งานละครซบเซา เลยขอซบอกวงการนักพากษ์ ! “ต้น จักรกฤษณ์” เบนเข็มสู่วงการพากย์จริงจัง ซีรีส์จีนแนวตั้งมาแรง
วงการบันเทิงไทยเจอภาวะซบเซา แต่นักแสดงรุ่นใหญ่หัวใจไม่เคยหยุด “ต้น จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์” อดีตพระเอกสายบู๊คนดัง ขอลุกขึ้นปรับตัวครั้งใหญ่ เบนเส้นทางสู่อาชีพใหม่ในวัยเลข 5 ผันตัวเป็น นักพากย์มืออาชีพ รับงานพากย์ซีรีส์ทุกแนว ตั้งแต่จีน เกาหลี ไปจนถึงอเมริกัน โดยเฉพาะ ซีรีส์จีนแนวตั้ง ที่กำลังได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ ยึดเป็นอาชีพหลักแทนงานละครที่กำลังเงียบเหงา
เจ้าตัวเปิดใจผ่านรายการ “โต๊ะหนูแหม่ม” ช่องเวิร์คพอยท์ 23 กับพิธีกร “หนูแหม่ม สุริวิภา” เล่าจุดเริ่มต้นและเส้นทางสู่การเป็นนักพากย์ ว่า
เริ่มยึดอาชีพนักพากย์ มาเป็นอาชีพหลักได้นานหรือยัง ?
“จริงๆ เริ่มมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ต้องบอกว่าผมยังเป็นเด็กฝึกงานพากย์อยู่เลยครับ ยังไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักพากย์ เรียกว่ากำลังเริ่มฝึก ไม่อาจเทียบรุ่นพี่ๆ ได้”
2 ปีที่เข้าสู่วงการนักพากย์สนุกมั้ย ?
“สนุกทุกวัน คือผมสรุปใจความให้ฟังนะ สกิลทางการแสดงที่ผมทำงานมา ไม่สามารถเอาไปใช้กับงานพากย์ได้เลย เพราะเราต้องเป็นคนอื่นซ้อนคนอื่น เจ้าของงานเค้าจะเป็นคนเลือกงานให้ว่าให้เราเป็นตัวละครตัวนั้นตัวนี้ ต้นก็ต้องเป็นตามงานที่ต้นต้องทำ ซึ่งมันยากตรงที่เราต้องปรับมายด์เซ็ทหมวดหมู่ที่เราต้องทำความเข้าใจ ให้มันออกมา บ้างทีก็ยังใช้ไม่ได้ ต้องเอาเสียงหนุ่มกว่านี้ที่นี้ยุ่งแล้วนะ บ้างทีก็ต้องมีแก่กว่านี้ ฉากตื่นเต้นก็ห้ามเสียงโมโนโทน มันมีรายละเอียดมาก พากย์ซีรีส์แบบนึง พากย์จีนแบบนึง เกาหลีก็แบบนึง จังหวะการพูดมันไม่เหมือนกัน อันนี้ไม่ได้พูดถึงหนังจีนกำลังภายในนะ จีนแบบดรามาก็จะมีอีกทำนองนึง ฝรั่งอเมริกันอีกแบบเลย”
แล้วได้พากย์มาทุกรูปแบบ ทุกแนวแล้วหรือยัง ?
“ผมเจออเมริกันแล้ว ผมเจอเกาหลีแล้ว ผมเจอจีนแล้ว ในส่วนของห้องพากย์มาสเตอร์ ผมจะพากย์จีนเยอะสุด ผมจะดีไซน์ดูความเด็ก ความอ่อนของตัวละคร แล้วลองใส่เราเข้าไปว่ามันจะเข้ามั้ย มันคิดกลับไปกลับมา อย่างเราคิดว่าตื่นเช้าเราจะไปพากย์แบบนั้นแบบนี้ พอถึงเวลาจริงมันไม่ใช่เลย แต่ละเรื่องต้องดูหน้างาน”
ครั้งแรกที่ลงสนามพากย์เป็นยังไงบ้าง ?
