เหตุผลที่คนทั้งโลกรักนาย ! รวมเรื่องราว ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้

“โรนัลโด้” ได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยมหาศาล ชนิดที่ใช้ทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด แต่หากรวมทั้งรายได้อีกหลายล้านปอนด์จากค่าลิขสิทธิ์ส่วนตัว ทั้งการเซ็นสัญญาตลอดชีวิตกับ ไนกี้ บริษัทเครื่องกีฬาระดับโลก และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ตัวเลขบนเครื่องคิดเลขคงไม่พอที่จะคำนวนเงินของเขา แน่นอนว่านั่นทำให้มีหลายคนอิจฉา โรนัลโด้ เพราะเป็นยอดนักเตะที่ร่ำรวยแล้ว ยังมีใบหน้าหล่อเหลาอีกต่างหาก

1. รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป

ในปี 2011 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้รับรางวัลโกลเดน บูท ยุโรป หลังจากซัดไป 40 ประตูภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือโชเซ่ มูรินโญ่ แต่ “ราชันชุดขาว” จะจบแค่อันดับ 2 ในลา ลีกา และตกรอบรองชนะเลิศ ศึกยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก  อย่างไรก็ตามแทนที่ “โด้” จะเลือกเก็บรางวัลเอาไว้เป็นเกียรติประวัติตัวเองในห้องตู้โชว์ที่บ้านของเขา เขาเลือกที่จะขายมันเพื่อนำเงินเข้าการกุศล ตอนนั้นรางวัลดังกล่าวถูกประมูลได้ด้วยจำนวนเงินสูงถึง 1.2 ล้านปอนด์ (ราว  54 ล้านบาท) โดยเงินจำนวนดังกล่าวได้นำไปสร้างโรงเรียนหลายแห่งบริเวณฉนวนกาซ่า 

2. บัลลง ดอร์

โรนัลโด้ ได้ทำเรื่องเดิมอีกครั้งด้วยการขายหนึ่งในรางวัลบอลทองคำของเขาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเขานำถ้วยจำลองของรางวัลบัลลง ดอร์ ปี 2013 ในการนำไปประมูลเพื่อนำเงินเข้าการกุศล ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ  ในงานกาล่า ดินเนอร์ ที่จัดขึ้นเพื่อหาเงินบริจาคเข้ามูลนิธิ เมค-อะ-วิช (Make-A-Wish) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่พยายามทำให้เด็กซึ่งต้องต่อสู้กับโรคร้ายได้สมหวัง โดยในงานนั้นรางวัลทรงเกียรติของเขาได้รับการประมูลจำนวน 530,000 ปอนด์ (ราว 23.85 ล้านบาท)

3. ทูต

สตาร์ลูกหนังตอนอยู่ เรอัล มาดริด มักจะถูกเชิญเพื่อขึ้นไปปราศัยเนื่องจากการเป็นแบบอย่างที่ดีของเขา โดย โรนัลโด้ ทำหน้าที่ทูตให้กับองค์กรการกุศล 3 องค์กร ได้แก่ เซฟ เดอะ ชิลด์เรน, ยูนิเซฟ และ เวิลด์ วิชั่น ที่สำคัญเจ้าตัวยังเป็นกระบอกเสียงให้กับองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย โรนัลโด้ เคยมีโอกาสได้พูดคุยเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือโรคลูคีเมีย เมื่อปีที่แล้ว “โด้” ได้ส่งข้อความไปหาเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุสู้รบในซีเรีย โดยเรียกพวกเขาว่า “ฮีโร่ตัวจริง”  นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังเคยอัดวีดิโอเพื่อทำแคมเปญ “ไอซ์ บัคเกต ชาลเลนจ์” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก และยังสามารถหาเงินบริจาคได้หลายล้านปอนด์ ในปี 2014

