7 ดารา ยอม ขัดใจพ่อแม่ เพื่อ เข้าวงการบันเทิง

เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อาจจะเป็นเพราะว่า อาชีพดาราหรือนักร้องนั้น เป็นอาชีพต้องห้ามในอดีต ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ค่อยอยากจะให้ลูกหลานทำอาชีพนั้นสักเท่าไหร่ เพราะในสายตาของพวกเขามองว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน ให้ไปทำอาชีพอื่นซะดีกว่า ซึ่งดาราทั้ง 7 คนนี้ ต่างก็เจอเหตุการณ์เหล่านี้มาด้วยกันทั้งสิ้น เนื่องจากว่าทางบ้านไม่สนับสนุนให้อยู่ในวงการบันเทิงสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ยังเป็นดารามืออาชีพได้อย่างที่ฝัน ถึงแม้จะขัดใจครอบครัวก็ตาม ว่าแต่จะมีดาราคนไหนบ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กันเลย

7. ณัฏฐ์ ทิวไผ่ทอง

ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม หรือ  นัท วี 13 จากรายการ “ทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย” ที่ได้รับการโหวตให้กลับเข้ามาในเกมใหม่จนในที่สุดก็สามารถคว้าแชมป์เป็นสุดยอดนักล่าฝันได้ตามโผ  ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ได้ พ่อแม่ของ นัททิว ไม่ค่อยจะสนับสนุนสักเท่าไหร่ เพราะก่อนที่จะเข้าประกวดรายการนี้ พ่อแม่ไม่สนับสนุนพอได้เข้ามาก็เริ่มไฟเขียว เริ่มสนับสนุนบอกให้ทำเต็มที่

ฝ่าด่านพ่อแม่มาได้

ทำให้พ่อแม่ยอมรับและสนับสนุนได้ในที่สุด

ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

นักร้องเสียงดี หน้าหล่อเหลา

6. ไนกี้ นิธิดล

สำหรับ ไนกี้ นิธิดล นั้น ในช่วงมัธยมปลาย มีคนมาติดต่อและขอถ่ายรูป จนได้รับงานโฆษณาชิ้นแรก เป็นโฆษณา ทเวลฟ์ พลัส หลังจากนั้นก็เริ่มมีงานเข้ามาเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นงานถ่ายโฆษณา พอถึงช่วงเข้ามหาวิทยาลัย มีคนชักจูงให้ เดินแบบ ถ่ายแบบ จนกระทั่งแสดงเป็นพระเอกมิวสิควีดีโอเพลง

ซึ่งผลจากการแสดงมิวสิควีดีโอเพลง ส่งผลให้เป็นที่พูดถึง และเป็นที่รู้จักพอควร จึงมีการติดต่อจากค่ายเอ็กแซ็กส์ให้ไปออดิชั่นเป็นนักแสดงของทางค่าย จนได้รับเลือกให้เป็นนักแสดงในสังกัด จากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่อเล่นจาก ไนซ์ เป็น ไนกี้ ในเวลาต่อมา แล้วเริ่มแจ้งเกิดในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว

ทางครอบครัวของ ไนกี้ มีกิจการขายแก๊สหุงต้ม โดยส่วนตัวนิธิดลมีความชื่นชอบทางด้านการทหาร ครอบครัวเองก็ให้การสนับสนุน จึงตัดสินใจสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร แต่สอบไม่ผ่าน หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยจึงตัดสินใจเข้าสู่งานวงการบันเทิงอย่างจริงจัง ท่ามกลางการไม่เห็นด้วยของพ่อและแม่ที่อยากให้ทำงานอย่างอื่นมากกว่างานด้านวงการบันเทิง

หันมาเป็นดาราอาชีพ

ครอบครัวไม่เห็นด้วย

5. เติ้ล ธนพล

สำหรับพระเอกหนุ่มอย่าง เติ้ล ธนพล แม้จะโด่งดัง ติดลมบน ทว่าเขากลับใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ค่อยมีข่าวหวือหวาเหมือนนักแสดงคนอื่น ๆ แต่ก่อนที่จะมาเป็นดารานั้น ทางบ้านของหนุ่มเติ้ล ก็ไม่สนับสนุนเช่นกัน โดย เติ้ล ได้เปิดใจว่า…

