เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

คู่จิ้นคู่จริง อย่าง หมาก-ปริญ สุภารัตน์ และ คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ มีข่าวดี คงต้องเตรียมฟินจิกหมอนกันซะแล้ว เพราะล่าสุดทางด้านของนางเอกสาวซุปตาร์ คิมเบอร์ลี่ ได้ออกมายอมรับว่า ที่ผ่านมาฝ่ายชายเคยพูดเกริ่นถึงเรื่องแต่งงานบ้างแล้วเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้การคุยกันแบบจริงจังหรือซีเรียสสักเท่าไร

นอกจากนั้นสาวคิมเบอร์ลี่ก็ยังเผยต่ออีกว่า ช่วงนี้เธอและหนุ่มหมากมีเวลาเจอกันน้อยมาก เนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็วุ่นอยู่กับงานของตัวเอง รวมถึงคิวว่างก็ไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีใครรู้สึกน้อยใจอะไร เพราะปกติทั้งคู่ก็พูดคุยกันทุกวันอยู่แล้ว

ชื่อของเราติดอยู่ในลิสต์สาวหน้าสวยระดับโลกด้วย รู้สึกยังไงบ้าง ?
“จริงๆ ก็ไม่ได้ติดแค่คิมคนเดียวนะคะ ยังมีเพื่อนๆ พี่ๆ นักแสดงอีกหลายคนเหมือนกันที่ติด ซึ่งตัวหนูเองก็รู้สึกดีใจที่มีคนเห็นว่าผู้หญิงไทยสวย”

หมาก ปริญ ก็ชมเราด้วยเหมือนกันว่าเราสวยจริงๆ ได้ยินแบบนี้แล้วเขินไหม ?
“ไม่รู้อ่ะ (หัวเราะ) คือมันก็มีทั้งมุมที่รู้สึกชอบ และก็มุมที่รู้สึกไม่ชอบ แต่คิมก็ต้องขอบคุณนะคะ สำหรับคะแนนโหวตที่ทุกๆ คนโหวตให้ ดีใจมากค่ะ และก็ดีใจกับนักแสดงคนอื่นๆ ด้วยนะคะที่ติดผลโหวตนี้ แสดงว่าประเทศไทยของเราก็เป็นที่น่าจับตามองเหมือนกัน ผู้หญิงไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ”

แต่ดูเหมือนหมากเขาจะค่อนข้างปลื้มนะที่มีชื่อของเราติด ?
“เหรอคะ (ยิ้ม) นึกว่าจะเบื่อซะแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าดีค่ะ”

หลังจากนี้เราจะต้องดูแลความสวยของตัวเองมากขึ้นไหม ?
“ก็คงต้องพยายามดูแลตัวเองให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ต้องรักษาคาแรคเตอร์ของตัวเองเอาไว้ด้วย เพราะสุดท้ายแล้วคาแรคเตอร์มันก็ยังเป็นของใครของมันอยู่ดี”

ด้วยความที่ตัวเราเองก็เริ่มมีชื่อเสียงในต่างประเทศ ณ เวลานี้ เริ่มมีงานต่างชาติติดต่อมาบ้างหรือยัง ?
“ก็มีนะคะ แต่เราก็ต้องดูงานด้วยเหมือนกัน ว่างานแต่ละงานนั้นมันเหมาะกับเราหรือเปล่า ซึ่งถ้ามันไม่เหมาะ เราก็เลือกที่จะไม่ไปดีกว่าค่ะ”

ช่วงนี้เหมือนต่างคนต่างก็ยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง ได้มีเวลาเติมความหวานให้กันบ้างไหม ?
“ก็เจอกันบ้างค่ะเท่าที่พอจะเจอกันได้ (ยิ้ม) ซึ่งเราเองก็เคยคุยถึงเรื่องนี้เหมือนกันนะว่าเราไม่ค่อยได้เจอกันเลย เพราะเวลามันสวนทางกันไปหมด แต่ก็เข้าใจได้ค่ะมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”