4. โบนัสแห่งชัยชนะ

โรนัลโด้ เคยปฏิเสธรายได้มหาศาลที่เขาสามารถหาได้ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเล่นฟุตบอล โดยในปี 2013 เขามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูเอฟ่า) “ยูเอฟ่า ทีม ออฟ เดอะ เยียร์” พร้อมกับรับเงินโบนัส 89,000 ปอนด์ (ราว 4 ล้านบาท) จากองค์กรลูกหนังยุโรป แทนที่ โรนัลโด้ จะเก็บเช็คเอาไว้ เขาเลือกที่จะบริจาคให้กับสภากาชาด ในปี 2014 กัปตันทีมชาติโปรตุเกส นำ เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 10 และได้รับเงินโบนัส 450,000 ปอนด์ (ราว 20 ล้านบาท) จากต้นสังกัด แต่ “พี่โด้” ตัดสินใจนำไปบริจาคให้กับ 3 มูลนิธิที่เขาเป็นทูต ได้แก่ ยูนิเซฟ, เวิลด์ วิชั่น และ เซฟ เดอะ ชิลด์เรน

5. เลือด และไขกระดูก

ดาวเตะวัย 32 ปี ตัดสินใจไม่สักอะไรสักแห่งบนร่างกายของเขา เหตุผลก็คือ โรนัลโด้ ต้องการบริจาคเลือด และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมรณรงค์เพื่อกระตุ้นคนอื่นๆ ให้ทำแบบเดียวกับเขา แม้ว่าคนที่สักจะสามารถบริจาคเลือดได้ แต่ไม่สามารถทำได้ทันทีหลังจากเพิ่งสักมาใหม่ๆ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โรนัลโด้ เปิดใจเมื่อปี 2015 ว่า “เราทุกคนสามารถทำเรื่องที่แตกต่างกันได้ด้วยการบริจาคเลือด ทุกๆ การบริจาคสามารถทำประโยชน์ให้กับผู้คนถึง 3 คนที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และสำหรับคนที่ต้องเข้ารับการรักษาในระยะยาว นั่นคือเหตุผลที่ผมกระตือรือร้น และให้ความสำคัญกับการบริจาคเลือด รวมทั้งกระตุ้นผู้คนทั่วโลกเพื่อร่วมบริจาคเลือด และช่วยปกป้องชีวิตผู้อื่น” นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังบริจาคไขกระดูกหลังจากที่เขาได้รับรู้เรื่องราวของอดีตเพื่อนร่วมทีมที่ต้องพบกับช่วงเวลาที่สุดแสนยากลำบาก โดย คาร์ลอส มาร์ตินส์ มีลูกชายที่ต้องการไขกระดูก และ ยอดแข้งเลือดโปรตุกีส ได้บริจาคไขกระดูกนับตั้งแต่นั้น

6. ยินดีบริจาคเงินหลายล้านปอนด์

โรนัลโด้ บริจาคเงินจำนวนมหาศาลอีกครั้งในปี 2015 เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับชาวเนปาลที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวในเดือนเมษาน 2015  สำหรับเหตุภัยธรรมชาติในครั้งนั้นคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 9,000 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 22,000 ราย รวมทั้งความเสียหายอีกมากมายที่เกิดขึ้นในประเทศ โดย โรนัลโด้ ควักกระเป๋าถึง 5 ล้านปอนด์ (ราว 225 ล้านบาท) ให้กับองค์กร เซฟ เดอะ ชิลด์เรน

 7. ช่วยเหลือศูนย์ผู้ป่วยโรคมะเร็ง 

โดโลเรส อเวยโร่ แม่บังเกิดเกล้าของ โรนัลโด้ รอดชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมในปี 2007 โดย อดีตดาวเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจที่จะขอบคุณศูนย์การแพทย์ในประเทศโปรตุเกสที่ดูแลผู้ให้กำเนิดเขาเป็นอย่างดี ด้วยการบริจาคเงินจำนวน 120,000 ปอนด์ (ราว 5.4 ล้านบาท) เพื่อเป็นกองทุนให้กับพวกเขา

8. เชิญเด็กกำพร้า

ในเบรุต เมืองหลวงประเทศเลบานอน แฟนบอลตัวน้อยของ เรอัล มาดริด กลายเป็นเด็กกำพร้าเนื่องจากพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย สื่อท้องถิ่น รายงานว่าเด็กน้อยผู้น่าสงสารได้ถูกเชิญให้ไปยังยอดทีมแห่งถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว โดยในตอนนั้น โรนัลโด้ ได้เข้าไปสวมกอด ขณะที่เจ้าหนูเลบานอน ถึงกับบ่อน้ำแตกเนื่องจากดีใจที่ได้พบกับฮีโร่ในดวงใจของเขา

