เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“อิงฟ้า วราหะ” ย้อนเล่าความประทับใจหลังเดินพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ พร้อมเล่าภาวะอารมณ์สวิงจากการทำงานหนักจนต้องวางแผนเกษียณอายุ และเปิดสถานะหัวใจเจ้าตัวประกาศอยากมีแฟนแล้ว รวมถึงเคลียร์ข่าวลือวงการนางงามว่า “บอสณวัฒน์” เตรียมยก MGT ให้ดูแลจริงหรือไม่ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตเรื่องล่าสุดเป็นที่ฮือฮามากกับการไปเดินพรมแดงปีแรกของอิงฟ้า ?

“ใช่ค่ะก็ไปในนาม The Red Sea Film Foundation ก็เป็นเหมือนกับว่าตัวแทนของเอเชียคนไทยที่ได้เข้าร่วมหนึ่งในผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลในเรื่องของภาพยนตร์”

 

ตอนที่ได้รับเลือกอิงฟ้ารู้สึกยังไง ?

“โห หนูก็ตื่นเต้นเพราะว่าเหมือนจะมีแค่ประมาณ 7 คนเท่านั้นค่ะทั่วโลกที่เขาคัดมา จะได้มีการถ่ายรายการสัมภาษณ์กันแล้วก็แชร์ประสบการณ์อะไรแบบนี้ เหมือนเราก็ต้องเตรียมตัวต้องรู้วัฒนธรรมในการตอบอะไรแบบนี้ว่าต้องมีอะไรบ้าง”

 

ฟ้าเป็นคนนึงที่เวลาทำงานทุกชิ้นจะตั้งใจมาก ๆ จนบางทีมีกระแสว่าบางทีตั้งใจจนกังวลเครียดเบา ๆ ?

“ก็มีค่ะ ตอนที่หนูไปก็มีเล็ก ๆ เรื่องภาษานิดนึงค่ะ แอบกังวลว่าเขาจะเข้าใจไหม และก็อีก 6 ท่านที่เหลือซึ่งเราไม่เคยเจอมาก่อนจะคุยไปในทิศทางเดียวกันไหม แต่พอไปถึงรีแลกซ์เลยเพราะว่าทุกคนน่ารักมากและก็มีบางส่วนที่เขาก็สื่อสารเรื่องของภาษาอังกฤษไม่ถนัดเช่นเดียวกันก็ใช้ล่ามกันไป”

 

ก่อนไปเตรียมตัวหนักขนาดไหน ?

“เอาจริง ๆ เลยก่อนไปมีเวลาเตรียมตัวน้อยมากค่ะ เพราะว่าช่วงนั้นก็มีงานแน่นด้วย ในการไปทริปนี้ก็ถือว่ามีทั้งประสบความสำเร็จและมีปัญหาที่ต้องแก้เฉพาะหน้าแบบเร่งด่วน แต่ก็ทำให้เห็นว่าสุดท้ายเราก็เอาอยู่นะกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เข้ามา”

 

น่าภูมิใจมากนะ คือเป็นตัวแทนคนไทย สื่อต่างชาติตะโกนเรียกชื่ออิงฟ้าด้วย ?

“ก็จะมีตากล้องค่ะประมาณ 2-3 คน ที่เขารู้จักเราผ่านทางอินสตาแกรม ติดตาม follow เขาพูดว่าเขาจำได้นะแล้วก็โชว์ให้ดูว่า follow อยู่”

แล้วเขาถ่ายรูปเราแล้วบอกว่าจะส่งมาให้ทาง dm ด้วยใช่ไหมคะ ?

“ก็มีค่ะ”

 

เจอผู้ชายหน้าจอ ใช่ทอม ครูซ?

