เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อมีรายงานข่าวว่า มีดารารายหนึ่งที่สร้างจุดยืนตัวเองว่าคือ เซียนหวย ถูกทุกงวด ถูกทีเป็น 10 เป็น 100 ใบ ถูกเหมือนซื้อเลข 00-99 ทุกงวด ดาราคนนี้พยายามสร้างสตอรี่ความแม่นในตัวเลขของตัวเอง จากนั้นก็สร้างรายได้ จากยอดไลค์ ยอดวิว งานรีวิว เรื่อยไปถึงออกผลิตภัณฑ์วัตถุมงคลมาขายคนที่อยากมีโชคลาภถูกหวยทุกงวดแบบดาราคนนี้บ้าง แต่เบื้องหลังคือดาราคนนี้ หลอกลวง ที่เห็นถูกหวยทุกงวดนั้นง่ายมากกกกก เพราะจะไม่ถูกได้อย่างไร ในเมื่อมีทีมงานรับซื้อรางวัลเลขท้ายที่ถูก ซื้อเยอะๆ แล้วก็เอามาโพสต์ลงโซเชียลว่าถูกหวยอีกแล้วจ้า อยากรวย ถูกเยอะๆ เหมือนเราก็มาซื้อวัตถุมงคลกับทางเรากันสิจ๊ะ

ดาราคืออาชีพที่หากินกับความชื่นชอบของประชาชน การมาหลอกลวง แหกตาประชาชนหากินแบบนี้ มันเป็นเรื่องไม่น่ารักหรือเปล่า? ฝากไว้ให้คิด ความจริงใจมีค่ามากกับอาชีพนี้ ใครไม่จริงใจกับประชาชนระวังบาปบุญ” งานนี้ทำเอาชาวเน็ตรีบตามตัวกันยกใหญ่เลยว่า ดาราเจ้าแม่คนดังกล่าวนั้นเป็นใคร ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับแฉเบื้องหลังกลโกงดาราเซียนหวย ถูกลอตเตอรี่ทุกงวดหากินแหกตาประชาชน ว่าจากการนำเสนอข่าวของสื่อในโลกออนไลน์ที่แจ้งว่ามีดาราบางรายสร้างเรื่องหลอกลวง ไม่จริงใจกับแฟนๆ ที่ติดตาม สร้างจุดยืนตัวเองว่าคือ “เซียนหวย” ถูกทุกงวด ถูกทีหลายใบ และพยายามสร้างสตอรี่ความแม่นในตัวเลขของตัวเอง

จากนั้นก็สร้างรายได้ จากยอดไลค์ ยอดวิว งานรีวิว เรื่อยไปถึงออกผลิตภัณฑ์วัตถุมงคลมาขายคนที่อยากมีโชคลาภถูกหวยทุกงวดแบบดาราคนนี้บ้าง แต่เบื้องหลังมีทีมงานรับซื้อรางวัลเลขท้ายที่ถูก ซื้อเยอะๆ แล้วก็เอามาโพสต์ลงโซเชียลว่าถูกหวยใครอยากถูกบ้างก็มาซื้อวัตถุมงคลกับทางดาราคนดังกล่าว

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องของการเสี่ยงโชค ซื้อหวย ซื้อลอตเตอรี่ การเสี่ยงดวง การลุ้นโชครางวัล ถือว่าเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล และในเรื่องของความเชื่อหรือการเช่าเครื่องรางต่างๆ ควรพิจารณาอย่างถ่องแท้ก่อนจะตัดสินใจเชื่อ เพราะในบางครั้งท่านอาจถูกหลอกหลวงนำมาซึ่งความเสียหายในภายหลังได้

ส่วนในประเด็นที่มีการกล่าวอ้างถึงเรื่องวัตถุมงคลของขลังว่าสามารถช่วยให้ถูกรางวัลต่างๆได้นั้น หากต่อมามีการพิสูจน์ทราบว่าเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หลอกลวง หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ การกระทำดังกล่าวในเบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ ตาม ม. 343 ประกอบ ม.80 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14(1) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้หากมีประชาชนหรือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในพื้นที่เกิดเหตุหรือใกล้บ้านเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

โดยท่าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในทุกกองบัญชาการที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ ถึงพฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพ การหลอกลวงในลักษณะต่างๆ ฉกฉวยโอกาสกระทำความผิด สร้างความเดือดร้อน และซ้ำเติมประชาชนในช่วงสถานการ์ณเเพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หากตรวจพบว่ามีการกระทำในลักษณะหลอกลวงประชาชนจริง ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

by TVPOOL ONLINE