9. ช่วยแฟนบอลวัยละอ่อน

โรนัลโด้ ถึงกับสลดเมื่อได้รับทราบเรื่องราวของ นูฮาเซท แฟนบอลรุ่นเล็กวัย 9 ขวบ ชาวสเปน ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งในระยะสุดท้ายเมื่อปี 2009 หลังจากได้รับรู้เรื่องนี้ โรนัลโด้ ตัดสินใจส่งคนขับรถเพื่อนำครอบครัวของเด็กมายังโรงแรมที่ทีมเรอัล มาดริด พักอยู่ นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังอุทิศประตูที่เขาทำได้ให้กับ นูฮาเซท ซึ่งถูกเชิญให้ไปชมเกมในบ็อกซ์ส่วนตัวที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว และหลังจบแมตช์ โรนัลโด้ ยังมอบเสื้อแข่งเกมนั้นให้กับเขาด้วย  เมื่อ โรนัลโด้ ได้พูดคุยกับพ่อของเจ้าหนูนูฮาเซท แล้ว เขาได้รับทราบว่าเด็กคนนี้มีโอกาสที่จะอยู่ได้อีกไม่นาน แม้ว่าจะเข้ารับการรักษาที่สหรัฐอเมริกาแล้วก็ตาม โดยอาการของ นูฮาเซท แย่ลงเรื่อยๆ ขณะที่ “โด้” พร้อมควักกระเป๋าจ่ายค่ารักษาให้ทั้งหมดซึ่งเป็นจำนวนหลายหมื่นปอนด์  โรนัลโด้ จ่ายค่ารักษานานกว่า 1 ปี จนกระทั่ง นูฮาเซท เสียชีวิตในเดือนมีนาคม 2013

10. ใจกว้าง

บ่อยครั้งที่ โรนัลโด้ ตกเป็นเป้าหมายของบรรดาผู้คนที่เข้ามาในสนามเพื่อขอถ่ายรูปหรือถ่ายเซลฟี่กับเขา แต่แทนที่เขาจะพยายามเลี่ยง “ซีอาร์ 7” ยินดีไม่มีปัญหาที่จะถ่ายรูปร่วมกับผู้คนเหล่านั้น นอกจากนี้ยังมีหลายครั้งที่ โรนัลโด้ ช่วยแฟนบอลจากการโดนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามจัดการด้วยความรุนแรง  ยังไม่หมดแค่นั้น ปีกจอมถล่มประตูเจ้าของบัลลง ดอร์ 5 สมัย ยังชอบที่จะมีปฏิกิริยาร่วมกับแฟนบอลในสนาม โดยบ่อยครั้งที่เขามักจะขว้างเสื้อแข่งขึ้นไปบนอัฒจันทร์, แจกลายเซ็น และถ่ายภาพร่วมกับแฟนบอลแบบไม่ถือตัว

11. ช่วยเหลือแฟนบอลอีกคน

ในปี 2014 แม่ของแฟนบอลวัยเยาว์ชื่อ เอริก ออร์ติซ ครูซ ที่มีอาการผิดปกติทางสมองตั้งแต่กำเนิดซึ่งเป็นสาเหตุให้เขามีอาการลมชัก 30 ครั้งต่อวัน ได้ขอร้องให้ โรนัลโด้ ช่วยบริจาคเสื้อแข้งของเขาให้กับลูกชายเธอ  หลังจากได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว โรนัลโด้ ควักเงินจำนวน 55,000 ปอนด์ (ราว 2.47 ล้านบาท) สำหรับการผ่าตัดสมองในช่วงแรก และจ่ายเงินเพื่อใช้สำหรับการฟื้นฟูหนูน้อยคนนี้ด้วย ยังไม่หมดแค่นั้น “โด้” ยังช่วยหาเงินบริจาคให้กับ ออร์ติช ครูซ ด้วยการเซ็นลายเซ็นบนเสื้อเพื่อนำไปประมูลด้วย

