ร่างกายประกอบด้วยอวัยวะหลายส่วนซึ่งมีเวลาในการทำงานแตกต่างกันไปมาดูกันว่าอวัยวะส่วนใดกำลังทำงาน อะไหล่ในร่างกายชำรุด ทรุดโทรม และต้องการจะเปลี่ยนด่วน คงไม่มีโปรโมชั่นมาซื้อ 1 แถม 1 แน่ๆค่ะ ซึ่งถ้าร่างกายคนเราเปลี่ยนอะไหล่ได้จริงก็คงจะดีไม่น้อย แล้วอะไรล่ะ…ที่ทำให้ร่ายกายเราเป็นแบบนี้

เรามารู้จักนาฬิกาชีวิตกัน ทำไมร่างกายคนเราต้องเหนื่อยล้ากับการทำงาน การใช้ชีวิต ทำไมต้องนอนกลางคืนตื่นกลางวัน ทำไมต้องนอนวันละ8ชั่วโมง ทำไมต้องกินแล้วขับถ่าย ทำไม ทำไม ทำไม ? นั่นเพราะธรรมชาติได้สรรค์สร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้กับสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนสัตว์พืช หรือแม้แต่ตัวเชื้อโรค ให้มีการทำงานอย่างเป็นระเบียบ โดยมีนาฬิกาตัวหนึ่งชื่อ นาฬิกาชีวภาพ (Biological Clock) หรือนาฬิกาชีวิตคอยควบคุมการทำงานค่ะ

ดร. คอลลีน แมคคลัง นักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ตะวันตก บอกว่าร่างกายมีกลุ่มเซล ,ชนิดหนึ่ง คือ Superrachiasmatic Nuclei (SCN) ประมาณ 20.000เซลล์ ทำหน้าที่ควบคุม กลไกทางชีวภาพ ในช่วง24ชั่วโมงต่อรอบ โดยเริ่มต้นทำงานหลังดวงตาถูกกระตุ้นจากแสงแดดผ่านทางเรตินาและส่งต่อไปยังเซลล์กลุ่มนี้ โดยยีนที่ชื่อ Clock หรือยีนเวลา คอยควบคุมการทำงาน อีกทั้งกำหนดการแตกต่างการเดินของนาฬิกาชีวิตแต่ละคนด้วย ดังนี้

01.00– 03.00 น. [เวลาของตับ]

ช่วงเวลาของตับ เพื่อกำจัดสารพิษในร่างกาย ลดระดับน้ำตาลในเลือดโดยนำมาสังเคราะห์และเก็บสะสมในรูปไกลโคเจน และสร้างน้ำดีมาเก็บไว้ที่ถุงน้ำดี ช่วงนี้ควรเป็น ช่วงที่หลับสนิท

03.00 – 05.00 น. [เวลาปอด]
ปอดจะฟื้นฟูและขับสารพิษ ควรตื่นนอนปอดจะทำงานดี

05.00 – 07.00 น. [เวลาของลำใส้ใหญ่]

ลำไส้ใหญ่จะขับของเสีย ควรดื่มน้ำเพื่อช่วยขับของเสีย

07.00 – 09.00 น. [เวลาของกระเพาะอาหาร]

กระเพาะจะย่อยอาหาร ควรรับประทานอาหาร

09.00 – 11.00 น. [เวลาของม้าม]

สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย เหมาะกับการทำงานทำกิจกรรม

11.00 – 13.00 น. [เวลาของหัวใจ]

หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือด ควรเลี่ยงความเครียด

13.00 – 15.00 น. [เวลาของลำไส้เล็ก]

เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก ทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมอาหาร หากมื้อกลางวันไม่รับประทานอาหารหรือรับประทานอาหารไม่เพียงพอ ช่วงนี้จะรู้สึกหิวและทรมาน

15.00 – 17.00 น. [เวลาของกระเพาะปัสสาวะ]

