สำหรับแนวทางในการตกแต่ง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะย้อนไปในยุคไหน ซึ่งส่วนใหญ่ที่นิยมกันก็คือ ยุคเรโทร (Retro) และ ยุควินเทจ (Vintage) แล้วสองยุคนี้มันต่างกันอย่างไรล่ะ?
ก่อนอื่นเลยต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการแต่งบ้านทั้งสองแนวนี้ ได้รับอิทธิพลมาจากแฟชั่นของยุคนั้นๆ กลิ่นอายของยุคสมัยที่แตกต่างนี้เองที่สร้างอัตลักษณ์อันเด่นชัดให้กับการแต่งบ้าน ทั้งแนวเรโทร และวินเทจ
การตกแต่งแนวเรโทร
การแต่งบ้านแนวเรโทรนั้น จะให้อารมณ์คึกคักสนุกสนาน ดูเท่ อาจจะสีสันเน้นฉูดฉาดหรือโทนขรึมๆ ก็ได้ โดยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ใช้จะเป็นดีไซน์ที่มาจากแฟชั่นช่วงปี ค.ศ. 1960 – 1980
ซึ่งการแต่งบ้านแนวนี้จะเน้นความโดดเด่นของตัววัสดุตกแต่งเป็นพิเศษ สีต้องเด่น รูปทรงต้องแปลกตา ในบางครั้งก็อาจจะดูล้ำยุคแบบเชยๆ (อาจจะนับว่าทันสมัยในยุคนั้นก็ได้)
การตกแต่งแนววินเทจ
ในขณะเดียวกัน การตกแต่งสไตล์วินเทจ จะเน้นอารมณ์ที่ดูสดใส สบายๆ อ่อนโยนแบบผู้หญิง ต้นแบบแฟชั่นของสไตล์วินเทจจะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1910 – 1930 ยุคทองของผู้ดีนั่นเอง (ยุคที่ผู้หญิงใส่กระโปงสุ่มไก่และผู้ชายสวมสูทใส่หมวก)
โดยการแต่งบ้านแนววินเทจ จะเน้นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ทำจากวัสดุที่ดูเก่าๆ เรียบง่าย หรืออาจจะใช้ของมือสองก็นับว่าเป็นวินเทจเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังเน้นรูปทรงที่นุ่มนวล อ่อนช้อย ราวกับสัดส่วนที่โค้งเว้าของหญิงสาวนั่นเอง
ถ้าใครชอบแนวแมนๆคึกๆก็ต้องเรโทร ส่วนใครชอบแบบหวานๆก็ต้องวินเทจล่ะนะ ^_^
ถึงแม้ว่าสองสไตล์นี้จะอยู่คนละยุคสมัยกัน แต่เชื่อไหมว่าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านทั้งแบบเรโทรและวินเทจ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่ขัดเขิน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการของเราเองด้วย ว่าจะสร้างสรรค์ออกมาให้โดนเด่นได้แค่ไหน
นอกจากนี้ ยังมีการแต่งบ้านอีกแนวนึงก็คือแนวโบราณ (Antique) ซึ่งจะเน้นความเก่าเป็นพิเศษ ของที่ใช้แต่งบ้านต้องเป็นของโบราณ อายุไม่ต่ำกว่าร้อยปียิ่งดี มีร่องรอยของการใช้งาน และถ้าของชิ้นนั้นๆ มีประวัติที่ซับซ้อนด้วย ก็ยิ่งตอบโจทย์การแต่งบ้านแนวนี้เลยล่ะ (แต่ก็อาจจะไม่ค่อยนิยมกันเท่าไหร่ นอกจากคนที่ชื่นชอบจริงๆ)
ที่มา : Pantip
by TVPOOL ONLINE