12. แขนหัก

ช่วงระหว่างเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นพบ บอร์นมัธ นั้น โรนัลโด้ ซัดฟรีคิกเต็มแรงบอบพุ่งไปที่กลุ่มแฟนบอลบนอัฒจันทร์ในสนามวิคาลิตี้ สเตเดี้ยม โชคร้ายเหลือเกินที่ ชาร์ลี่ ซิลเวอร์วู้ด แฟนบอลวัย 11 ขวบ โดนบอลอัดแขนจนหัก หลังจากนั้น ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร “ราชันชุดขาว” ได้ติดต่อไปหา ซิลเวอร์วู้ด ขณะเดียวกัน โรนัลโด้ ได้เซ็นลายเซ็นบนเสื้อแข่งเพื่อมอบให้กับเขา ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก โรนัลโด้ ซัดบอลเข้าไปในฝูงชน และพุ่งชนเด็กน้อยจนร้องไห้ หลังจากนั้นเขาก็รีบไปที่อัฒจันทร์ดังกล่าว และมอบเสื้อซ้อมให้กับแฟนบอลวัยละอ่อนเพื่อเป็นการขอโทษ

13. เพื่อนเจ้าบ่าว

ฮอร์เก้ เมนเดส ซูเปอร์เอเยนต์ เลือก โรนัลโด้ เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวตอนที่เข้าแต่งงานกับ ซานดร้า ในปี 2015  ที่เด็ดยิ่งกว่านั้นก็คือ โรนัลโด้ ตัดสินใจมอบของขวัญที่แสนล้ำค่าให้กับเพื่อนร่วมรักชาวโปรตุกีส ด้วยการซื้อเกาะส่วนตัวในประเทศกรีซ เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับเขา โดยเกาะดังกล่าวว่ากันว่าราคาไม่เท่าไหร่แค่ประมาณ 40 ล้านปอนด์ (ราว 1,800 ล้านบาท) เท่านั้น

14. สุดยอดเพื่อนร่วมทีม

หลังจากบรรดาแข้ง เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 10 ไม่ใช่แค่การได้รับเงินโบนัสก้อนโตจากต้นสังกัดเท่านั้น แต่พวกเขายังได้ของขวัญสุดพิเศษจาก ยอดแข้งพ่อลูกสี่ อีกด้วย ในตอนนั้น โรนัลโด้ มอบรางวัลให้กับเพื่อนร่วมทีมด้วยนาฬิกาสุดหรูยี่ห้อบุลการี่ โดยต้นทุนก็ไม่เท่าไหร่แค่เรือนละ 5,000 ปอนด์ (ราว 225,000 บาท)

15. ดูแลพี่ชายคนโต

เดนิส พ่อบังเกิดเกล่าของโรนัลโด้ ต้องต่อสู้กับโรคพิษสุราเรื้อรังมานานหลายปี ก่อนที่จะเสียชีวิตในปี 2005 ขณะที่ ฮูโก้ อเวยโร่ พี่ชายคนโต ก็ดันเดินตามเส้นทางป๋าซะอีก แต่ที่หนักกว่าหลายเท่าก็คือติดเหล้า และยาเสพติดซะด้วย ขณะที่ โรนัลโด้ ได้ตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมให้สัญญาว่าจะคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 10 เพื่อพี่ชาย ถ้าเขาตัดสินใจที่จะเลิกสิ่งเลวร้ายเหล่าไปให้หมด โดย ฮูโก้ ซึ่งแก่กว่า “โด้” 10 ปี มีภาพอยู่เคียงข้างน้องชายในงานเลี้ยงหลายงาน รวมทั้งการเดินทางไปร่วมพิธีประกาศรางวัลบัลลง ดอร์ ในปี 2016 นอกจากนี้ ฮูโก้ ยังเป็นพ่อทูนหัวของ โรนัลโด้ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของเขา ขณะเดียวกับ สตาร์ลูกหนังเลือดฝอยทอง ยังตัดสินใจให้พี่ชายสุดที่รักรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์โรนัลโด้ ในเกาะมาเดยร่าบ้านเกิด ประเทศโปรตุเกส

 

 

cr : สยามสปอร์ต