“วันแรกที่พากย์ฉากเบๆเลย เค้าให้ผมลองพากย์ตี๋เหรินเจี๋ย ก็เป็นฉากควบม้าไปในเมือง เค้าจะเอาป้ายประกาศไปติดแล้วชาวบ้านก็มุงดู ก็ต้องทำเสียงควบม้าสั่งให้มาหยุด เมื่อมีความเข้าใจในการพากย์มันก็ทำได้ แต่ต้น ณ วันนี้ยังผิดพลาดยังคงนั่งฝึก แรกๆก็จะมีพี่ๆนักพากย์นั่งประกบที่ละคำที่ละโยค”
จุดเริ่มต้นในการเป็นนักพากย์เริ่มได้ยังไง ?
“ต้นไปถ่ายบุญชู สมัยที่หนังเราเริ่มจะเป็นซาวน์ออนฟิล์ม ถ้าใครเล่นต้องเป็นเสียงคนเล่น ดันคิดว่าเป็นงานสบายเพราะเราเคยทำมาแล้ว ไปจำภาพแบบนั้น เลยอยากทำ แล้วมาช่วงนึงถ่ายละครกับอาเกรียงศักดิ์ เหรียญทอง อาเกรียงก็บอกว่าน้องต้น เสียงมีคาแรคเตอร์มากเลย อยากเป็นนักพากย์มั้ย เราก็บอกว่าอยากครับ แล้วก็ชวนมาพันธมิตรกัน ไปนั่งอยู่เป็นเดือน สุดท้ายคิวละครเยอะ ต้นก็ต้องมาถ่ายละคร ก็เลยหยุดไป จนมาตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ เวลาเยอะขึ้น ต้นก็เลยต่อโทรศัพท์โทรหาอาเกรียงอีกครั้งนึง โชคดีที่อาเกรียงไม่เปลี่ยนเบอร์เลย (หัวเราะ) ก็เลยมาที่ห้องพากย์มาสเตอร์ พี่อ้อมเจ้าของเค้าก็ถามว่าอยากเป็นนักพากย์จริงๆมั้ย ต้นก็ตอบว่าอยากทำเป็นอาชีพเลย เค้าก็เลยเชิญครับ”
อุปสรรคในการเป็นนักพากย์มีอะไรบ้าง ?
“คือบ้างคำเป็นคำที่เราพูดอยู่แล้ว แต่ถ้าจะติดบ้างทีติดอยู่ 3-4ชั่วโมง มันต้องควบคุมในการพากย์ ต้องทำการบ้านดูซีรีส์จีน เป็นไกด์ จากที่เราไม่ชอบดูเลย เราต้องมานั่งดูสารพัดสิ่งอย่าง ยังไม่ไปเลเวลที่ยากๆ ทุกวันนี้ที่พากย์คือจีนแนวตั้ง ที่กำลังฮิตๆมาให้พากย์แบบยังไม่มีชื่อเรื่อง เป็นขั้นตอนมิกซ์เสียง เป็นนัมเบอร์ๆให้เราพากย์เยอะมาก”
เรียกว่าเป็นการปรับตัวในช่วงที่งานละครซบเซา ?
“ปรับตัวครับ ต้นเริ่มทำตอนอายุ55 พี่ๆเค้าก็เกรงใจว่าเริ่มตอนอายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องฝึกมากหน่อย อย่างอายุ ยุวดีเค้าก็โทรมาบอกว่าต้นเล่นโซเชียลเดี๋ยวนี้ ผมก็มาเริ่มไลฟ์TikTok พูดคุยกับแฟนๆมากขึ้น”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
หลังประชุม RBC กัมพูชา ยังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด
เปิดใจครั้งแรก! “ธันวา สุริยจักร” ไม่โสดแล้ว คบสาวนอกวงการ เผยสาเหตุโบกมือลาวิกหมอชิต
by TVPOOL ONLINE