คุณติ๊ก เล่าว่า เธอแต่งงานอยู่กับสามีมาแล้วกว่า 3 ปี มีลูก 2 คน ตอนที่จับได้ว่าสามีแอบคบชู้ ลูกคนโตอายุ 1 ขวบ ส่วนคนเล็กอยู่ในครรภ์ โดยผู้หญิงอีกคนมีตำแหน่งเป็น ‘นางงาม’ จากเวทีประกวดชื่อดัง และมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่กลับมามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสามีของเธอ เธอยังระบุว่า ไปเจอข้อความแชทสนทนาที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง 18+ และเธออดทนมานานถึง 1 ปี ก่อนตัดสินใจหย่า เธอยังระบุว่าอยากให้เป็นอุทาหรณ์ และคนแบบนี้ไม่ควรมีที่ยืนในสังคม ทั้งที่ตัวเองก็มีสามีอยู่แล้ว แต่กลับทำลายครอบครัวคนอื่น และยังหลอกเงินจนสามีเธอต้องเป็นหนี้สิน หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยมีคำใบ้ว่านางงามคนดังกล่าวเป็น “คนสวยเมือง … และเป็น นางงามเวทีดังปีนี้ด้วย
คุณติ๊กเริ่มเล่าในรายการว่า รู้จักกับสามีคนนี้เมื่อปี 2563 โดยน้องสาวของตนทำงานกับสามี และได้ชักนำให้ได้รู้จักกัน ตอนนั้นเราทำงานเป็นครู ส่วนสามีทำโรงมะพร้าว ตอนนั้นรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้มาก ก็พยายามดูๆ ไป พูดคุย ศึกษาดูใจแต่ไม่ได้ชอบเขาในทีแรก เพราะกังวลเรื่องความเจ้าชู้ โดยสามีอายุมากกว่าเรา 11 ปี
แต่ต่อมา พูดคุย ศึกษากันมา ผ่านมาประมาณ 1 ปี เขาบอกว่า เขาอยากจะเลิกสิ่งไม่ดีทุกอย่าง กลับเนื้อกลับตัว อยากสร้างครอบครัว อยากลงหลักปักฐานให้มั่นคง ครอบครัวของสามีถูกใจเราด้วย พ่อแม่สามีรักเรามาก มีการมาสู่ขอ แต่งงานกันเป็นกิจลักษณะ แต่งงานแล้ว 1 เดือน มีลูก เราลาออกจากครู ไปอยู่เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก อยู่ที่บ้านของสามี และทำงานบัญชีให้โรงมะพร้าวของเขา จากนั้นเรามีลูกด้วยกันก่อน ก่อนที่จะไปจดทะเบียนสมรสกัน
ตอนที่มีลูกกันคนแรก เขาดูแลเราอย่างดี ดูแลเรา ดูแลลูก เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ รู้ใจเราทุกอย่าง ทำกับข้าว ซื้อของมาให้กินจะรู้หมดว่าเรากินอะไร ไม่กินอะไร ทุกคนรอบตัวก็รู้สึกว่า สามีกลับตัวเป็นคนดีแล้วจริงๆ เราก็คิดว่าจะฝากชีวิตในบั้นปลายไว้กับเขา
เหตุการณ์มาเกิดตอนปลายปี 66 วันนั้นมีการจัดงานเลี้ยงวันเกิดลูกน้องในโรงงานมะพร้าว จัดงานเลี้ยงสังสรรที่โรงงาน มีการจ้างเด็กเอนเตอร์เทน มาชงเหล้า คุณแตงโมเสริมว่า ผู้หญิงคนนี้ เคยมาเอนเตอร์เทน เวลาที่โรงงานจัดงานบ่อยๆ และสังเกตว่าเขาสนิทสนมกับคุณอา (สามีคุณติ๊ก) จะเอนเตอร์เทน ดูแลกันเป็นพิเศษมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกินเลยกัน เพราะคิดว่าเป็นปกติของอาชีพเอนเตอร์เทน ชงเหล้า โดยคุณติ๊กบอกอีกว่า เพิ่งมารู้ภายหลังว่า สองคนนี้ (สามี กับ เด็กเอนเตอร์เทน) รู้จักกันมาก่อนที่สามีจะมารู้จักตน รู้จักจากการที่จ้างมาเอนเตอร์เทนนี่เอง
