เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 25 ม.ค. ที่จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ มีการจัดงานฉลองมงคลสมรสของคู่รักมาราธอน นักร้องหนุ่ม บอย พีซเมกเกอร์ หรือ อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี กับแฟนดาราสาว เจี๊ยบ พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ หลังศึกษาดูใจมานานถึง 14 ปี พร้อมเปิดใจถึงความรู้สึกก่อนจะเริ่มงานฉลองมงคลสมรสในช่วงเย็นนี้

14 ปี ฝันเป็นจริง

โดย เจี๊ยบ กล่าวถึงงานวันนี้ว่า “ตอนแรกคิดว่าจะไม่ตื่นเต้น แต่พอมาวันนี้ตื่นเต้นแล้ว”
บอย เสริมว่า “ตื่นเต้นเหมือนกันครับ ตอนแรกเป็นอารมณ์กังวลมากกว่า กลัวงานไม่พร้อม กลัวตัวเราเองทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้ลืมเรื่องกังวลแล้ว มีแต่ความตื่นเต้น”

เป็นคู่ที่รับงานจนโค้งสุดท้าย?
เจี๊ยบ “ดอกเบี้ยมันเดินค่ะ ก็ต้องรับงานนิดนึง(หัวเราะ) คือหยุดรับสองวันก่อนถึงงานค่ะ”
บอย “งานแต่งต้องใช้ตังค์”

งานวันนี้เหมือนในฝันที่เราคิดไว้ไหม?
เจี๊ยบ “อย่างที่เราคุยกันตั้งแต่แรก อย่างให้ออกแนวโบสถ์ ก็คุยกับทีมออแกไนซ์ เขาก็เนรมิตมาค่ะ ก็ตรงตามที่อยากได้เกือบร้อยเปอร์เซ็น”

เตรียมความพิเศษไว้เซอร์ไพรส์เจ้าสาวบนเวทีไหม?
บอย “บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ(ยิ้ม)”
เจี๊ยบ “เราไม่รู้เลยเพราะเมื่อวานมีรันทูกัน ก็ยังจำอะไรไม่ค่อยได้”
บอย “เรามีซ้อมพิธี ก็ยังกังวลในเรื่องสเต็ปต่างๆ มากกว่า”

เมื่อคืนนอนหลับไหม?
บอย “หลับครับ เหนื่อยจนหลับ”
เจี๊ยบ “เหนื่อยจนหลับ คือหลับๆ ตื่นๆ”

กำลังจะก้าวไปอีกสเต็ปหนึ่งแล้ว?
บอย “ถ้าพูดถึงก้าวไปอีกสเต็ป คือจริงๆ มันเหมือนความฝัน เราฝันว่าวันนึงเราจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน วันนึงมาเป็นครอบครัวเดียวกัน วันนี้ไม่ว่างานจะออกมาเป็นแบบไหน มันก็คือสิ่งที่เราฝันไว้ครับ มีงานแต่งงาน มีครอบครัว ใช้ชีวิตด้วยกัน เป็นสามีภรรยากัน อันนี้คือสิ่งที่เราฝันไว้

หลังจากนี้จะใช้คำว่า สามีภรรยา แล้ว?
เจี๊ยบ “จริงๆ แล้วเจี๊ยบว่าความผูกพันและสิ่งที่เราทำให้กันในทุกๆ วัน ที่ผ่านมา มันก็คงเหมือนเดิม แต่อาจจะมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนิดนึง หลังหนี้ทุกอย่างเคลียร์แล้ว ก็อาจจะมีเป้าหมายใหม่อีกเป้าหมายหนึ่งที่ก้าวไปอีกสเต็ปนึง หลังจากวันนี้ ส่วนเป้าหมายร่วมกันล่าสุด ที่ใหญ่สุดคือขอปลดหนี้ก่อน(หัวเราะ)”


