เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

หลังจากที่บริษัทซ่านโถว เปิดเผยว่าได้เปลี่ยนตัวประธานกรรมการคนใหม่ จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายเฉิน อุยตง ชาวจีนเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ปี 2561

หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกง รายงานว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาจดทะเบียนเป็นกรรมการบริหารในบริษัทพี.ที. คอร์ปอเรชั่น บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อ 24 ส.ค. ปี 2560 และน.ส. ยิ่งลักษณ์ ยังได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการบริษัทซ่านโถว อินเตอร์เนชันแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัลส์ (เอสไอซีที) ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับท่าเรือ และตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งของจีน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์ปฏิเสธเรื่องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถือครองหนังสือเดินทางประเทศกัมพูชา แต่ข้อมูลเอกสารดังกล่าวกลับขัดแย้งกับคำชี้แจงของรัฐบาลกัมพูชา

รายงานข่าวของสื่อฮ่องกง ระบุด้วยว่า เอกสารในการเข้าบริหารบริษัทดังกล่าวถือเป็นหลักฐานอย่างเป็นทางการชิ้นแรก ที่ตอกย้ำการทำธุรกิจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นับตั้งแต่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีคดีจากประเทศไทยไป และจนถึงบัดนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า บริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจด้านใด แต่หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ก่อตั้งบริษัทได้เพียง 4 เดือน ก็ได้เข้าไปนั่งเป็นประธานบริหารบริษัทซ่านโถว คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล ซึ่งบริหารท่าเรือซัวเถา มณฑลกวางตุ้งของจีน

ด้านสื่อดัง “แอปเปิล เดลี่” รายงานสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริษัทบริหารท่าเรือของเมืองซัวเถาอาจเป็นเพราะทางรัฐบาลจีนสงสัยว่าจะมีการพัวพันกับการทุจริตและเชื่อมโยงไปถึงหุ้นส่วนชาวสิงคโปร์ โดยระบุว่า มีความสนิทสนมกับ “ครอบครัวชินวัตร”ด้วย

สื่อฮ่องกงรายงานอีกว่า นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ที่เป็นหุ้นส่วนกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในบริษัทท่าเรือซัวเถา เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาทุจริตเลี่ยงภาษีมาแล้ว

สำหรับการปราบปรามการทุจริต ในยุคของผู้นำจีน “สี จิ้นผิง” เป็นไปด้วยความเข้มข้น หากรายงานข่าวเป็นความจริง อดีตนายกฯหญิง ของไทยอาจถูก”อายัดทรัพย์”ก็เป็นได้