เรทติ้งทีวีดิจิตอล
หลังออกอากาศเป็นทางการ
คำถามที่เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันขณะนี้คือ สถานะทีวีดิจิตอลเป็นเช่นไร ช่องไหนจะอยู่ ช่องไหนจะไป อนาคตทีวีดิจิตอลเป็นเช่นไร คนมีสายป่านยาวถึงจะอยู่รอด สายป่านน้อยก็ม้วนเสื่อกลับบ้าน ผ่านมาถึงวันนี้ปีกว่าๆ กับสภาพความเป็น “ทีวีดิจิตอล”…ทุกคนอยากรู้ว่าอาการของทีวีดิจิตอลเป็นอย่างไร เรามามอง “ต้นทุน” ของทีวีดิจิตอลกัน ซึ่งเป็นจุดหักเหที่ไม่ค่อยมีใครมองความต่าง…ผมจะเล่าให้ฟังดังนี้ครับ
ช่องที่เป็นเคเบิ้ลมาก่อนแล้วปรับเป็นดิจิตอล จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงเยอะ ไม่ว่า สตูดิโอ เครื่องไม้เครื่องมือ สตูดิโอ และสตาฟฟ์ เรียกว่าลงทุนไม่ถึง 50% ของเงินลงทุนทำช่องใหม่
ส่วนช่องจากเคเบิ้ลมาก่อน เช่น เวิร์คพอยท์, ช่อง 8, โมโน (อลัวร์ ทีวี) สปริงนิวส์, เนชั่นทีวี, ทรู, TNN24, วอยซ์ทีวี, ทีวีพูล ช่องเหล่านี้ต้นทุนการผลิตจะไม่มาก แต่จะมีรายจ่ายเพิ่มคือ ผู้บริหารหรือทีมทำงานเพื่อสร้างหน้าตาให้กับสถานี นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ช่องที่ใหม่เอี่ยมไม่เคยเป็นเคเบิ้ลมาก่อน ต้องควักเงินลงทุนตั้งแต่สร้างสตู ซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการออกอากาศ รับพนักงาน ซื้อกล้องใหม่หมด เช่น ไทยรัฐ, PPTV, Bright TV, Amarin TV, New TV, Now TV เป็นต้น
การลงทุนต่างกันประมาณ 50% ของเงินลงทุน…แค่นี้ยังไม่พอ สถานี โทรทัศน์ดิจิตอลต้องมีงบโฆษณาสถานีของตัวเองอีกเป็นร้อยล้านหรือมากกว่า (ดูตามชาร์ตที่ผมลงให้ดูว่าช่องไหนโฆษณาตัวเองมากที่สุดบ้าง)
พูดซ้ำอีกทีครับ…ทีวีดิจิตอลลงสนามสู้กันจริงๆ และเป็นเวทีดิจิตอล 100% เมื่อ 11 ตุลาคม 2557 คือวันที่ช่อง 3 ยอมออกอากาศแบบคู่ขนาน หลังจากยื้อมา 6 เดือนเต็ม ไม่ใช่นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ที่เปิดประมูลหรือนับ 1 เมษายน 2557 วันที่ กสทช.อนุมัติให้ออนแอร์อย่างเป็นทางการ จาก 11 ต.ค. 57 ถึงวันนี้ก็เพียงแค่ 4 เดือนกว่าเองๆ ไม่ใช่ 1 ปี อย่างที่เข้าใจ
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ งบโฆษณายังคงอยู่กับช่อง 3 ไม่กระจายสู่ธุรกิจทีวีดิจิตอล หลังจาก 11 ตุลาฯ 57 งบที่อยู่กับช่อง 3 จากเอเจนซี่จึงกระจายตัวสู่กลุ่มทีวีดิจิตอลโดยรวมมากขึ้น–ต้องบอกว่า งบโฆษณาเพิ่งกระจายสู่ธุรกิจโดยรวมของทีวีดิจิตอล
อัตราโฆษณาทีวีดิจิตอลจากอยู่ที่นาทีละ 5,000 บาท ในวันที่ทีวีดิจิตอลออนแอร์วันแรกคือ 1 เม.ย. 57 พอมาถึง 11 ตุลาคม (บางช่อง) ก็ขยับมาขายนาทีละ 30,000 บาท สิ้นมกราคม 2558 อัตราโฆษณา (บางช่อง) ขยับจากนาทีละ 30,000 บาท มาขายกันที่นาทีละ 50,000 บาท และคาดว่าในเดือนเมษา 58 (บางช่อง) จะขยับมาเป็นนาทีละ 100,000 บาท… นี่คือผลพวงจากการลงมาสู่สนามดิจิตอลของช่อง 3 แบบคู่ขนานในวันที่ 11 ตุลาคม 2557
