วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เข้ายื่นหนังสือถึง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรมและให้ตรวจสอบกรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ และกลั่นแกล้งด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงในคดี “ทุจริตข้อสอบจุฬาฯ”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การตั้งกรรมการสอบสวนดังกล่าวเกิดขึ้นทั้งที่ ผบ.ตร. ทราบดีว่าตนไม่ได้เป็นผู้ถูกดำเนินคดีอาญา แต่กลับมีการระบุในเอกสารสอบสวนว่า “ถูกดำเนินคดีฐานนำข้อสอบออกจากห้องสอบไปลอก” ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยอมรับว่าออกคำสั่งผิด และมีการแก้ไขเอกสารภายหลัง โดยลบข้อความและชื่อออกจากคำสั่งเดิม “ถือเป็นการกระทำที่ทำให้ผมเสียหาย และเข้าข่ายหมิ่นประมาท” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ “บิ๊กโจ๊ก” ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริตข้อสอบตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมเปิดเผยว่าพนักงานสอบสวนไซเบอร์ได้สรุปสำนวนคดีไปแล้วโดยไม่มีชื่อของตนแม้แต่รายเดียว อีกทั้งยังมีพยานให้การว่าไม่ได้มีการนำข้อสอบออกไปตามที่ถูกกล่าวหา แต่กลับมีความพยายามให้พยานซัดทอด ซึ่งเป็นการบังคับขู่เข็ญจนผู้เกี่ยวข้องบางรายต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุเพิ่มเติมว่า การตั้งกรรมการสอบสวนวินัยตนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้ครบกำหนดตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 129 ที่กำหนดให้สอบได้ภายใน 1 ปีหลังออกจากราชการ “ถือเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อหวังผลทางการเมืองภายในองค์กร” พร้อมประกาศว่าในสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องคดีอาญาทุจริตต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หลังจากที่ได้ฟ้องคดีหมิ่นประมาทไปแล้ว 2 คดี
“ผมขอเตือนคณะกรรมการชุดนี้ อย่าเป็นเบี้ยล่างใคร ทำตามหน้าที่อย่างถูกต้อง ถึงจะถูกย้ายก็ย้ายได้ แต่ถ้าโดนคดีอาญาแล้วจะติดคุก ผมขอยืนยันว่าถูกกลั่นแกล้งทุกทาง และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบแล้ว โดยจะนำเข้าสู่การประชุม กมธ. วันที่ 8 ตุลาคมนี้ เพื่อกำหนดประเด็นตรวจสอบเพิ่มเติม พร้อมย้ำว่า กมธ.จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย “ผมจะทำหน้าที่ราวกับว่านี่คือวันสุดท้าย ไม่มีใครแทรกแซงได้แน่นอน”
นายรังสิมันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากกระบวนการตรวจสอบจำเป็นเพื่อความเป็นธรรม อาจต้องเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มาชี้แจงด้วยตนเอง “เราไม่ได้กลั่นแกล้งใคร แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่าจะยื่นฟ้อง น.ส.สิริกาญจน์ ประธานแผนกอีกท่านหนึ่งของศาล ซึ่งรับสำนวนคดีของตน โดยอ้างว่ามีถ้อยคำลักษณะอคติว่า “ฉันเกลียดไอ้โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จะดำเนินการฟ้องในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ โดยถือว่าเป็นอีกหนึ่งการแสดงออกถึงความไม่เป็นธรรมที่ตนได้รับ และยืนยันจะต่อสู้เพื่อให้ชื่อเสียงกลับคืนมา.
ข่าวที่น่าสนใจ
สวยสะกดสายตา “เจี๊ยบ พิจิตตรา” ออร่าพุ่งเต็มเฟรม
by TVPOOL ONLINE