“คนนี้ใช่ค่ะ ส่วนหนุ่มผมยาว คริสโตเฟอร์ค่ะ เป็นเจ้าของแบรนด์ชุดที่หนูได้ใส่เดินพรมแดงคืนวันแรกค่ะ ก็เหมือนไปเป็นนางแบบให้เขาในการพรีเซนต์ชุดบ้านเขาที่ประเทศฝรั่งเศส ตอนแรกหนูไม่รู้ว่าเป็นทอม ครูซ เพราะว่าเรากำลังจะเดินกลับเข้าที่พักแล้วก็อยู่ริมถนนพอดีแล้วเขาก็ขับมอเตอร์ไซค์ขับผ่าน เราก็เห็นว่าคนวิ่งเข้าไปกรูเยอะมากแต่เราไม่เห็นชัดว่าคือใคร จนเหมือนพี่ทีมงานที่ไปด้วยกันมาบอกว่า ‘เห้ยเนี่ยทอม ครูซ’ ครั้งแรกในชีวิตที่เราแบบสวนกันแบบนี้ ก็รู้สึกแบบดวงจะได้เจอก็ได้เจอใกล้ ๆ ซะงั้น ตัวจริงหล่อมากค่ะ แล้วที่โน่นก็คือเหมือนแบบเขาเฟมัสมากเข้าถึงยากมาก ๆ ค่ะ”

 

ตอนไปงานไม่ใช่แค่ไปเดินพรมแดงเฉย ๆ แต่มีงานกาลาดินเนอร์ด้วยมันเป็นยังไง เข้าไปคนเดียว ?

“ตื่นเต้นค่ะ แต่ว่ามีทีมงานและล่ามคอยช่วยแต่ว่าบรรยากาศอบอุ่นมาก ๆ และก็เป็นเกียรติมาก ๆ เลยเพราะว่าคนไทยน้อยมากในนั้นค่ะ แล้วก็ได้เจอกับศิลปินไม่ว่าจะเป็นนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ทเอย หรือว่าดาราเยอะแยะที่เราเคยเห็นเขาในหนังในจอ ก็มีโอกาสได้ถ่ายรูป ได้คุย ได้อะไร ก็ถือว่าคอมพลีทกับหนึ่งประสบการณ์ดี ๆ”

 

จริง ๆ ไปอย่างนี้น่าจะมีแต่เรื่องราวดี ๆ แต่ก็ไม่วายโดนดราม่าเรื่องพกล่ามติดตัวไป อิงฟ้ารู้สึกยังไงบ้าง ?

“จริง ๆ เขามีการบรีฟกับเราก่อนค่ะ เพราะปีก่อน ๆ ก็มีดาราไทยหรือว่าคนไทยไป บางคนก็เลือกที่จะไม่สัมฯ เลยเพื่อภาพที่ออกมา แต่เขาก็ถามหนูก่อนว่า ‘โอเคจะมีรายการให้สัมฯ นะนั่นนี่นู่นนะหลังจากเราเดินงานกาลานี้เสร็จ เราจะสัมฯ ไหม’ เราก็ ‘สัมค่ะ’ มาถึงแล้วก็ต้องสัมฯ ก็ต้องพูดอะไรอย่างนี้ค่ะต่อให้เราต้องใช้ล่ามยังไงก็เลือกที่จะสัมฯ ดีกว่า”

 

“หลายคนก็ใช้ล่ามค่ะ ก็จะมีฝั่งลาตินที่เขาใช้ล่ามเหมือนกัน เพราะว่าบางประเทศเขาก็ไม่ได้ใช้ภาษาหลักเป็นภาษาอังกฤษ ก็จะมีล่ามมาด้วยเหมือนกัน แต่ความคนไทยติด judge ไว้ก่อนว่าคนไทยใช้ล่ามแล้วก็การสื่อสารไม่ดีจะอายเขา แต่จริง ๆ คือที่โน่นไม่ซีเรียสเลยเขาชอบด้วยซ้ำที่เราจะสัมฯ”

นอยด์ไหมที่โดนดราม่าเรื่องไม่เป็นเรื่อง ?

“ตอนแรกก็มีบ้างเล็ก ๆ ค่ะ สุดท้ายก็ยังไม่ชินอยู่ดีแต่ว่าความที่ช่วงที่เราประกวดเคยโดนมาแล้วรอบนึง ประกวดนางงามอะไรแบบนี้มันเลยมีภูมิคุ้มกันเล็ก ๆ ที่ทำให้เราแบบโอเคไม่ได้อยู่กับดราม่านาน”

 

ปีทองของอิงฟ้า ผ่านไปแค่ 6 เดือน แต่กวาดรางวัลนักแสดงหลายเวทีมาก ตอนนี้กวาดไปกี่เวทีแล้ว ?