วันนี้ผมจะพูดถึง 10 อันดับ ของทีวีดิจิตอลที่เรทติ้งดีที่สุด ไม่รวมสถานีเก่าช่อง 3, ช่อง 7, ช่อง 5, ช่อง 9 (อนาล็อก) เรียงลำดับให้ดูดังนี้
อันดับ 1 ช่องเวิร์คพอยท์, อันดับ 2 ช่อง 8 อาร์เอส, อันดับ 3 ช่อง ONE GMM, อันดับ 4 ช่อง MONO, อันดับ 5 ช่องไทยรัฐทีวี, อันดับ 6 ช่องไทยทีวี (ทีวีพูล), ช่องสปริงนิวส์, อันดับ 7 New TV และช่อง Bright TV อันดับ 8 ช่อง True 4u และช่อง GMM Channel อันดับ 9 คือช่อง Nation TV, ช่อง 3 Family, ช่อง TNN24 และช่อง Amarin TV อันดับ 10 คือช่อง 3SD, ช่อง PPTV, ช่อง Now TV, ช่อง Voice TV
ถ้าเรียงช่องชนะเลิศประเภทวาไรตี้ ประเภทชัดแจ๋ว (HD) ช่องวัน
แกรมมี่ยืนอันดับที่ 1 ช่องวาไรตี้โคตรชัด ช่องความชัดธรรมดาๆ ปกติ (SD) ช่องเวิร์คพอยท์ติดอันดับ 1 ส่วนประเภทข่าวสาร-สาระ อันดับ 1 คือช่องไทยทีวี (ทีวีพูล)
ตัวเลขการสำรวจนี้จากบริษัทวิจัยระดับโลก ที่วงการเอเจนซี่ยอมรับและใช้บริการคือ AC Nielsen…ซึ่งสำรวจแล้วมารวบยอดในเดือนมกราคม 2558 เป็นตัวเลขออกมา (ดูจากตารางสำรวจ)
สำหรับทีวีดิจิตอลที่ใช้เงินโปรโมทสถานีตัวเองให้คนรู้จักตั้งแต่ 1 เมษายน ที่เริ่มออกอากาศเป็นต้นมา ใช้เงินมากที่สุด 10 อันดับ มีดังนี้ อันดับ 1 PPTV 52 ล้านบาท อันดับ 2 MONO TV 37 ล้านบาท อันดับ 3 ช่องวัน – แกรมมี่ 29 ล้านบาท อันดับ 4 ช่อง 3 SD 28 ล้านบาท อันดับ 5 สปริงนิวส์ 23 ล้านบาท
อันดับ 6 ไทยรัฐทีวี 22 ล้านบาท อันดับ 7 New TV 20 ล้านบาท อันดับ 8 GMM แกรมมี่ 19 ล้านบาท อันดับ 9 Voice TV 16 ล้านบาท อันดับ 10 ช่อง 8 – อาร์เอส 14 ล้านบาท
ส่วนสำหรับช่องที่ใช้งบโปรโมทตัวเองน้อยที่สุดคือ ช่องเวิร์คพอยท์ และช่องไทยทีวี (ทีวีพูล)… แต่ก็ขยับเป็น อันดับ 1 ในประเภทที่ตัวเองประมูล (Workpoint อันดับ 1 ประเภทวาไรตี้และไทยทีวี (ทีวีพูล) ช่อง 17 อันดับ 1 ประเภทข่าวและสาระ)
นี่คือการใช้เงินของทีวีดิจิตอลที่มองเห็นเป็นรูปธรรม สะท้อนออกมาเป็นเรทติ้งจากการสำรวจของ AC Nielsen…เมื่อสิ้นไตรมาสแรกของปีคือ สิ้นเดือนมีนาคม จะมีตัวเลขความนิยมผู้ชมทีวีดิจิตอลมาให้อัพเดทอีก ที่คอลัมน์นี้แหละครับ
อนาคตทีวีดิจิตอลขึ้นอยู่กับผลสำรวจของ AC Nielsen เพราะโฆษณาที่เอเจนซี่จะแพลนงบก็ดูจากตัวเลขของ Nielsen ทั้งสิ้น ใครเป็นแฟนช่องไหนก็ติดตามกันเอง เพราะรสนิยมผู้ชมทีวีมันแตกต่างกัน…คนที่ใช้งบน้อยที่สุด สำหรับการโปรโมทตัวเองอย่าง Work Point ทำไมติดอันดับสถานีอันดับ 1… น่าสนใจครับ วันหน้าผมจะเล่าให้ฟังทำไมถึงเป็นเช่นนี้
Tony Aigner
by TVPOOL ONLINE
