“ซาร่า” น้ำตาไหล ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานน้ำสังข์ จะขอจำไปจนวันตาย เกียติสูงสุด 2 วงศ์ตระกูล จับมือกันจดจำทุกโมเมนต์ เตรียมจดทะเบียน “เอ็ม” 9 ก.พ. ปีหน้า ครบรอบรัก 15 ปี วันที่เจอกันครั้งแรก ผู้ใหญ่เร่งมีทายาท
นับว่าเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตเลยทีเดียว สำหรับ “ซาร่า เล็กจ์” และ “เอ็ม สืบสกุล” ซึ่งเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมาทั้งคู่ได้ฤกษ์ดีจูงมือเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ซึ่งสาวซาร่าเผยว่าทำเอาตน แฟนหนุ่ม และสองครอบครัวน้ำตาไหลด้วยความปลื้มปีติ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
“เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ที่ท่านทรงพระเมตตาทั้งสองครอบครัวของเรา วินาทีนั้น ทั้งสองครอบครัวปลื้มปริ่มมาก ซาร่าก็น้ำตาคลอตลอดเวลา พยายามกลั้นไว้ พูดไปตอนนี้ก็น้ำตาจะไหล ตื้นตันใจมาก ถือเป็นเกียรติสูงสุดของทั้งสองครอบครัว”
“ท่านให้พร แต่ซาร่าไม่อยากจะพูดเพราะกลัวพูดผิด เป็นพรที่จะจดจำไปจนวันตาย แต่ไม่อยากพูดเพราะกลัวพูดผิด ซึ่งเป็นการเข้าเฝ้าครั้งแรกอย่างใกล้ชิด ซาร่าตื่นเต้น คือตอนแรกไม่มาก แต่ ณ วันจริง ตื่นเต้น แต่คือพี่เอ็มตอนแรกเหมือนจะตื่นเต้น แต่วันจริงมีสติมาก วันนั้นน้ำตาคลอๆ กันทั้งคู่ และจับมือกันแน่นมาก อย่างคุณแม่ซาร่าน้ำตาคลอตลอดเวลา”
จับมือกัน เพื่อให้ได้รู้สึกและสัมผัส จดจำทุกโมเมนต์
“ซาร่ากับพี่เอ็มก็บอกกันว่าจะพยายามมีสติ เพราะอยากจะจดจำทุกโมเมนต์ อยากจะใช้ช่วงวันนั้นอย่างมีสติและจดจำทุกโมเมนต์เพราะทุกอย่างมันเร็วมาก เราก็จะพยายามเตือนกันและจับมือกันเพื่อจะได้รู้สึกและสัมผัสกับทุกโมเมนต์”
แต่งปีหน้า ครบรอบรัก 15 ปี
“เวลาพูดรู้สึกว่ามันยาวนานนะ ซาร่าไม่รู้สึกว่ามันนาน รู้สึกว่ามันแป๊บเดียวเอง ก็ไม่น่าเชื่อ รู้สึกดีใจ ปีหน้าก็จะแต่งงานกันและครบรอบ 15 ปีในปีหน้า ฤกษ์แต่งเป็นช่วงมกราคมไปปลายๆ ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเตรียมงานอยู่ อยู่ในขั้นตอนของการผลิตกำลังคุย ตอนนี้ก็ค่อนข้างคงที่แล้วอยู่ในขั้น ของการปฏิบัติงานก็เหลือแจกการ์ด โดยงานจะจัดที่โรงแรมปาร์คนายเลิศ ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่ได้มีการวางธีมตายตัว โดยงานเช้าค่อนข้างยากที่จะให้มีความเป็นไทย ในส่วนของแขกค่อนข้างน้อยเราจัดไม่ใหญ่ อยากจัดแบบอบอุ่นอยากให้คนที่มาเป็นคนที่เรารู้จักจริงๆ ในงานเช้า ก็ประมาณ 200 คน ซึ่งตั้งใจแยกเป็น 2 งานโดยงานเช้าเป็นงานของผู้ใหญ่ ก็จะเชิญผู้ใหญ่ที่เรารักที่เราเคารพ งานอีก งานซึ่งเป็นงานกลางคืนก็จะเป็นงานวัยรุ่น ก็จะเป็นปาร์ตี้ ก็คิดไว้ว่าไม่น่าจะเกิน 300 คนคือเราพยายามอยากที่จะให้เป็นไพรเวตนิดนึง”
ผู้ใหญ่เร่งมีทายาท
“มีคนถามซาร่าเยอะมาก เดี๋ยวจบงานค่อยคิดอีกที คิดว่าปีหน้าก็คงต้องซีเรียสในการคิดเรื่องนี้แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องของวัยที่พอเหมาะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายก็เร่งนิดนึงก็มีการพูดนิดหน่อย ถามว่าใครอยากมีมากกว่ากัน คุณสืบค่ะ (หัวเราะ)”
“ตอนนี้พี่เอ็มกลับมาทำงานประจำอยู่ที่เมืองไทยอาจจะมีบินไปบ้าง ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เป็นเรื่องง่ายในการใช้ชีวิตคู่มากขึ้น”
“ซาร่าคงไปเป็นแม่บ้านเต็มตัวไม่ได้เพราะเราทำงานมาตั้งแต่เด็ก ก็คงยังรับงานอยู่แต่ก็คงมีการวางแผนดีๆ ว่าปีหน้าจะยังไง ในส่วนตัวพี่เอ็ม เขาไม่ได้บอกว่าเราจะต้องเป็นแม่บ้านหรือออกไปทำงานข้างนอกเขาตามใจเราขอแค่เรามีความสุขก็พอ คือเขาค่อนข้างตามใจเราเพราะเขารู้ว่าเราเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง”
ผ่านบททดสอบมาทุกอย่าง เป้าหมายคืออยากใช้ชีวิตด้วยกัน
“มันต้องใช้เวลาหลายๆ อย่างและก็ต้องเรียนรู้กันและกัน จริงๆ ระหว่างทางมันไม่มีใครเพอร์เฟกต์อยู่แล้ว ระหว่างทางมันก็มีน้ำตามีช่วงที่หวั่นไหวอะไรบ้าง เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือเป้าหมายสุดท้ายของเราคืออะไร เป้าหมายของเราคือเราอยากใช้ชีวิตอยู่กับคนนี้ พอเวลามีปัญหาอะไรเราก็จะต้องแก้ไขปัญหาและต้องพูดคุยกัน ตอนที่เราต้องอยู่คนละประเทศมันก็เหมือนเป็นบททดสอบเบาๆ เพราะประเทศที่เราห่างกันมันไม่ได้ไกลมาก จริงๆ เหมือนเป็นบททดสอบให้เขาโตขึ้นมากกว่าเพราะไปอยู่โน่นเขาก็ต้องดูแลตัวเอง”
จดทะเบียนสมรส 9 ก.พ. ครบรอบ 15 ปี วันที่เจอครั้งแรก
“ตั้งใจจะจดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ปีหน้าเพราะเป็นวันที่เราเจอกันครั้งแรกครบรอบ 15 ปี ก็เลยกะว่าจะจดวันนั้นเลยจะได้จำง่ายๆ จะได้ฉลองทีเดียววันเดียว”
by TVPOOL ONLINE