“โห ก็เยอะอยู่ค่ะ ดีใจ ยังไม่ได้นับเลยค่ะ แต่ว่าดูทุกคืน ได้มาก็เก็บไว้ในตู้แล้วก็นั่งดูเป็นแรงบันดาลใจ หายเหนื่อย ยิ่งช่วงนี้ที่เราถ่ายหลายเรื่อง หลายโปรเจกต์ยิ่งอยากได้กำลังใจ ก็พยายามดูและเก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจ”

 

เคยคิดไหมคะว่าเราจะได้เป็นนักแสดงที่เก่งและได้รับรางวัลด้วย ?

“หนูเคยคิดว่าวันนึงเราจะต้องเป็นนักแสดงให้ได้แต่ไม่ได้คิดว่าเราจะได้รางวัลและจะมาไวขนาดนี้ เพราะว่าจริง ๆ ถือว่าหนูมีผลงานละครหรือภาพยนตร์ถือว่ามันยังไม่ได้เยอะมากในวงการ แต่ว่าเราก็ดีใจที่ผู้ใหญ่เห็นศักยภาพของเราและให้รางวัลมาเป็นกำลังใจ”

 

“เหมือนผู้ใหญ่ในวงการ รุ่นพี่นักแสดงจะบอกตลอดว่าความสวยเป็นใบเบิกทางแต่สิ่งที่ทำให้อยู่ได้นานจริง ๆ คือฝีมือจริง ๆ หนูก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ต้องมีเรื่องความสวยให้ต้องห่วงอยู่แล้วก็ใส่สุดเลย หนูก็แบบอยากทำให้คนเชื่อและลืมภาพความเป็นอิงฟ้าไป” 

 

นี่ไงคนเลยเรียกว่าอีโหม๋?

“แม่กุหลาบบ้างอะไรบ้าง”

 

ความฝันในวงการบันเทิงเริ่มแรกเลยไม่ได้อยากเป็นนางงามแต่อยากเป็นดารานักแสดงมากกว่า ?

“ก็มีช่วงนึงที่เรารู้สึกว่าการเป็นนางงามทุกอย่างมันต้องเพอร์เฟกต์มาก ๆ แต่ด้วยความที่ยุคสมัยมันเปลี่ยนแล้วก็เรื่องของ mood แล้วก็มีบริบทที่มีความหลากหลายมากขึ้น ก็จับพลัดจับผลูลองดูสักตั้งแล้วก็ได้เป็นนางงามสมใจ แต่ว่าให้พูดจริง ๆ วงการด้านการเป็นนักแสดงเข้ามายากเหมือนกันเพราะการแข่งขันก็สูงมาก ๆ”

 

ในขณะที่บางคนตกงานไม่มีละครเล่น แต่อิงฟ้ามีละคร 5 เรื่อง ถ่ายยังไงก่อน ?

“ตอนนี้หนูถ่ายประมาณ 4 เรื่องพร้อมกัน ตอนนี้ยังไม่มีเวลาพักเลยค่ะ (หัวเราะ)”

 

ยังมีบทอะไรที่คิดว่ายังไม่ได้เล่นไหม ?

“อยากเล่นเป็นฟีลแบบมาเฟียบ้างคนรวย ดิบ ๆ บ้าง เพราะส่วนมากคือสู้ชีวิต กัดฟัน ยากจนข้นแค้น”

 

สมัยก่อนถ้าใครถ่ายละคร 4-5 วันจะมีอารมณ์สวิงไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อิงฟ้าเป็นบ้างไหม ?

“เป็นค่ะ ตอนนี้ก็เริ่มเป็นบ้าง ต้องให้คนรอบตัวคอยเช็ก สมมติบางทีเราหงุดหงิดง่าย หรือว่าการหายใจเริ่มเหนื่อยง่าย ก็มาจากการที่เราพักผ่อนน้อยด้วยและเราใช้จากข้างในเยอะด้วยในการถ่ายแต่ละเรื่อง แล้วก็การสวิตช์อารมณ์ที่แบบแต่ละเรื่องแต่ละตัวก็ 5 เรื่องที่ถ่ายอยู่แต่ละตัวโหดมาก ๆ”

 

5 เรื่องแต่ละอันคาแรกเตอร์ต่างกันยังไงบ้าง ?