บอย “คือเราอยากให้เป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุดมากกว่า เราอยากทำให้เขามีความสุขที่สุด เขาก็อยากทำให้เรามีความสุขที่สุด ผมว่าอันนี้มันเป้าหมายหลักและใหญ่ที่สุดที่เราสองคนคุยกัน คิดว่าหลังแต่งงานไปเป็นสามีภรรยา เป็นครอบครัวเดียวกัน ยังไงก็จะต้องเป็นครอบครัวที่มีความสุข และเผื่อแผ่ความสุขให้คนรอบข้างให้ได้มากที่สุด

เจี๊ยบมองว่าตัวเองจะเป็นภรรยาแบบไหน แม่บ้านแม่เรือนไหม?
เจี๊ยบ “ถ้าเป็นแม่บ้านแม่เรือนเลยคงไม่ร้อยเปอร์เซ็น หลักๆ เจี๊ยบก็ยังทำงานอยู่ เพราะได้ตกลงกันแล้ว หลังจากที่ตอนแรกคุณบอยยังไม่ยอมให้รับละคร แต่หลังแต่งงานเจี๊ยบขอรับละคร ขอทำงานในวงการก่อน แล้วถ้าวางแผนจะมีน้อง ค่อยหยุดอีกทีนึงค่ะ”
บอย “คงเป็นแม่อย่างเดียวก่อน”

คู่เรามีแพลนจะไปฮันนีมูนที่ไหนกัน?
บอย “เรื่องฮันนีมูนยังไม่ได้คิดเลยครับ ว่าจะไปที่ไหน เพราะตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้วจนถึงวันนี้ ก็จะวุ่นเรื่องวางแผนแต่งงาน ผมว่าเรื่องฮันนีมูนค่อยคิดอีกทีนึง ค่อยคุยว่าเขาอยากจะไปไหน ทำอะไรบ้าง”

แสดงว่าเรื่องมีลูกยังอีกนานเลยไหม?
เจี๊ยบ “คงยังอีกสักพักนึงค่ะ ยังไม่เปิดอู่เลย แต่งงานแล้วขอทำงานก่อน หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะเอายังไง”

คิดว่าวัยจะทันมีบุตรไหม?
เจี๊ยบ “ทันค่ะ เพราะเราปรึกษาคุณหมอแล้ว จริงๆ สมัยนี้คุณหมอค่อนข้างเก่ง ยังทันอยู่ค่ะ ยังไม่ 60 (หัวเราะ) ยังได้อยู่”
บอย “ก็มีญาติๆ ที่ผู้หญิงมีลูกตอนอายุ 44 ปี เราก็เพิ่งไปคุยกับญาติมา เขาบอกว่าถ้าดูแลสุขภาพดีๆ ให้ร่างกายแข็งแรงทั้งคู่ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการมีลูกตอนอายุเลย 40 ไปแล้วครับ”

ถามถึงพิธีในวันนี้ จะเป็นยังไง?
บอย “คงจะเป็นการทานเลี้ยงธรรมดาในช่วงแรก แต่พิธีที่จริงจังเลย ที่เราตั้งใจให้มีในวันนี้คือพิธีแต่งงานแบบคริสต์ ที่เหมือนเรายกในโบสถ์มาไว้ที่งาน จบในวันเดียวเลย คือเราอยากให้แขกที่ไม่เคยได้เห็นถึงพิธีคริสเตียนจริงๆ เป็นแบบนี้นะ เพราะบางท่านไม่สะดวกเดินทางไปที่โบสถ์ตอนกลางวัน เลยเหมารอบมาเป็นทีเดียวเลยตอนกลางคืน ก็จะมีบาทหลวงด้วย”

มีฤกษ์เวลาไหม?
บอย “งานวันนี้เซตทุกอย่างไม่มีฤกษ์เลยครับ แต่เราจะเซตเวลาให้ตามกำหนดงาน ให้เหมาะสมกับช่วงเวลา อย่างเช่นตอนเย็นแขกมาถ่ายรูปกับเราก่อน ทานอาหารให้เต็มที่ก่อน”

ชุดเจ้าสาว-เจ้าบ่าว มีกี่ชุด?
เจี๊ยบ “ชุดเจ้าสาวมี 3 ชุดค่ะ ชุดแถลงข่าว ชุดงาน ชุดอัพเตอร์ปาร์ตี้”
บอย “ผมมีชุดนี้ กับชุดพิธีจริง ส่วนอัพเตอร์ก็เป็นชุดธรรมดาแล้ว ไม่ได้เป็นสูท”

