การฝังเข็มเป็นศาสตร์แพทย์แผนจีนที่มีมายาวนานนับสามถึงห้าพันปี ในสมัยโบราณมีการใช้การฝังเข็มรักษาได้หลายโรคและยังคงต่อเนื่องถึงปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ให้การรับรองถึงการฝังเข็มสามารถรักษาโรคต่างๆ เนื่องจากมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากขึ้น เช่น ในเรื่องปวดต่างๆ ตัวอย่างเช่น ปวดหลัง ปวดต้นคอ ปวดไหล่ ปวดเข่า ปวดข้อต่างๆ ปวดระบบประสาท ปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณใบหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุล ช่วยในภาวะต่างๆ เช่น ช่วยเรื่องนอนไม่หลับ อาการเพลียเรื้อรัง ภาวะเครียด ฮอร์โมนผิดปกติ โรคอ้วน โรคที่สัมพันธ์กับเบาหวาน ไขมันในเลือดสูงและความดัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเรื่องเกี่ยวกับผิวพรรณและความงามอีกด้วย
การฝังเข็ม เป็นการรักษาอาการผิดปกติของร่างกาย โดยการปรับสมดุลจากภายใน โดยใช้หลายทฤษฎีที่ปรับเรื่องของสมดุล เช่น ทฤษฎีตามแพทย์แผนจีนเรื่องของหยินหยาง หรือทฤษฎีเกี่ยวกับปัญจธาตุหรือธาตุทั้งห้า เกี่ยวกับระบบเลือด ระบบลมปราณ สารน้ำในร่างกาย การปรับอวัยวะภายในต่างๆ ในร่างกายให้สมดุล คนที่อยู่ในภาวะสมดุล คือ มีการทำงานของระบบอวัยวะภายใน เลือดลมปราณเป็นปกติ ส่งผลให้ผิวพรรณดี สุขภาพแข็งแรง โดยส่วนใหญ่คนเราอาจจะไม่สมดุลเท่ากันทั้งหมด บางครั้งอาจจะมีเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งเล็กน้อย แต่ร่างกายยังสามารถปรับตัวได้ แต่หากเกิดการเสียสมดุลมากเกินไป ร่างกายก็จะแสดงอาการผิดปกติออกมา โดยเกิดได้จากปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้มีภาวะไม่สมดุล เช่น อารมณ์ อาหาร การดำเนินชีวิต ความเครียดสิ่งแวดล้อมต่างๆ ปัจจัยเหล่านี้ก็ส่งผลทำให้ร่างกายขาดสมดุลได้ สิ่งที่ตามมาก็คือปัญหาเรื่องโรคต่างๆ รวมถึงปัญหาด้านผิวพรรณ ความงาม ไม่ว่าจะเป็นสิว จุดด่างดำ ฝ้า กระ ริ้วรอย ใบหน้าหมองคล้ำ ผมร่วง ผื่นผิวหนังต่างๆ ซึ่งเกิดจากการเสียสมดุลภายในและสะท้อนออกมาปรากฏให้เห็นภายนอก ดังนั้น การฝังเข็งจึงเป็นการรักษาที่ปรับแก้ความไม่สมดุล ซึ่งส่งผลทำให้ผิวพรรณและสุขภาพโดยรวมดีขึ้นไปคู่กันด้วย
ทำไมฝังเข็มถึงทำให้หน้าเด้งผิวพรรณเต่งตึง
ฝังเข็มเพื่อความงาม โดยมีหลักการปรับสมดุลภายใน ทำให้สุขภาพภายในร่างกายดีขึ้น ส่งผลต่อผิวพรรณ เป็นการชะลอความเสื่อมของผิวหนัง เป็นการทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น รวมทั้งมีกลไกในการเพิ่มคอลลาเจน ดังนั้น จึงทำให้ปัญหาผิวพรรณบนใบหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝ้า กระ สิว ริ้วรอย รอยคล้ำรอบดวงตา ถุงใต้ตา ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ มีอาการดีขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าในบางคนจะไม่ค่อยมีปัญหาผิวพรรณมากนัก แต่เมื่อฝังเข็มรักษาแล้วผิวก็จะดูเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น ทำให้ผิวพรรณสดใสดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังสามารถฝังเข็มหน้ารูปตัววีหรือฝังเข็มยกกระชับใบหน้าได้ด้วย
โดยกลไกการรักษาของการฝังเข็ม คือ เมื่อเวลาที่ปักเข็มลงไป จุดที่ถูกกระตุ้นจะส่งสัญญาณไปทั่วร่างกาย ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงสัญญาณ โดยเชื่อมต่อกับอวัยวะนั้นๆ โดยมีการสันนิษฐานว่าอาจมีการผ่านระบบต่างๆ ของฮอร์โมน โกรทแฟคเตอร์ ระบบที่เกี่ยวข้องกับเลือด และระบบภูมิคุ้มกัน มีการศึกษาที่ตัดชิ้นเนื้อจากการถูกกระตุ้นด้วยการฝังเข็มมาตรวจดู พบว่าสัญญาณการรักษายังคงอยู่ในเนื้อเยื่อ ซึ่งทำให้ผลรักษาจากการฝังเข็มยังดีต่อไปเรื่องๆ การฝังเข็มจึงช่วยในเรื่องของการชะลอวัย ผิวพรรณ และความงามได้ ซึ่งขนาดและปริมาณของเข็มที่นำมาใช้ การเลือกตำแหน่งฝังเข็มเพื่อให้ได้ลมปราณหรือเต๋อชี่ ขึ้นกับคนไข้แต่ละคน และดุลยพินิจและประสบการณ์ของแพทย์ บางคนอาจใช้ไม่ถึง 10 เล่ม แต่บางคนก็อาจจะประมาณเกือบร้อยเล่ม เข็มที่เลือกใช้ก็มีหลากหลายขนาด แต่เป็นเข็มเบอร์เล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 0.1 ถึง 0.3 มิลลิเมตร มีความยาวตั้งแต่ 6, 8, 13, 25, 40, 50 และ 75 มิลลิเมตร เข็มที่ใช้ในการฝังเข็มต่างจากเข็มที่ใช้ฉีดยา คือ มีการบาดเจ็บในเนื้อเยื่อน้อยกว่า