“ต่างค่ะ มีแบบสานฝันตัวเองเรื่องนึงที่อยากเล่นมานานมากก็กำลังจะเริ่มถ่าย มีเรื่องที่จะต้องใช้ความสู้ชีวิตเหมือนกัน มีความลึกลับซับซ้อนเหมือนกัน แล้วก็มีความรักยูริก็ไปเลยหวานไปเลย ก็จะมีหลากหลายคาแรกเตอร์”

 

แต่เรื่องสุขภาพล่ะ บางครั้งมีอาการหายใจติด ๆ ขัด ๆ หายใจไม่คล่อง ?

“มีค่ะ บางทีไม่ตื่นเลย ก็ต้องให้พี่ซันที่คอยดูแลกันเนี่ย หนูก็จะให้รหัสบ้านรหัสห้องไว้เลย ถ้าหากเราไม่ตื่นก็ต้องมาชาร์ตเราเลยที่ห้อง”

 

บอกว่าจะวางแผนเกษียณ วางแผนถึงขั้นไหนแล้ว ?

“จริง ๆ คนคิดว่าเราเริ่มทำงานตั้งแต่ได้ตำแหน่งมา แต่จริง ๆ หนูทำงานหนักมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตั้งแต่ 6 ขวบแล้ว แต่เรื่องของรายได้ที่โอเค 3 ปีมาที่เราได้ตำแหน่งมามันมากกว่าตอนที่เราไม่มีตำแหน่งแค่นั้นเอง แต่ว่าการทำงานพอนับเป็นสามปีมันดูน้อยแต่พอนับมาเป็นวันที่เราไม่ได้หยุดเลยประมาณพันกว่าวันที่เราทำทุกวันมันก็ทำให้มีบางช่วงที่เรารู้สึกว่าถ้าเรามีเป้าหมายเก็บเงินได้เท่านี้เราโอเคแล้ว จริง ๆ บั้นปลายชีวิตหนูอยากอยู่ต่างจังหวัดด้วยซ้ำ อยากอยู่เรียบง่าย อยากอยู่กับธรรมชาติ ก็อยู่ได้แล้ว”

 

คิดไว้กี่ปี ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ใช่ไหม ?

“เกษียณในที่นี้ไม่ได้หมายถึงหยุดทำงานเลย อาจจะเป็นการทำงานที่ไม่ได้หนักเท่าทุกวันนี้”

 

อาจจะรับละครเหลือเรื่องนึง ?

“ต่อปีอาจจะรับสัก 2-3 เรื่องพอ หรือ 1-2 ถ้ามีอีเวนต์อะไรเราก็ไปแต่อาจจะไม่ได้อัดแน่นขนาดนี้ หนูไม่อยากเก็บเงินไปใช้ที่โรงพยาบาล”

 

อีกอย่างที่ทำให้รู้สึกทำให้รู้สึกขาดหายไปในชีวิตเลยก็คือการไม่ได้เจอครอบครัว ?

“ใช่ค่ะ ก็แม่เขาก็อายุมากขึ้นทุกวัน ก็มีห่วงเรื่องสุขภาพบ้างเพราะว่าบางทีช่วงก่อนหน้านี้ยังมีเวลาได้กลับไปทานข้าวที่บ้านบ้าง หลัง ๆ มาเขาก็มีน้อยใจบ้างว่าแบบมีเวลากลับไปทานข้าวบ้างไหมมีเวลาไหม ช่วงนี้ร่างกายเขาก็ไม่แข็งแรง”

 

เป็นอีกเหตุผลที่อยากทำงานน้อยลงเพราะจะได้กลับไปอยู่กับคุณแม่ ?

“ความฝันของหนูหนึ่งอย่างคืออยากไปเที่ยวตปท.อยากพาเขาไปด้วย อยากมีเวลาพาครอบครัวไปบ้าง”

 

ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าพยายามจัดเวลาให้ได้หยุด 4 วันตอนนี้เหลือกี่วัน ?

“(หัวเราะ) เดือนนี้ไม่มีเลยค่ะ”

 

บางวันเห็นบอกทำงานเช้ายันเกือบเช้า พักช่วงสั้น ๆ ?

