาพูดเลยคะ” โดยมายดาวระบุว่า “ทั้งตต ทุกโพส เกือบทุกเม้น ทุกคนเข้าใจว่าแบรนด์เอาเปรียบนารา นารา ทำงานขาดทุน ไปอ่านดูก็ได้ค่ะ ทุกคนเข้าใจแบบนี้ และเอฟซีก็ด่า ว่าแบรนด์ได้ดีและถีบหัวส่ง”
* ประเด็นการยกเลิกสัญญา: มายดาวโพสต์อีกว่า “เรื่องของเรื่องอีกอย่างคือ บอกทีมงานว่าห้ามขัดใจนารา ไม่ว่านารา ต้องการอะไร หรือจะเอาอะไร บอกโอเคให้หมด” และระบุว่า “นาราบอกทีมงานว่าต้องการยกเลิกงานที่เหลือทั้งหมด ไม่ทำแล้ว ทีมงานบอกว่า โอเครค่ะ”
ไลฟ์สดของนารา และการคุยกับ “ลี่” ตัวกลาง:
นาราได้ออกมาไลฟ์สดเพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยสรุปได้ดังนี้:
* คาดหวังการโทรจากเจ้าของแบรนด์: นารากล่าวว่า เธอพยายามทำการตลาดให้แบรนด์อย่างเต็มที่ และเมื่อยุติสัญญา เธอคาดหวังว่าเจ้าของแบรนด์จะโทรมาพูดคุยและเสนอให้จ้างงานต่อ แต่กลับมีการโพสต์ลักษณะนี้
* กลัวไม่มีงาน: เธอแสดงความกังวลว่าการทะเลาะกับเจ้าของแบรนด์จะทำให้ไม่มีใครกล้าจ้างงานเธอ และยืนยันว่าการไลฟ์ครั้งนี้เพื่อปกป้องตัวเอง
* ปมค้างคาใจ: นาราเผยว่าน้อยใจที่ไม่เคยได้รับคำชมในการทำงาน และเมื่อยุติสัญญา มายดาวก็ไม่โทรกลับมา
* ประเด็น Hermès และการ “ลองใจ”: มีประเด็นเรื่องกระเป๋า Hermès ราคา 8 แสนบาท ที่นาราอ้างว่าเป็นการ “ลองใจ” แบรนด์ ซึ่งฝั่ง “ลี่” ตัวกลางมองว่าเยอะเกินไป
* ยืนยันปกป้องแบรนด์: นารายืนยันว่าไลฟ์ก่อนหน้านั้นเธอปกป้องแบรนด์และชื่นชมมายดาวเสมอ
* การโต้ตอบกับลี่: ในช่วงหนึ่งของไลฟ์ นาราได้พูดคุยกับ “ลี่” ตัวกลาง โดยนาราตั้งคำถามว่า หากทำงานดี ทำไมไม่โทรมาเคลียร์ตอนยุติสัญญา และน้อยใจที่ลี่เร่งเรื่องการไลฟ์ แต่ไม่เคยถามไถ่เรื่องความเหนื่อย
* ยอมรับผิด: นาราจบการไลฟ์ด้วยการยอมรับผิดทุกอย่าง
บทสรุปเบื้องต้นและการขอโทษ:
หลังดราม่าบานปลาย นาราได้โพสต์ขอโทษทุกคน โดยระบุว่า “หนูขอโทษทุกคน ขอรับผิดไว้เพียงผู้เดียว ขอโทษพี่มายดาว พี่เอิร์ธ พี่ลี่ พี่เอิน และทุกคนที่เกี่ยวข้อง วอนแฟนคลับหยุดด่าแบรนด์ ขอยืนยันว่าทุกอย่างที่ทำไปเพราะรัก และตั้งใจ”
ขณะที่มายดาวก็ออกมาโพสต์ว่า “อยากให้ทุกคนรอก่อน ทุกอย่างมีหลักฐาน แนบทุกอย่างที่พูด ดาวไม่ใช่คนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้นนะคะ ที่ผ่านมา ทำงานมา ไม่เคยเอาเปรียบใคร” ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าหลักฐานที่มายดาวกล่าวถึงคืออะไร และบทสรุปของดราม่า “ครีมบูสบูส” นี้จะจบลงอย่างไร
ข่าวที่น่าสนใจ
by TVPOOL ONLINE