มีการกำหนดไหมว่าต้องเจอสักกี่ครั้ง หรืออาทิตย์หนึ่งควรเจอสักกี่ครั้งถึงจะดี ?
“ไม่ได้กำหนดเลยค่ะ คือคิวมันไม่แน่นอนเลยจริงๆ”

หลังจากนี้ควรทำอย่างไรดี เพราะพี่หมากเขาก็เปิดกล้องละครแล้ว ส่วนตัวเราเองก็ว่าง ?
“หนูก็ไม่ได้ว่างซะทีเดียวหรอกค่ะ แค่พอถึงช่วงที่เขาว่าง หนูกลับไม่ว่างมากกว่า (หัวเราะ) เวลามันก็เลยค่อนข้างที่จะสวนทางกันนิดหนึ่ง แต่อย่างที่บอกก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราคุยกันทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีใครน้อยใจใครแน่นอน”

แบบนี้จะต้องจัดทริปเที่ยวชดเชยเลยไหม เพราะไม่ค่อยได้เจอกัน ?
“จริงๆ ก็พยายามแพลนอยู่นะคะ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีแพลนเลย ยังไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำว่าอยากจะไปไหน คือไม่มีเลยจริงๆ”

ล่าสุดมีข่าวว่าพี่หมากเขาเริ่มคุยเรื่องแต่งงานกับเราบ้างแล้ว ?
“(หัวเราะ) ก็ตามนั้นค่ะ”

พอจะเล่าให้ฟังได้ไหมว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้เกิดโมเมนต์นี้ ?
“เดี๋ยวๆ พี่หมากเขาพูดแบบนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) เอ่อ…ก็อาจจะมีคุยแบบนิดหน่อยมากกว่าค่ะ แต่ยังไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น”

ส่วนตัวเราเองเริ่มมีความรู้สึกว่าอยากจะใส่ชุดเจ้าสาวแล้วหรือยัง ?
“คิมคิดว่าผู้หญิงทุกคนก็คงอยากจะเห็นตัวเองในวันนั้นนะคะ แต่คิมแค่รู้สึกว่าตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมมากกว่า คือถ้าหากมันใช่เมื่อไหร่ มันก็คงจะใช่เองแหละค่ะ”

เราเคยแอบคิดเล่นๆ ไหมว่าต้องอายุสักเท่าไหร่ถึงจะพร้อมแต่งงาน ?
“เอ่อ…เคยวางไว้ว่าอายุสัก 28 ก็เคยนะคะ แต่ตอนนี้มันใกล้เกินไปละ (หัวเราะ) และก็อายุ 30 ก็เคยวางไว้เหมือนกัน แต่พอคิดไปคิดมามันก็อีกแค่แปบเดียวเอง สุดท้ายก็เลยตัดสินใจว่ารอดูจังหวะดีกว่า ถ้ามันใช่ก็คงใช่เอง”

แสดงว่าตอนนี้เราเองก็ยังไม่พร้อม ยังอยากทำงานให้เต็มที่ก่อน ?
“ใช่ค่ะ ตอนนี้เราทั้งคู่ต่างก็วุ่นอยู่กับการทำงาน ทั้งคิมทั้งพี่หมาก เรามีงานที่ต้องทำเยอะทั้งคู่ แถมเรื่องแต่งงานมันก็ยังเป็นเรื่องที่ใหญ่มากเลยด้วยสำหรับเรา และอย่างที่บอกการคุยของเรามันก็เป็นเพียงแค่การคุยเกริ่นเฉยๆ ไม่ได้เป็นการคุยแบบซีเรียส หรือจริงจังอะไร”

ตอนที่เขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมา อยู่ดีๆ เขาก็พูดหรือว่ามันมีโมเมนต์ให้เขาพูด ?
“ก็…ก็เห็นแบบว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนแต่งงานกัน ประมาณนั้นแหละค่ะ (หัวเราะ)”