ยกตัวอย่างผลของการฝังเข็มที่ช่วยรักษาฝ้า มีการศึกษาเรื่องของการรักษาฝ้าด้วยการฝังเข็มและการใช้ยามาตรฐาน ใช้จำนวนการรักษาประมาณ 20 ครั้ง อาทิตย์ละ 2 ครั้ง พบว่าในกลุ่มที่ฝังเข็มรักษาฝ้าค่อนข้างได้ผลดี เมื่อเทียบกับยามาตรฐาน ในบางรายบอกว่าฝ้าลดลงและหลังหยุดการรักษาแล้ว ปรากฏว่าฝ้ายังดีต่อไปอีก ในกลุ่มรักษาด้วยยาฝ้าลดลงเช่นกัน แต่หลังหยุดการรักษาแล้วในบางรายฝ้าสามารถกลับมาได้อีก นอกจากนี้ในกลุ่มฝังเข็มยังมีสุขภาพที่ดีขึ้น อาการเพลียเรื้อรังดีขึ้น รู้สึกสดชื่น นอนหลับดี ปวดเมื่อยร่างกายลดลง ปวดศีรษะไมเกรนดีขึ้น ภูมิแพ้ดีขึ้น ระบบการขับถ่ายดีขึ้น และคนที่อายุมากที่มีอาการร้อนวูบวาบใกล้วัยทองก็รู้สึกดีขึ้น
ฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ ฝังเข็มได้หรือไม่
มีหลายคนที่เสริมความงามด้วยการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ และมีความสนใจอยากดูแลตัวเองด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีนด้วยการฝังเข็มด้วย แต่มีความสงสัยว่าจะสามารถฝังเข็มได้หรือไม่ ความจริงแล้วการฝังเข็มสามารถใช้ดูแลรักษาควบคู่ไปกับทรีทเม้นท์อื่นๆ ได้และยิ่งเป็นการส่งเสริมการทำงานซึ่งกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น ในบางคนฉีดโบท็อกซ์แป๊บเดียวไม่กี่เดือนริ้วรอยก็กลับมาอีกแล้ว เพราะสังคมยุคนี้มีปัจจัยที่ทำให้เกิดความเครียดได้มาก การแสดงสีหน้าบ่อยก็จะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้น การฝังเข็มเสริมไปด้วยก็จะเป็นการลดระยะเวลา (Duration) ที่ต้องกลับมาฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ลงได้ ผลจากการฉีดโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ก็จะอยู่ได้นานมากขึ้น หรือบางคนบางคนทำเลเซอร์หน้าใสมาแป๊บเดียวใบหน้าหมองคล้ำอีกแล้ว ซึ่งนอกจากแสงแดดและมลภาวะแล้ว ยังเกิดจากปัจจัยภายในร่วมด้วย การฝังเข็มควบคู่ไปด้วยก็จะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้มากขึ้น และการฝังเข็มก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฝังตรงตำแหน่งบนใบหน้าเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้การปรับสมดุลจุดอื่นของร่างกายแทนได้ เพราะหลักการฝังเข็มก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฝังตรงตำแหน่งบนใบหน้าเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้การปรับสมดุลจุดอื่นของร่างกายแทนได้ เพราะหลักการฝังเข็ม คือ เป็นการปรับสมดุลจากภายใน ดังนั้น แพทย์สามารถเลือกจุดที่จะทำการฝังเข็มได้ แต่อย่างไรก็ตาม คนไข้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการรักษาว่า ฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์ตรงบริเวณไหนมาบ้าง เพื่อประสิทธิผลในการรักษา
นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่ต้องพึ่งยาก ไม่ต้องใช้สารเคมี เป็นวิธีที่ให้ร่างกายของเรามีการปรับสมดุลจากภายในโดยธรรมชาติ เป็นวิธีที่ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย ซึ่งนอกจากการรักษาด้วยการฝังเข็มเพียงอย่างเดียวแล้ว ยังสามารถใช้รักษาควบคู่ไปกับศาสตร์การรักษาในแขนงอื่นๆ ได้ด้วย
ในช่วงระยะสิบปีหลังมานี้ การฝังเข็มเพื่อรักษาโรคและความงามเป็นที่นิยมมากขึ้น เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษา แต่การเลือกรักษาด้วยการฝังเข็มต้องดูเรื่องของประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ แพทย์ที่เชี่ยวชาญก็จะมีความชำนาญอย่างดี การฝังเข็มปรับสมดุลเพื่อประโยชน์ทั้งการรักษาโรคและความงามนั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากดูแลตัวเอง ด้วยวิธีธรรมชาติและสามารถส่งเสริมการรักษาด้วยแนวทางอื่นๆ ได้ มีแนวโน้มที่ดี ที่คนจะเลือกใช้บริการทางด้านนี้ ในการดูแลสุขภาพและความงามมากขึ้น แต่ก็ต้องดูถึงความจำเป็นในการรักษาด้วย
by TVPOOL ONLINE