นักรักประเภทไหนก่อนที่จะกระโดดขึ้นเตียงกับเขา มีคำกล่าวที่ว่าอย่าตัดสินหนังสือจากปก การที่ผู้ชายคนนี้ดูดีราวกับร่วงมาจากสวรรค์ ไม่ได้รับประกันว่าอย่างอื่นจะดีด้วย เสื้อผ้า กิริยามารยาท สไตล์ อาหารและภาษากายล้วนเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเขาประพฤติอย่างไรบนเตียงนอน ดังนั้นเรามาเริ่มกันที่
วิถีการกิน
มีคนอยู่สองประเภทในโลกนี้คือ คนที่กินเพื่ออยู่กับคนที่อยู่เพื่อกิน พูดกันตามตรง ผู้ชายที่หลงใหลชื่นชมโฆษณาช็อคโกแล็ตนั้น น่าพิศมัยกว่าผู้ชายหน้าท้องซิกส์แพ็คที่กินแค่อกไก่นึ่งชิ้นเดียวเป็นมื้อ เย็น ทำไมหรือคะ คนที่เอนจอยกับการกินส่วนมากจะส่อให้เห็นว่าเขามีความอยากกับเรื่องบนเตียง ในปริมาณที่เท่าเทียมกัน ลองดูวิธีที่เขากินสิคะ นั่นอาจเป็นสัญญาณสื่อให้รู้ถึงวิธีที่เขาขบเล็มติ่งหู หรือไซ้ซอกคอของเรา…อื้อฮือ เราอาจสรุปเป็นทฤษฎีได้ว่า ผู้ชายที่ไม่ชื่นชอบการลิ้มลองอาหารแปลกใหม่ คงยากที่จะกล้าเปิดโลกทัศน์แห่งกามาสุตราในห้องนอน และที่แย่ยิ่งกว่าคือ ผู้ชายประเภทที่เรียกเด็กเสิร์ฟมาบ่นโน่นนี่ แล้วส่งอาหารกลับเข้าครัวตั้ง 3-4 ครั้ง ลองนึกดูสิคะว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรถ้าเรือนร่างของเราไม่ได้มาตรฐานใน สายตาเขา ขอแนะนำให้แต่งงานกับผู้ชายที่เอนจอยอีทติ้ง และสนุกกับการป้อนอาหารเข้าปากเรา
วิถีการแด๊นซ์
เคย มีคนพูดว่า การเต้นรำก็คือ การมีเซ็กส์ในท่ายืนโดยสวมเสื้อผ้าครบชุด ดังนั้นลองสังเกตดูลีลาการแด๊นซ์ซึ่งเป็นสัญญาณสื่อถึงลีลาบนเตียงนอน มี 3 อย่างที่ต้องสังเกตคือ ความหลากหลาย จังหวะ และความอินไปกับดนตรี หากหนุ่มไหนแด๊นซ์โดยไม่ขยับเขยื้อนร่างกายท่อนล่างเลย พนันได้เลยว่าเขาไม่จี๊ดจ๊าดบนเตียงนอนแน่ ดีไม่ดีอาจพิศมัยการกุมมือมากกว่าการปั่มปั๊มกัน และควรระวังผู้ชายที่โชว์ลีลาบ้าๆบอๆบนฟลอร์เต้นรำ เพราะผู้ชายแบบนี้เปรียบเสมือนมีป้ายนีออนแขวนคอว่า ผมเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ แป๊บๆก็นอนแผ่ ผู้ชายที่น่าสนคือคนที่อินไปกับเสียงดนตรีโดยไม่สนใจใคร ย่อมมีโอกาสที่จะไม่ปิดกั้นตัวเองในห้องนอน และเต็มใจที่จะมีอารมณ์ร่วมเตลิดไปกับแรงปรารถนาอย่างแน่นอน และท้ายสุดให้สังเกตความหลากหลายของลีลาการเต้น หากเขาโชว์ลีลาอยู่แค่ 1-2 ท่า แสดงว่าเวลาอยู่บนเตียงเขาคงใช้แค่ 2 ท่วงท่าคือ อยู่ข้างบนกับอยู่ข้างล่าง
วิถีการพูด
