จากกระแสวิพากษ์ในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับกรณีผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ เทศบาลนครปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกเรียกเก็บค่าปรับตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 เป็นจำนวนเงินสูงถึงหลักแสนบาท ล่าสุดมีการยืนยันว่า มีผู้ค้ารายย่อยบางรายถูกเรียกเก็บค่าปรับตั้งแต่ 90,000–159,000 บาท สร้างความตกใจและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ชุมชนซอยอัมพรไพศาล 18 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด พบสองสามีภรรยาอายุ 25 ปี ผู้ค้าหมูปิ้ง–ไก่ปิ้ง เล่าว่า เริ่มขายของมาตั้งแต่ปี 2563 และเคยถูกเจ้าหน้าที่เทศบาลเข้าตรวจสอบ พบว่ามีบางจุดไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น การวางถุงไก่สดบนพื้น และมีลูกจ้างนั่งเสียบไก่บริเวณหน้าบ้าน หลังได้รับคำเตือนก็ได้ปรับปรุงตามคำแนะนำ ทั้งทำบ่อดักไขมันเพิ่ม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจอีกครั้งก็ยังไม่ผ่าน พร้อมแนะนำให้มี ตู้แช่อาหารแบบชั้น และ ติดตั้งถังดับเพลิง ซึ่งเกินกำลังทุนของตน จึงเลิกขายและหันไปเป็นไรเดอร์แทน
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวได้รับหนังสือแจ้งค่าปรับเป็นจำนวน 159,000 บาท โดยอ้างว่าเคยมีหนังสือเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหามาก่อน หากเซ็นรับอาจต้องเสียค่าปรับเพียงเล็กน้อย แต่สุดท้ายกลับถูกเรียกเก็บในจำนวนสูงถึงหลักแสนบาท เจ้าตัวเผยว่า “มันมากเกินไปครับ รายได้ทั้งปีของผมยังไม่ถึงเท่านี้เลย อยากให้มีการไกล่เกลี่ยหรือลดค่าปรับลง”
ผู้สื่อข่าวยังทราบว่า มีผู้ค้ารายอื่น เช่น ลุงกับป้าขายข้าวโพดต้ม ก็ถูกเรียกค่าปรับจำนวน 90,000 บาท เช่นกัน จนทั้งคู่ต้องกลับบ้านที่จังหวัดมหาสารคามไปตั้งตัวใหม่
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง รองปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นมติของ คณะกรรมการระดับจังหวัดนนทบุรี โดยมีการประชุมระหว่างเดือนเมษายน–กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีหนังสือตอบกลับจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ลงนามโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เทศบาลดำเนินการตามกฎหมาย
ในกรณีของพ่อค้าแม่ค้าหมูปิ้ง–ไก่ปิ้ง ถูกพิจารณาว่ามีความผิด 3 ฐานหลัก ได้แก่
-
ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 38, 72) ปรับ 37,500 บาท
-
ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้หยุดกิจการ (มาตรา 45, 80) ปรับเพิ่มอีก 37,500 บาท
-
ดำเนินกิจการต่อเนื่องโดยไม่ขออนุญาต จึงถูกปรับรายวันวันละ 3,000 บาท รวม 28 วัน เป็นเงิน 84,000 บาท
รวมค่าปรับทั้งหมด 159,000 บาท โดยเทศบาลระบุว่าไม่ได้เป็นผู้ออกค่าปรับเอง แต่เป็นการดำเนินการตามมติของคณะกรรมการจังหวัด
รองปลัดเทศบาลกล่าวว่า
“เทศบาลเป็นเพียงคนกลาง ทำตามหน้าที่ตามกฎหมาย หากไม่ดำเนินการก็จะถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่เราเข้าใจและเห็นใจประชาชน เพราะเงินจำนวนนี้ไม่ใช่น้อย หากผู้ถูกปรับไม่เห็นด้วยก็สามารถอุทธรณ์ได้ตามขั้นตอน”
ทั้งนี้ เทศบาลยืนยันว่า พร้อมอำนวยความสะดวกในการอุทธรณ์และไกล่เกลี่ย เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้รับผลกระทบจนเกินไป แต่ก็ย้ำว่า กฎหมายด้านสาธารณสุขมีไว้เพื่อคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนในภาพรวม.
ข่าวที่น่าสนใจ
ต่าย เพ็ญพัตร์ ทำให้บุญให้ลูกชายหลังเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง จากไปก่อนวัยอันควร
“เจนนิสต้า” โพสต์ขอบคุณ หนุ่มประมูลเสื้อไวรัลสีชมพู เพื่อร่วมทำบุญมูลนิธิ ยอดบิดจบที่ 3 แสนบาท
by TVPOOL ONLINE