“แรก ๆ ที่บ้านไม่สนับสนุนเลย กับการที่บ้านอยู่ต่างจังหวัดแล้วต้องขึ้นรถเข้ากรุงเทพฯ มาคัดเลือกงาน ต้องขึ้นรถมาถ่ายละคร แบบนี้ที่บ้านไม่ชอบ ที่บ้านอยากให้เป็นข้าราชการ เพราะครอบครัวผมเป็นข้าราชการหมดเลย ด้วยความที่ว่าผมเป็นลูกคนเดียว เขาเลยปล่อยให้ผมทำทุกอย่างที่ผมอยากทำ เขาจะบอกกับผมเสมอ ว่าเขามีเงินแค่ส่งให้เรียน แต่ทุกอย่างคุณต้องหาเอง อยากได้อะไร จะทำอะไร เป็นอะไร เขาจะให้อิสระตรงนี้ ซึ่งผมก็รู้สึกว่ามาถูกทาง เพราะดูคุณแม่ก็ปลื้มอยู่ เริ่มหันมาสนับสนุนบ้างแล้ว”

ที่บ้านอยากให้เป็นข้าราชการ เพราะคนในครอบครัวเป็นข้าราชการกันหมด

พอมาเป็นดาราได้สักพัก จนโด่งดังมีชื่อเสียง รู้สึกว่ามาถูกทาง คราวนี้ทางบ้านก็เริ่มสนับสนุนบ้างแล้ว

จะโด่งดังมีชื่อเสียงแค่ไหน เจ้าตัวก็ยังใช้ชีวิตติดดินเหมือนเดิม

4. วี วีรภาพ

อยู่ในวงการบันเทิงเกือบจะ 20 ปีแล้ว สำหรับพระเอก วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ที่เริ่มต้นจากการรับบทพระเอกในละครเรื่องแรก กว่าจะรู้เดียงสา เมื่อ 18 ปีก่อน จนมาตอนนี้เจ้าตัวได้ผันตัวมาเป็นผู้จัดละคร และเล่นละครไปด้วย ซึ่งฝีมือทางการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะรับบทอะไร หนุ่มวีรภาพก็ทำได้หมด แถมตีบทแตก จนตอนนี้มีแฟนคลับทั้งสาวเล็ก สาวใหญ่ติดตามกันเป็นจำนวนมาก

เจ้าตัวก็ได้โพสต์อินสตาแกรมย้อนรำลึกไปเมื่อครั้งเริ่มเล่นละครเรื่องแรก กว่าจะรู้เดียงสา ซึ่งตอนนั้นเพิ่งอายุ 20 ปี ส่วนการแสดงนั้น เจ้าตัวยอมรับว่า มันยากมาก เล่นไม่ได้เลย กดดันหนักจนต้องไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำ อีกทั้งครอบครัวยังไม่สนับสนุน เพราะอยากให้เป็นวิศวกรมากกว่ามาเต้นกินรำกิน

“มีคนส่งมาให้ดู ผมย้อนนึกถึงสมัยก่อนเลย ผมเซ็นสัญญากับช่องตอนอายุ 19 ปี ตอนนั้นยังงงกับการปรับตัวและแล้วผลงานละครเรื่องแรกในชีวิตและรับบทพระเอกเลย “กว่าจะรู้เดียงสา” ออกอากาศ ปี พ.ศ.2543

ตอนนั้นผมอายุ 20 ปี(18 ปีที่แล้วเอง) ใครทันบ้าง #บ้านๆใสๆไร้ศัลยกรรม #ทางบ้านอยากให้เป็นวิศวกร #ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทางบ้านเห็น #เรียนการแสดงในกองถ่าย #แอบร้องไห้ในห้องน้ำเพราะเล่นไม่ได้ #เวลาตื่นเต้นแล้วจะพูดติดอ่าง #ถ่ายทำเช้ายันเช้า

ตอนนั้นยอมรับว่าเคยท้อ จะบอกกับที่บ้านแล้วว่างานแสดงคงไม่เหมาะกับเราแต่มาถึงจุดเปลี่ยนจุดนึง ผมฮึดสู้และผมก็ผ่านมาได้!!! และก็เป็นพระเอกละครเรื่อยมาอีกหลายสิบเรื่องจนถึงทุกวันนี้ เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่ผมไม่เคยลืมเลย.

ที่บ้านอยากให้เป็นวิศวกร

อาชีพนักแสดงคงไม่เหมาะ เคยท้อจนไม่อยากทำ แต่ด้วยความฮึดสู้ ปัจจุบันเจ้าตัวอยู่ในวงการมานานกว่า 20 ปีแล้ว

3. ปันปัน สุทัตตา

ได้รับคำสั่งโดยตรงจากคุณพ่อให้ไปเรียนต่อระดับปริญญาโท ในต่างประเทศ ทำเอานางเอกสาวขวัญใจวัยทีน “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์” ถึงกับออกอาการกลุ้มอกกลุ้มใจหนักมาก โดยเจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตอนนี้ค่อนข้างเครียดเนื่องจากมีความรู้สึกว่าอยากจะทำงานก่อน อีกทั้งช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่มีงานเข้ามาเยอะจึงไม่อยากเสียโอกาส แต่สำหรับเรื่องการศึกษาเธอเองก็ไม่ได้อยากขัดใจคุณพ่อ เพราะถึงยังไงสุดท้ายแล้วก็ต้องไปเรียนต่ออยู่ดี