วันนั้นดึกแล้ว เราจะพาลูกเข้านอน โทรหาสามีให้มาช่วยดูลูก แต่สามีไม่รับ พอไปเปิดกล้องวงจรปิดดู เห็นเด็กเอนเตอร์เทนสาวคนนี้ เดินไปขึ้นรถของฝ่ายหญิงเอนเตอร์เทน แล้ว สามีก็เดินตามไปขึ้นรถด้วยกัน พอขึ้นไปนั่งบนรถ เขาก็สตาร์ทรถ แต่ไม่ได้ขับออกไปไหน อยู่กันบนรถ 2 คน ตลอด 20 กว่านาที ผิดสังเกตจึงต้องเดินออกไปดู คุณติ๊กบอกว่า วินาทีที่เดินออกไป เห็นว่าสามีถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ซึ่งเรากำลังกดโทรแต่เขาไม่รับ แปลว่าเขาไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ รับสายไม่ได้ แต่เขาไม่รู้จริงๆว่าเราออกมายืนจ้องอยู่แล้ว
หลังเห็นภาพกับตา คืนนั้นเราทะเลาะกับสามีทันที รู้แน่ว่าเขามีอะไรกันแน่นอน แต่สามีไม่ยอมรับผิด เขาอ้างว่าแค่ไปจ่ายเงิน พอเราทักแชตไปถามฝ่ายหญิง เขาก็ไม่ยอมรับ ตอนแรกเขาบอกว่า สามีเราไม่ได้ขึ้นรถไปกับเขา แต่เราบอกว่าเรามีวงจรปิดนะ พอส่งวงจรปิดให้ดู ผู้หญิงก็อ้างว่า ไม่มีอะไรจริงๆ เขาบอกว่าเขามีแฟนไปด้วย แฟนเขาอยู่บนรถ แต่มันไม่จริงอยู่แล้ว เพราะก่อนที่ตนจะเห็นภาพเขาเดินไปขึ้นรถด้วยกัน รถดับเครื่องอยู่ จะมีคนได้ยังไง เขาเพิ่งติดเครื่องตอนเขากับสามีเราเดินไปขึ้นรถ ยังไงก็ไม่ยอมรับ
ครั้งนั้นเราไม่รู้จะทำยังไง มั่นใจว่ามีเรื่องเกินเลยแน่นอน แต่ว่าเรามีลูกน้อย เราไม่รู้จำอย่างไร ก็เลยปล่อยไปก่อน เพราะสามีเราเองก็เคยมีประวัติเรื่องผู้หญิงมาก่อน ยังไม่รู้จะแก้ยังไง ก็ใช้ชีวิตกันไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในเวลาต่อมา “ดาว” สาวเอนเตอร์เทน ชงเหล้า ที่ถูกพาดพิง โฟนอินมาชี้แจงเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุ ปลายปี 2566 โดยดาวบอกว่า สามีของคุณติ๊ก แอบเอาทิปมาให้บนรถ โดยที่บนรถ มีแฟนของดาวนอนเล่นอยู่หลังรถ มีบุคคลที่ 3 อยู่ในรถ ไม่ได้ทำอนาจารอะไรกันในรถแน่นอน แต่ถามว่า ทำไมถึงอยู่ในรถกันนานขนาดนั้น เราก็ไม่รู้ เราจำไม่ได้ เพราะเรื่องมันนานมาแล้ว แต่ตอนนั้น พอลงจากรถมา ทางเจ้าภาพ (สามีและคุณติ๊ก) มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเสียงดัง สามีเขาไล่ให้เรากลับทันที บอกว่าไม่อยากให้เรามีปัญหา เราก็เลยกลับ
เมื่อทนายแก้วถามว่า คุณดาว คบหามีสัมพันธ์กับสามีคุณติ๊กจริงไหม คุณดาวยืนยันว่า แค่คุยแชตกัน แม้จะมีข้อความ 18+ แต่ว่าไม่ได้มีอะไรกัน แค่ใช้คำพูดขำๆ เขาชวนเราไปทำงานขายมะพร้าว ก็เลยคุยกัน แต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ทางกายกัน
คุณติ๊กบอกว่า ตอนแรกที่เราถามดาว ดาวยอมรับกับเราว่า เคยมีสัมพันธ์ทางกายกันในช่วงแรกๆ แต่หลังๆ ไม่มีแล้ว
เมื่อถามประเด็นนี้ คุณดาวอ้างว่า เคยคบหากับสามีคุณติ๊กมาก่อน ก่อนที่เขาจะมาแต่งงานกับคุณติ๊ก แต่เลิกรากันไป ก็ไม่ได้กลับมาสานสัมพันธ์หรือมีสัมพันธ์ทางกายกันอีก แต่ก็ยอมรับว่า ครั้งหลังที่กลับมาคุยกัน (หลังจากที่ฝ่ายชายแต่งงานกับคุณติ๊กแล้ว) ฝ่ายชายยังชอบตนอยู่ เขาชวนตนมาทำงาน แต่ตนคิดแค่ว่า ตนอยากทำงานเฉยๆ อยากเลิกอาชีพกลางคืน ไม่ได้อยากจะมีอะไรเกินเลยกับเขาเลย
ต่อมา สองฝ่ายโต้ตอบกันเรื่องสลิปเงิน 2 แสนบาท ซึ่งคุณติ๊ก และ แตงโม พยายามไล่บี้ให้คุณดาวตอบว่า สลิป 2 แสนบาทนี้เป็นค่าอะไร เพราะคุณดาวเองบันทึกไว้ในท้ายสลิป แต่คุณดาวพยายามเฉไฉไม่ยอมตอบตรงๆ อ้างว่าคุณติ๊กไปบังคับให้เขากรอกว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของคุณติ๊ก หรือไปทำให้ลูกของคุณติ๊กเสียใจ
