หนุ่มจีนปวดหัวรุนแรง หลายโรครุมเร้า พอไปพบแพทย์ถึงกับตะลึงกับสิ่งที่อยู่ในสมอง
ทีมแพทย์ประจำโรงพยาบาลกลางฉางชา ในเมืองฉางชา มณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ได้ตรวจรักษาคนไข้หนุ่มแซ่อู๋ วัย 26 ปี ซึ่งมาพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บป่วยหลายอย่าง เขามีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงอยู่เสมอ กลืนอาหารได้อย่างลำบาก พูดจาติดขัด และไม่สามารถเดินทางตรงทางเหมือนคนปกติ แพทย์จึงได้ทำการตรวจเอ็มอาร์ไอ (MRI – Magnetic Resonance Imaging) สแกนดูสมองของเขา เพื่อค้นหาว่าต้นเหตุของอาการเจ็บป่วยของเขาคืออะไร และมันสร้างความตื่นตะลึงแก่แพทย์เป็นอย่างมาก เพราะต้นเหตุของเรื่องคือพยาธิ !
จากการรายงาน คนไข้หนุ่มรายนี้เล่าให้แพทย์ฟังว่า สมัยที่เขายังเป็นเด็ก วัย 9 ขวบ เขาประสบอุบัติเหตุบางอย่างจนกระดูกร้าว และเขาก็ได้ไปจับกบมากิน ทั้งแบบดิบ ๆ และแบบที่ยังเป็น ๆ เนื่องจากมีความเชื่อว่ามันจะสามารถช่วยให้กระดูกของเขากลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น ซึ่งเขาก็กินแบบนี้ติดต่อกันอยู่นานหลายวัน เมื่อเติบโตขึ้น เขาก็ประสบปัญหาทางสุขภาพมากมาย
ในวันที่อู๋แอดมิทเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกลางฉางชาเป็นวันแรกนั้น แพทย์พบว่าเขามีภาวะสมองขาดเลือด และได้เร่งตรวจสมองของเขาเป็นการด่วน เนื่องจากอาการหลาย ๆ อย่างที่เขาเป็น รวมทั้งอาการล่าสุด ล้วนชี้ให้เป็นว่าเป็นอาการผิดปกติที่เกิดจากสมอง ซึ่งเมื่อตรวจเอ็มอาร์ไดดูก็พบก้อนกลมสีขาว ที่ทุกคนลงความเห้นตรงกันว่ามันคือพยาธิ
ทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดสมองให้อู๋ เพื่อนำพยาธิตัวนี้ออกมาแล้ว สามารถวินิจฉัยได้ว่าเขาติดเชื้อพยาธินี้มาจากการกินกบที่มีตัวอ่อนของพยาธิฝังอยู่ โดยกินแบบดิบ ๆ ไม่ปรุงสุก เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ เจริญเติบโต เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปฝังตัวอยู่ในสมอง ขณะนี้เขาปลอดภัยแล้ว แต่ก็ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดไปก่อน เมื่อฟื้นฟูร่างกายดีแล้ว จึงจะสามารถกลับบ้านได้
ทั้งนี้ อู๋ไม่ใช่คนแรกที่จับกบดิบ ๆ มากิน โดยความเชื่อเรื่องนี้เป็นการแพร่หลายอยู่ในภูมิภาคตอนกลางของจีน เชื่อว่ามันมีสรรพคุณรักษาโรค ซึ่งแพทย์ก็ได้เตือนว่าไม่ควรกินแบบดิบ ๆ ยิ่งเป็น ๆ ยิ่งห้าม เพราะเสี่ยงต่อการเป็นโรคอย่างมาก โดยเฉพาะพยาธิ และทุกครั้งที่กินกบ หรือสัตว์อื่น ๆ แนะนำให้ปรุงให้สุกเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง