เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ฟิลเลอร์ คืออะไร ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารประกอบของคอลลาเจนที่มีอยู่แล้วในผิวหนังของคนเรา ใช้สำหรับฉีดเพื่อเติมเต็มหรือเสริมในส่วนที่ต้องการบริเวณชั้นใต้ผิวหนัง ส่วนใหญ่แล้วในทางการแพทย์จะใช้สำหรับฉีดเติมแก้ไขปัญหาริ้วรอยหรือร่องลึกที่บริเวณส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า ลำคอ และตามผิวหนังบริเวณหน้าอก ซึ่งจะช่วยทำให้ผิวดูเต่งตึงกระชับขึ้น อีกทั้งยังสามารถฉีดเพื่อเสริมจมูก เสริมแก้ม และเสริมคางได้อีกด้วย ทั้งนี้ ปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์กำลังเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ อย่างมาก เนื่องจากช่วยในเรื่องความสวยความงาม และทำให้เราสามารถโกงอายุเนรมิตให้ใบหน้าดูเด็กและอ่อนเยาว์ลงได้เพียงชั่วข้ามคืน และหากสาว ๆ คนไหนที่กำลังคิดจะไปฉีดฟิลเลอร์นั้น บอกเลยว่ายังคงมีข้อควรรู้อีกหลาย ๆ อย่างที่ต้องศึกษาเอาไว้

 

1. ต้องฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ปัจจุบันมีหมอกระเป๋าหรือหมอเถื่อนที่รับฉีดฟิลเลอร์มากมาย ซึ่งจริงอยู่ว่าราคาอาจจะถูก แต่เสี่ยงอันตรายมาก ๆ เลยนะคะสาว ๆ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ยอมเสียเงินแพงหน่อย แต่ปลอดภัยก็ถือว่าคุ้ม ซึ่งควรฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากโรงพยาบาลเท่านั้น เพราะถ้าฉีดกับหมอเถื่อน หากฉีดผิดจุด หรือพลาดไปโดนจุดสำคัญบนใบหน้าอาจเกิดผลเสียตามมาได้

2. ฉีดฟิลเลอร์แบบไหนถึงจะปลอดภัย ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ในวงการแพทย์นิยมใช้จะเป็นสารกลุ่ม Hyaluronic Acid เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐาน อย. แล้ว ซึ่งก่อนที่จะฉีดสารเข้าสู่ร่างกาย เราควรแน่ใจก่อนว่าสารยี่ห้อนั้นปลอดภัยหรือไม่ เพราะปัจจุบันมีของเลียนแบบ รวมถึงมีสารปลอมแปลงเยอะ ซึ่งถ้าอยากแน่ใจ ควรดูยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ให้ดี ว่าผ่าน อย. แล้วจริงหรือไม่

3. ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้างโดยทั่วไปฟิลเลอร์มักจะนิยมฉีดเฉพาะที่ใบหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น ฉีดเติมร่องแก้ม ฉีดลดรอยเหี่ยวย่น ริ้วรอย รอยหลุมสิว เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้ฉีดเพื่อเสริมจมูก เสริมคาง เติมหน้าผาก เติมริมฝีปาก ร่องตา โหนกแก้ม หรือฉีดเพื่อยกกระชับใบหน้าก็ได้ แต่ในกรณีนี้แพทย์จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป และนอกจากนี้ยังสามารถฉีดเพื่อเติมผิวหนังบริเวณหน้าอกได้ด้วย แต่อย่าเข้าใจผิดว่าฉีดเสริมหน้าอกได้นะคะสาว ๆ เพราะในส่วนนี้ต้องใช้ฟิลเลอร์จำนวนมาก ซึ่งอาจเสี่ยงอันตรายได้

4. ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์มีอะไรบ้าง โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ทั้งนี้ในขณะที่ฉีดฟิลเลอร์คุณสาว ๆ อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เมื่อฉีดเสร็จแล้วแพทย์จะให้นอนพักสักครู่ เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัว จากนั้นก็สามารถกลับบ้านหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ ทั้งนี้หลังจากฉีดบางคนอาจไม่เป็นอะไรเลย แต่บางคนอาจจะมีอาการปวด บวม หรือแดงเล็กน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ต้องตกใจ จะหายไปเองประมาณ 1-2 วันค่ะ

5. ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ความเป็นจริงแล้วฉีดฟิลเลอร์จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด แต่ถ้าอยากให้ 100% ควรดูผลลัพธ์ประมาณวันที่ 4-5 เนื่องจากฟิลเลอร์และกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะหายบวมและเข้าที่ดีแล้ว ทั้งนี้หากดูผลลัพธ์แล้วยังไม่พอใจ อยากจะฉีดเพิ่ม หรือเติมส่วนไหนเพิ่มก็สามารถฉีดเพิ่มเติมได้ทันที

 6. ผลข้างเคียงของฟิลเลอร์การฉีดฟิลเลอร์อาจมีผลข้างเคียงตามมาได้ โดยหลังการฉีดอาจจะมีอาการตั้งแต่ไม่รุนแรง ไปจนถึงรุนแรงมาก อย่างเช่น เกิดผื่นแดง จุดแดง หรือจ้ำเลือดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จากรอยเข็มที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะมันจะหายไปได้เอง นอกจากนี้ก็อาจจะมีรอยแผลเป็นนูน เนื่องมาจากฉีดฟิลเลอร์มากไปหรือฉีดในตำแหน่งที่ตื้นเกินไป หรือฟิลเลอร์ไหลผิดตำแหน่งก็มี ซึ่งอาการเหล่านี้ถือว่าเป็นผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงนัก แต่ที่อันตรายก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง เช่น ฉีดเข้าหลอดเลือดอาจทำให้หลอดเลือดอุดตัน หรือแม้แต่การแพ้สารฟิลเลอร์ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจส่งผลร้ายแรงถึงเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
7. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์เมื่อฉีดเข้าไปจะไม่อยู่ถาวร ซึ่งสาร Hyaluronic Acid ชนิดนี้จะย่อยสลายได้เองตามกระบวนการของร่างกาย โดยส่วนใหญ่แล้วหากฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานครั้งหนึ่งจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน แต่ถ้าหากเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อย่างเช่น ซิลิโคนเหลว หรือพาราฟิน สารประเภทนี้จะไม่ย่อยสลายไปได้เอง ซึ่งหากฉีดเข้าไปหลาย ๆ ครั้ง เมื่อหมดอายุแล้วจะทำให้ไหลไปกองรวมกันเป็นพังผืด ซึ่งไม่สามารถฉีดให้สลายไปได้ เวลาเอาออกจะต้องขูดออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นถ้าคิดอยากจะฉีดฟิลเลอร์ จึงควรเลือกฉีดแบบที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุด
8. ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ ผู้ที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ ได้แก่ ผู้ที่แพ้สาร Hyaluronic Acid ผู้ที่แพ้ยาชา ผู้ที่ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด และไม่เป็นคนเลือดออกง่าย ไม่มีประวัติเป็นภูมิแพ้ รวมถึงคนที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ก็ไม่ควร เพราะคนเหล่านี้มีความเสี่ยงไม่ปลอดภัยสูง จึงไม่ควรฉีดฟิลเลอร์เด็ดขาด

by TVPOOL ONLINE