คุณติ๊กเล่าว่า ในเมื่อคุณดาวไม่ยอมตอบ จึงขอเปิดหลักฐานเป็นแชตไลน์ที่คุณดาว คุยกับสามีของเธอ ที่สามีส่งรูปขณะพาลูกคนเล็กอายุแค่เดือนเดียวไปฉีดวัคซีน แต่ดาวกลับพิมพ์ตอบกลับมาในแชตของสามี เรียกลูกของตนเสียๆ หายๆ ด่าลูกของเธอ ทำให้เธอรับไม่ได้ ผู้หญิงด้วยกันจะมาด่าเธอ เธอคิดว่าเธอทนได้ แต่มาด่าลูกของเธอ เธอรับไม่ได้จริงๆ
แต่ดาวตอบกลับว่า ตนรู้ดีว่าทำลังทำอะไรอยู่ ตนไม่ได้ด่าเด็ก ตนจะด่าเด็กทำไม และไม่เคยคบหากับสามีของคุณติ๊กแน่นอน ที่ยังอยู่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็เพราะผู้ชายชวนตนไปทำมะพร้าวด้วยกัน จนตอนนี้มีเรื่องขึ้นมาก็ยังต้องทำ เพราะมะพร้าวมันเป็นธุรกิจของแฟนของตน ของครอบครัวตน จะให้เลิกทำได้ยังไง
ส่วนเรื่องรถกระบะ เมื่อถามว่า รถกระบะที่ออกมา สามีคุณติ๊กไปค้ำประกันออกรถให้คุณดาว ในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกัน จะค้ำให้กันทำไม คุณดาวบอกว่า มันจำเป็นต้องออกรถกระบะมาวิ่งงานมะพร้าว แต่ตนออกรถไม่ได้ ต้องหาคนมาค้ำ สามีคุณติ๊กก็เลยไปค้ำให้
คุยมาถึงตรงนี้ คุณแตงโมถึงกับต้องไล่บี้ถามว่า อาของตน (สามีคุณติ๊ก) บอกว่าที่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับคุณดาว เพราะอาไปยืมเงินคุณดาวมา 2-3 ล้าน คุณดาวบอกว่า ก็ให้เขายืมจริง แต่ไม่ได้มีถึง 2-3 ล้าน อาชีพพริตตี้ เด็กเอน ไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น
คุณแตงโมบอกว่า เราไม่ได้ดูอาชีพของคุณ แต่หลักความจริง ดาวไม่น่ามีเงินมาให้อาของเรายืมขนาดนั้น ถ้ามีเงินให้ยืมได้ แล้วทำไมออกรถเองไม่ได้ แล้วถ้ามีแฟนทำกิจการมะพร้าว มีกิจการ แล้วทำไมไม่ให้แฟน ไม่ให้คนในบ้านค้ำออกรถ แล้วมาให้อาเราค้ำทำไม
ดาวบอกว่า ผู้ชายเสนอมาเองว่าเขาจะช่วย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
แตงโมสวนว่า แล้วเอาทำไม ทำไมไม่ให้สามีตัวเองทำ ทำไมไม่ใช้คนที่บ้านที่มีกิจการใหญ่โตค้ำประกันให้ ให้สามีคนอื่นค้ำทำไม เราเป็นคนในครอบครัว เราเตือนคนของเรามาตลอด เราขอให้เขาเลิกยุ่งกับดาว แต่เขาบอกว่าเลิกไม่ได้เพราะเป็นหนี้ดาว
ดาวบอกว่า ไม่ได้ให้เงินยืมขนาดนั้น แต่สามีคุณติ๊กมาขอให้ตนบอกคนอื่นว่าแบบนั้น ว่าเขาเป็นหนี้ดาว เพื่อให้ดาวยังทำงานด้วยกันต่อไปได้เรื่อยๆ
คุณแตงโมยิ่งไล่บี้ต่อไปอีกว่า ในเมื่อสามี (ของดาว) มีธุรกิจมะพร้าว มีสวน แล้วทำไมต้องมาทำกับสามีคนอื่นเขาอีก ไหนว่าตัวเองมีสวน ทำธุรกิจมะพร้าว
ดาวตอบว่า เราไม่ได้ทำธุรกิจ แฟนเรามีสวน ปลูกมะพร้าว แต่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ ว่าเก็บแล้วจะเอาไปส่งให้ใคร สามีคุณติ๊กเป็นคนมาให้ความรู้เรื่องนี้ แต่ถามว่าก่อนหน้านั้นแฟนเราเอามะพร้าวไปส่งล้งไหน โรงงานไหน เราไม่รู้มาก่อน เขาทำของเขามา เราเพิ่งมาคบกับแฟนของเราได้ 3 ปี แต่เพิ่งมาร่วมธุรกิจกับสามีของคุณติ๊กในปีนี้เอง
Cr.โหนกระแส
by TVPOOL ONLINE