กระทรวงกิจการภายในของอียิปต์ เปิดเผยความคืบหน้ากรณี กำไลข้อมือทองคำล้ำค่าอายุกว่า 3,000 ปี ของฟาโรห์อียิปต์โบราณ ที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร ล่าสุดพบว่า กำไลดังกล่าวถูกนำไปหลอมและขายต่อหลายทอด ก่อนจะสิ้นสภาพเป็นโบราณวัตถุไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ก่อเหตุคือหญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการบูรณะโบราณวัตถุ เธอขโมยกำไลที่ประดับด้วยหินลาพิส ลาซูลีออกจากตู้นิรภัยในห้องปฏิบัติการของพิพิธภัณฑ์ ก่อนนำไปขายให้กับช่างเครื่องเงินที่รู้จัก จากนั้นถูกขายต่อให้ช่างทองในราคา 3,735 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 118,000 บาท) และช่างทองขายต่อให้โรงหลอมทองคำในราคา 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 127,000 บาท) สุดท้ายโรงหลอมได้นำกำไลไปหลอมรวมกับเครื่องประดับอื่น ๆ และขึ้นรูปใหม่หมดสิ้นคุณค่าทางประวัติศาสตร์
กระทรวงกิจการภายในอียิปต์ยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คนรับสารภาพแล้ว และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งยึดเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายครั้งนี้ไว้ทั้งหมด
สำหรับกำไลทองคำชิ้นนี้ เคยเป็นของ ฟาโรห์อเมเนโมเป (Amenemope) แห่งราชวงศ์ที่ 21 ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี 993–984 ก่อนคริสตกาล โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์เพิ่งรายงานว่ากำไลดังกล่าวหายไปจากตู้นิรภัย และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน รวมทั้งเผยแพร่ภาพตามสนามบิน ท่าเรือ และจุดผ่านแดนทั่วประเทศ เพื่อสกัดการลักลอบนำออกนอกอียิปต์
พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร นับเป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีเก่าแก่ที่สุดในตะวันออกกลาง จัดแสดงโบราณวัตถุมากกว่า 170,000 ชิ้น และเป็นสถานที่เก็บรักษาสมบัติของฟาโรห์จำนวนมากที่สุด แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างหนักต่อวงการโบราณคดีโลก.
ข่าวทีน่าสนใจ
อุ๊งอิ๊ง ประกาศสู้เต็มที่ พร้อมศึกเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ เตรียมแพลนวันลงพื้นที่
by TVPOOL ONLINE