“ก็มีบางวันที่อาจจะต้องพักผ่อนในรถ ทานข้าวบนรถเพื่อเซฟเวลา เพราะสถานที่ค่อนข้างไกล”

 

แอบถามสถานะหัวใจเป็นยังไงบ้าง โสดหรือไม่โสด?

“โสดค่ะ เริ่มอยากจะมีความรักบางแล้ว 30 แล้ว ก็อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้กับใครสักคนนึงบ้าง แต่ก็เข้าใจว่าหนึ่งเป็นช่วงที่เราไม่มีเวลาด้วยใครจะเข้ามาก็ต้องสตรองมาก ๆ ทั้งเรื่องของการทำงานของเรา เรื่องของแฟนคลับด้วย ก็ต้องยอมรับว่ามีแฟนคลับบางส่วนที่คอนโทรลได้และคอนโทรลไม่ได้ มันอาจจะมีความท็อกซิกนั่นนี่นู่นตามมา”

 

มีสเปกไหม ?

“เมื่อก่อนก็คงมีค่ะ แต่ว่าตอนนี้ถ้าชอบคือชอบคนฟันสวยยิ้มสวย ไม่ห่วงเรื่องเพศหรือฐานะเลย ขอแค่ความเข้าใจกันแค่นั้นเลย พอเราโตขอแค่นี้เลย”

 

สมัยก่อนเราก็มูเรื่องงาน ตอนนี้เราเปลี่ยนแล้วเหรอ ?

“ก็หนูเป็นคนไม่ค่อยสมหวังเรื่องความรักเท่าไร มีความอาถรรพ์ตลอดที่มันเกิดขึ้นกับเรา เรื่องงานไม่ห่วงเท่าไรเพราะมีความ Stable แล้วค่ะ ก็อยากเจอคนที่เรารู้สึกคลิกแล้วก็เข้าใจก็อยากมีบ้าง”

 

ไหว้ที่ไหนมาบ้าง ?

“มีเพิ่งไป จริง ๆ ไปทำงานค่ะที่มาเก๊า วัดอาม่า ที่นั่นเน้นขอความรัก มีเขียนการ์ดไปว่าขอให้เจอความรักดี ๆ คนดี ๆ เข้ามาสักทีนึงประมาณนี้”

 

มีเม้าธ์วงในว่าบอสณวัฒน์จะยก MGT ให้อิงฟ้าดูแลจริงหรือเปล่า ?

“ไม่น่านะคะ แต่ว่าหนูก็เป็นผจก.กองช่วยดูแลน้อง ๆ ไป”

 

ถ้าวันนึงเขายกให้เราแล้วบอกให้หน้าที่นี้อิงฟ้าต้องดูแลไปเลย ?

“ถ้าเรามองในมุมมองธุรกิจอาจจะเป็นไปได้ในอนาคต ที่คตจริง ๆ อีกยาวไกลแต่ ณ ตอนนี้น่าจะยังเพราะส่วนตัวหนูก็ไม่มีเวลาเลย ถ้าเราทำจริง ๆ หนูเป็นคนทำอะไรทำสุดมากต้องมีเวลาให้มันจริงๆ ”

 

แต่เขาเม้าธ์ออกมาแสดงว่ามีจุดที่พูดคุยกันบ้างแล้วไม่งั้นคงไม่มีหลุดออกมา ?

“เหมือนพูดทีเล่นทีจริงมากกว่าค่ะ แค่แซว ๆ กัน เขาก็หยอก ๆ ก็แบบ ‘หนูอยากทำไหม’ อะไรอย่างนี้คุยกันได้”

 

แสดงว่าบอสเห็น potential เลยโยนหินถามทางไว้ก่อนใช่เปล่า ? แต่ถ้าต้องทำก็ทำได้ ?

“ขอดูงานก่อนแล้วกันค่ะว่าจะต้องยังไง เพราะหนูว่าองค์กร MGT MGI ก็ไม่ใช่องค์กรเล็ก ๆ ก็จะมากับความคาดหวังอะไรอย่างนี้ ถ้าเราทำกลัวกดดันแล้วไม่มีความสุข”

 

แต่มีอีกคนที่กำลังจะเดินตามไป น้องกชเบลใช่ไหมที่กำลังจะไปประกวดเป็น MGI2025 มีอะไรแนะนำรุ่นน้อง ?