คุณพ่อสั่งให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ

แต่อยากทำงานในวงการบันเทิงต่อ

“เรื่องเรียนตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ คือเหมือนคุณพ่อเขาอยากให้ไปเรียนต่อเพราะท่านอยากให้จบปริญญาโท แบบไปเรียนทีเดียวให้จบเลย เนื่องจากท่านค่อนข้างกังวลว่าถ้าหากเบรคไว้เอาแล้วเราจะขี้เกียจไม่อยากไปเรียนในอนาคต”

แต่ยังไงสักวันก็ต้องได้ไปเรียนต่ออยู่ดี

2. เบลล่า ราณี

สำหรับนางเอกสาวสุดฮอต เบลล่า ราณี นั้น ย้อนกลับไปช่วงมัธยมปลาย ความน่ารักสะดุดตาของ เบลล่า เป็นเหตุให้โมเดอลิ่งเข้ามาทาบทามไปถ่ายแบบถ่ายโฆษณา แต่ในตอนนั้นเธอปฏิเสธไป เพราะคุณพ่อคุณแม่รู้สึกเป็นห่วงยังไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวเข้ามาทำงานในสายบันเทิง อยากให้ตั้งใจเรียนอย่างเดียวมากกว่า เริ่มต้นจากงานโฆษณา ประมาณ 10 ตัว หลังจากนั้นโชคชะตาก็ทำให้พานพบกับ ผู้ช่วยของ เอ – ศุภชัย ศรีวิจิตร แน่นอนออร่าของเบลล่าเข้าตาแมวมองมือฉมังอย่างจัง สเต็ปต่อมาก็เข้ามาแคสต์กับทางช่อง 3 และได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด

ลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

พ่อแม่เป็นห่วง ไม่อยากให้ทำงานสายบันเทิงสักเท่าไหร่

แต่สุดท้าย เธอก็ประสบความสำเร็จได้จากสายนี้ ด้วยการแจ้งเกิดเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการ

โด่งดัง ปังสุดๆ

1. แซม ยุรนันท์

พระเอกสุดหล่อตลอดกาลอย่าง แซม ยุรนันท์ เมื่อครั้งสมัยยังเป็นหนุ่มหล่อใสวัยรุ่น ในตอนนั้น แซม ได้ถูกชักชวนเข้าวงการบันเทิง แต่ด้วยความที่ คุณพ่อ ของ แซม นั้น ไม่เห็นด้วยที่ แซม จะเข้าวงการบันเทิง เพราะกลัวว่าจะหลงระเริง ด้วยความที่ แซม เป็นคนที่ชัดเจนในเหตุและผล ในเมื่อคุณพ่อไม่ชัดเจนแบบนี้ ทำให้ แซม ต้องออกจากบ้านมาเผชิญโลก ทั้งๆ ที่ทำอะไรไม่เป็นเลย ขึ้นรถเมล์ไม่เป็นด้วยซ้ำ

“พอออกจากบ้านก็ไปอาศัยอยู่กับคุณป้าอยู่แถวปากเกร็ด ที่เมื่อ 40 ปีก่อนมันคือไกลมาก เป็นถนนลูกรัง ต้องนั่งรถเมล์ ฝนตกก็เปียกฝน ตอนนั้นก็เศร้าเหมือนกันนะ แต่ท้อไม่ได้ มันมีแรงบันดาลใจว่าต้องทำให้ได้นะ”

“ก็เริ่มไปเล่นหนัง ตอนนั้นอายุ 17 ก็ไปเล่นหนังทั้งๆ ที่ไม่มีผู้จัดการ ไม่มีคนสอนการแสดง ไปที่กองคนเดียว แต่ก่อนหนังจะออกถ่ายแม็กกาซีนเยอะมาก มานั่งคิดๆ ดูก็เหมือนเราตายไปแล้วจริงๆ นะ การออกมาจากบ้านเป็นเหมือนการเริ่มชีวิตใหม่จริงๆ”

ออกจากบ้าน เพื่อเดินตามความฝัน แล้วก็ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ สุดยอดมากๆ เลยล่ะ

กลายเป็นสุดยอดดาราที่ครองใจสาวๆ ได้ทั่วทั้งประเทศ

มีดาราในวงการหลายคนเลยทีเดียว ที่ก่อนจะมาเป็นดาราได้นั้น ต้องฝ่าด่าน ครอบครัวไม่ปลื้ม ไม่อยากให้ทำงานในวงการ แต่สุดท้ายก็เป็นดาราระดับแถวหน้าได้ ถึงแม้จะต้องขัดใจครอบครัวก็ตาม…

by TVPOOL ONLINE