แหวนแต่งกี่กะรัต?
บอย “เป็นแหวนเกลี้ยงครับ”
เจี๊ยบ “จริงๆ แล้ว คือเราคบกันมาค่อนข้างนาน เรื่องกะรัตมันอาจจะไม่ใช่เป็นเครื่องวัดอะไร เพราะตอนที่เราเลือกแหวนกัน เราคุยกันว่าเอาพอที่สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้”

บอย “บางทีเราเลือกใหญ่ไป พอไม่ใช่วันแต่งงาน แต่วันในชีวิตปกติ มันก็เอาออกมาใส่ไม่ได้ ต้องมานั่งระวัง เลยเลือกที่พอเหมาะพอดี สวยงาม และเราสองคนชอบมากกว่าครับ”

คู่เราผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันนานมาก พอมาถึงวันนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
บอย “จริงๆ แล้วมีผู้ใหญ่หลายท่านบอกว่า หลังจากแต่งงานมันเหมือนเราเริ่มนับหนึ่งในชีวิตคู่จริงๆ อีกครั้งนึง ฟังผู้ใหญ่มา เราก็เก็บมาคิดว่าชีวิตเรามันก็คงต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ 14 ปีมันอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับบางคน หรือสำหรับเราเอง ฉะนั้นเราสองคนคงต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ 14ปี 15ปี 16ปี คงต้องนับกันใหม่ ต้องศึกษาและเข้าใจกันต่อๆ ไป”

มีคำมั่นสัญญาให้กันยังไงบ้างในชีวิตที่จะเริ่ม?
เจี๊ยบ “จริงๆ เราสองคนตอนที่คบกัน มันไม่ได้มีคำมั่นสัญญาว่าต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้นะ แค่ทำทุกวันให้ดีที่สุด เหมือนกับว่าเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอกัน”
บอย “คำสัญญาเรามันเป็นการกระทำมากกว่า ที่เราปฎิบัติต่อกันมาตลอด จะดูแลกันนะ จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งมีความสุขที่สุด”

จดทะเบียนสมรสเลยไหม?
บอย “คิดว่าหลังจากงานแต่งสักพักนึงครับ ไม่ต้องมีฤกษ์ครับ”
เจี๊ยบ “เรื่องนามสกุล ก็หลังจดทะเบียนคงเปลี่ยนค่ะ ส่วนคำนำหน้า เราก็ไม่ได้ติดอะไร เป็นนางก็ได้”

ย้ายเข้าเรือนหอเลยไหม?
บอย “ยังเลยครับ คิดว่าหลังแต่งงานคงลุยต่อ เรือนหอที่มันสร้างค้างไว้ ก็คงทำต่อให้เสร็จและย้ายเข้าอยู่ในเร็ววัน”

มีแพลนชีวิตเรื่องงานหลังจากนี้ยังไง?
บอย “ผมเองคงลุยเรื่องเพลงต่อ จริงๆ เมื่อวานก่อนแต่งงาน ก็มีผลงานใหม่ปล่อยแล้ว ชื่อเพลง ‘ไม่ไหวบอกไหว’ แพลนที่จะปล่อยตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ขยับมาเรื่อยๆ ทางเจี๊ยบปีนี้เขาขอกลับมารับละคร และรับเยอะหน่อย อยากลุยทำงานมากขึ้น เพราะปีสองปีที่ผ่านมา ผมขอให้หยุดก่อน”

มีอะไรอยากจะบอกกันและกันไหม?
บอย “จะดูแลเขาให้ดีที่สุด ดูแลให้เต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ เท่าที่เราจะสุดกำลังของคนๆ นี้ที่จะดูแลเขา ดูแลให้มากที่สุด ให้มีความสุขที่สุด เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดครับ”
เจี๊ยบ “เหมือนกันค่ะ ที่ผ่านดูแลเขายังไง ทุกวันนี้ก็คงดูแลมากขึ้นกว่าเดิม ใส่ใจรายละเอียดเหมือนเดิมค่ะ”