หาก เขาพูดด้วยเสียงโมโนโทน และเปลี่ยนสีหน้าแค่ชั่วโมงละครั้ง หมายความว่าเวลาอยู่บนเตียงต้องน่าเบื่อแน่ๆ ผู้ชายที่ใช้มือชี้โบ๊ชี้เบ๊ประกอบคำพูดย่อมเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความเร้า ใจ กฎทั่วไปคือ ยิ่งเขามีทักษะทางการออกสังคมมากเท่าไร เขาก็ยิ่งสื่อสารบนเตียงได้ดีมากเท่านั้น ยิ่งเขาเข้ากับผู้คนได้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งเชื่อมต่อกับเราในเรื่องเซ็กส์ได้ดีขึ้น การสบตาก็สำคัญค่ะ หากเขาสามารถสบตาเราได้เนิ่นนาน โอกาสที่เขาจะเป็นคนดื่มด่ำพิศวาสเข้มข้นก็เป็นไปได้สูง อีกอย่างที่นำมาเป็นข้อสังเกตได้คือ เวลาออกไปร้านอาหารด้วยกันข้างนอก ถ้าเขาเลือกนั่งประจันหน้าเราและหันหน้าเข้าฝาผนังแทนที่จะนั่งมองคนเดินไป มา แสดงว่าเราคือผู้ชนะค่ะ เพราะว่ายิ่งเขาโฟกัสอยู่ที่คุณคนเดียวมากเท่าไร เวลาอยู่กันสองต่อสองเขาจะยิ่งพุ่งความสนใจให้เรามากขึ้นหลายเท่า
วิถีการสัมผัส
ไม่ใช่แค่เพียงวิธีการแตะเอวพาเราไปเข้าห้องน้ำหรือการกระทำใดๆกับเราเท่า นั้น แต่เป็นความสุภาพในการแสดงออกถึงความรู้สึกไม่ว่ากับใคร เช่น วิธีเซย์ฮัลโหลกับน้องสาว หรือเวลาเจอเพื่อนฝูงเขาทักทายกันอย่างไร เข้าไปจับมือหรือตบหลังตบไหล่กันป้าบๆ เขาทำตัวแข็งหรือไม่เวลามีใครเข้ามาทำสนิทสนม หรือพยายามรักษาระยะห่างกันมนุษย์อื่นเอาไว้ ยิ่งเขาแสดงความสนิทสนมได้อย่างลื่นไหลเพียงใด เขาก็จะยิ่งแสดงความรักตอนมีเซ็กส์ได้ลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้น วิธียืนก็เอามาวิเคราะห์ได้เช่นกัน ถ้าเวลายืนกับเรา เขายืนใกล้ชิดมาก แสดงว่าเขาไม่ลังเลเลยที่จะแสดงความรู้สึกกับเรา
วิถีการกอด
ถ้าเขาเอาแขนโอบตัวเราแล้ววางมือบนสะโพกเรา นั่นคือการเชื้อเชิญให้มีเซ็กส์อย่างชัดเจน ยิ่งถ้าเขาดึงร่างกายช่วงล่างของเราเข้าแนบชิดกับของเขาแนบแน่น พระเจ้าช่วย ! คงไม่ต้องบอกใช่ไหมคะว่าหมายความว่าอย่างไร ผู้ชายที่เดินกอดคอผู้หญิงนั้นส่อแววเป็นเพื่อนมากกว่าชู้สาว เขาจะมีทัศนคติต่อเรื่องชีวิตและเซ็กส์แบบไม่ซีเรียสจริงจัง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีใจกับเรื่องพรรณนี้ แต่มันหมายความว่าเขาสนใจที่จะสนุกมากกว่ามีเซ็กส์เต็มรูปแบบ ถ้าเขากอดแบบหมีถือเป็นข่าวดี คือเป็นการกอดแบบแนบชิดสนิททั้งตัว แสดงว่าเป็นคนเปิดเผย น่ารัก และไม่กลัวความสัมพันธ์ ก็แหม…แนบแน่นแม้แต่เสียงหัวใจเต้นยังได้ยิน และกอดที่เซ็กซี่ที่สุดคือ การที่เขาจับไหล่เราทั้งสองข้าง แล้วดึงเข้ามาหาตัวเองตรงๆ เวลาคนเราถูกจับที่ไหล่แบบนี้ ร่างกายจะเคลื่อนมาเองตามธรรมชาติ จากการกอดแบบอินโนเซ้นท์ก็สามารถกลายเป็นเร่าร้อนอ้อนรักได้…ว้าว
by TVPOOL ONLINE