เป็นช่วงเวลาของกระเพาะ ปัสสาวะ ซึ่งทำหน้าที่เก็บน้ำกรองจากไต โดยช่วง 17.00 น. เป็นช่วงที่หลอดเลือดหัวใจและกล้ามเนื้อในร่างกายมีความแข็งแรง จึงเหมาะต่อการออกกำลังกาย

17.00 – 19.00 น. [เวลาของไต]

เป็นช่วงเวลาของไต เพื่อกรองของเสียออกจากเลือดและรักษาสมดุลในร่างกาย ช่วง 18.30 น. ระดับความดันเลือดจะเพิ่มขึ้นสูงสุด และ ช่วงนี้จึงควรดื่มน้ำสะอาด (ไม่ควรดื่มน้ำเย็น) และไม่ควรนอนหลับในช่วงนี้

19.00 – 21.00 น. [เวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ]

เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของหัวใจ และเป็นช่วงของระบบหมุนเวียนโลหิต

21.00 – 23.00 น. [เวลาของระบบความร้อนของร่างกาย]

ร่างกายปรับสมดุลความร้อน ควรทำให้ร่างกายอบอุ่น งดน้ำเย็น

23.00 – 01.00 น. [เวลาของถุงน้ำดี]

เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี เพื่อเก็บน้ำดีที่ได้จากตับและส่งน้ำดีมาช่วยย่อยไขมันที่ลำไส้เล็ก ถุงน้ำดีและตับ จึงเป็นอวัยวะที่ทำงานเกี่ยวเนื่องและสัมพันธ์กันอย่างมาก

ปรับพฤติกรรมกันใช้ชีวิต ให้เป็นตามธรรมชาติของร่างกาย เพราะถ้าเมื่อสะสมพฤติกรรมไม่ดี ร่างกายอาจเกิดความเคยชินจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่จะส่งผลเสียกับร่ายกายแน่นอน และส่งผลให้สารพิษตกค้างในร่างกาย รวมทั้งอาการอ่อนเพลีย หมดเรี่ยวหมดแรงร่างกายเสื่อมสภาพ ความจำลดลง โรคภัยไข้เจ็บก็จะตามมา

ซึ่งทางแก้คือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้นาฬิกาชีวิตทำงานปกติ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งเรื่องการกิน อยู่ หลับนอน ไม่เป็นเวลา รวมทั้งทำงานหนักสะสมความเครียดจนไม่ได้พักผ่อน นอกจากจะทำให้นาฬิกาชีวิตเปลี่ยน สารพิษสะสมในร่างกายแล้ว ยังส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บตามมาอีกมากมายด้วยนะคะ

by TVPOOL ONLINE

หากปวดหัว เจ๊ช่วยได้ กับสุดยอดอาหารต้านอาการปวดหัว

ว้าว!! “ณเดชน์” เปิดเสื้อ อวดซิกแพค โชว์กล้ามสุดล่ำ

กล้ามแน่นสุดฟิน “ไมค์ ภัทรเดช” โชว์หุ่นล่ำ ขย้ำใจสาวๆ

คนไทยต้องอ่าน!! 10 วิธีเอาตัวรอด รับมือจากเหตุแผ่นดินไหว ในเวลาคับขัน

เวลาชีวิตสำคัญมาก ดูแลสุขภาพตัวเองยังไง!! ไม่ให้ตายก่อนวัยอันควร

ปวดเต้านมในวันนั้นของเดือน ทำยังไงดี!!

ป๊าด!! เด็กเวเนฯ วัย 13 คว้ามงนางงาม สูงโย่ง 180 ซม. หนูกินอะไรมาคร่าาา..

ยาคุมกำเนิดใช้บ่อย เซ็กซ์เสื่อม จริงหรือ???

ของชั้นดี!! นี่แหละคือเหตุผล ทำไมพวกฝรั่ง ถึงชอบมัสตาร์ด

สัมผัสอัณฑะปลุกอารมณ์ผู้ชาย !! 20+

บัญญัติ 6ประการ ก่อนเดินทางไกล

การดื่มน้ำเมื่อท้องว่าง “ได้ประโยชน์อย่างที่คุณคิดไม่ถึง”