“ทุกครั้งเวลาที่เจอก็จะบอกน้องเรื่องความมั่นใจมากกว่า เพราะว่าน้องเหมือนจริง ๆ เป็นคนที่มีความมั่นใจแต่ลึก ๆ ก็มีความแอบกังวลเหมือนกันก็พอกังวลตาออกทันที เราก็จะแนะนำน้องเวลาที่จะเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ ใน MGI อย่าไปกลัวเรื่องของภาษา เพราะจากประสบการณ์ฟ้าเองที่เคยเป็นผู้เข้าประกวด ก็พยายามเข้าหาเพื่อน ๆ พูดคุยให้เขารู้สึกว่า.. บางทีเหมือนวันแรกที่เราเข้ากองอย่างนี้มันจะมีหลายแถบ อย่างแถบลาตินที่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเขาก็จะแยกตัวไปเลย แต่ว่าความเอเชียคนไทยก็จะนั่งเลยพูดอะไรก็ยิ้มไว้ก่อนหัวเราะไว้ก่อน แต่หนูก็ออกตัวไปว่าเราไม่เก่งภาษาอังกฤษนะแต่ว่าสอนได้ พยายามอยากเข้าใจ เขาก็เลยบอกว่าแบบนี้ดีมาก ทุกคนก็มานั่งกรูกันแล้วบอกว่าไม่ต้องเครียดเรื่องภาษา ขอแค่เข้ามาคุยเข้ามาจอยกัน ถ้าสมมติว่าไม่คุยเขาจะคิดว่าเราไม่เข้าสังคม เหมือนน้องเมียนมา น้องมีมี พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยแต่คนรักเขาทั้งกองเลย”

 

เพราะเขาพยายาม ?

“ใช่ค่ะ บางทีก็คุยกันภาษากายน่ารักดี ก็เลยบอกเบลว่าไม่ต้องกังวล พยายามเข้าหาเพื่อน ๆ เยอะ ๆ จะได้ประสบการณ์และมีความสุขระหว่างอยู่กอง”

 

เรื่องรูปร่างมีผลไหม เขาตัวเล็ก ?

“ไม่มีนะ จริง ๆ น้องตัวเท่า ๆ ฟ้าเลย ก็สามารถเสริมเรื่องของบุคลิกการเดินการอะไร เพอร์ฟอร์มฯ ให้ใหญ่ไว้ก่อนจะได้ไม่จม”

 

ได้เจอน้องล่าสุดหรือยัง เห็นว่าไปทำอะไรที่หน้ามาด้วย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?

“ตอนแรกตกใจ เจอใน Tiktok เอ๊ะใครทำไมหน้าคล้ายเราจัง เอ้า น้อง ยังไม่ได้เจอตัวจริงที่อัปเดตล่าสุดแต่เห็นผ่านโซเชียลก็รู้สึกว่าสวยขึ้น แล้วน้องก็มั่นใจมากขึ้น ก็เป็นสิ่งตัวเขาเองอยากแก้ไขให้มันดี เพราะหลายคนก็แนะนำเรื่องของตรงนู้นตรงนี้ ฟ้าเองไม่ห่วงเรื่องรูปร่างหน้าตาน้องอยู่แล้วแต่อาจจะมีทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ สิ่งที่น้องจะพกไป เซฟเวลาช่วยทำให้มั่นใจมากขึ้น ก็ประหยัดเวลาเรื่องของการเตรียมตัวที่เราจะออกไปทำกิจกรรม ก็มีแนะนำทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง”

 

กองนางงามต้องแต่งหน้าทำผมเอง ?

“ต้องแต่งเองเลยค่ะ ปีฟ้าก็แต่งเองเลย อย่างออกอีเวนต์ก็มีบ้างที่เราแต่งเองและที่ใช้ช่าง เวลาเราให้ช่างแต่งเราก็จะเอาเครื่องสำอางของเราแนะนำ ๆ ทุกวันนี้ช่างแต่งหน้าประจำก็ส่วนมากใช้สินค้าที่ฟ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้วก็บอกต่อตลอดเลย”

 

by TVPOOL ONLINE