เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เพชรโรจน์ดาราสาว ให้สัมภาษณ์  ถึงสภาพจิตใจหลังเลิกรากับพระเอกหนุ่ม ตูมตาม ยุทธนา เปื้องกลาง ท่ามกลางกระแสข่าวเมาธ์ว่ามี ‘ลูกน้ำ ทิดาลัด’นางงามลาวเป็นมือที่สาม พร้อมตอบเรื่องที่ตัวเองโดนแฉกลับว่าใช้พ่อฝ่ายชายซักกกน.ให้

ญิ๋งญิ๋ง

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
“ถามว่ามันดีขึ้นไหม มันยังไม่ได้ดีหรอกค่ะ แต่ว่าตอนนี้ต้องเดินต่อแล้ว ต้องพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้น ด้วยความที่ตัวเราเป็นหัวหน้าครอบครัวต้องดูแลแม่ ฉะนั้นเราต้องทำงาน ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาตอนนี้คือมันก็ไม่ได้แล้ว อย่างที่บอกว่ามันก็ต้องตัดแล้ว ใช้คำว่าขอตัดดีกว่า เพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแรงเร็วที่สุด แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่จะดีขึ้นเร็วหรอก แต่ว่าเราก็ต้องพาตัวเองไปข้างหน้าและเข้มแข็งให้ได้”

ทุกวันนี้ยังร้องไห้อยู่ไหม?
“เอาเป็นว่าหนูพยายามทำให้ตัวเองแข็งแรงขึ้นดีกว่าค่ะ ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ ตอนนั้นก็ค่อนข้างหนักสำหรับเรา เพราะไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้”

แล้วกับภาพสนิทสนมของตูมตามกับลูกน้ำที่หลุดออกมาล่ะ?
“เห็นแล้วค่ะ ความรู้สึกก็เหมือนกับที่เคยให้สัมภาษณ์ไปในรายการ แต่สภาพจิตใจของหนูตอนนี้คือจะต้องเดินไปข้างหน้า หนูล้มไม่ได้ หนูเป็นหัวหน้าครอบครัว หนูมีแม่ที่ต้องดูแล ถ้าเกิดหนูล้มปุ๊บแม่จะอยู่ยังไง สำหรับรูปนั้นถ้าเกิดหนูเคยเห็นมาก่อนคงตัดใจได้ง่ายๆ คงไม่ต้องมานั่งเสียใจแล้วก็เป็นแบบนี้ มันคงเข้มแข็งเร็วขึ้น และตัดฉึบได้เลยค่ะ

ญิ๋งญิ๋ง

กับเรื่องที่ทางครอบครัวตูมตามออกมาโพสต์อะไรต่างๆ คนโยงว่าเหมือนจะสื่อมาถึงตัวเราหรือเปล่า?
อันนั้นหนูก็เห็นแล้วค่ะ คิดว่าในส่วนของหนูคือเป็นเด็ก พ่อแม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว คิดว่าหนูไม่ควรที่จะพูดถึงหรือออกความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับตรงนี้ แล้วยังไงหนูก็ยังเคารพพ่อแม่และพี่ชายพี่ตามเหมือนเดิม ส่วนเรื่องผลกระทบ หนูไม่ขอออกความคิดเห็นเรื่องนี้เหมือนกัน ยังไงผู้ใหญ่ พ่อแม่คือเหมือนพระในบ้าน คนที่อยู่ที่สูง อย่าดึงเขาลงมาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพราะว่าเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของหนูกับพี่ตามสองคน

ที่ผ่านมาคุณพ่อกับคุณแม่ของตูมตามเจอกับเราเป็นยังไงบ้าง?
“ที่ผ่านมาก็ดีค่ะ”

ล่าสุดมีคนมาแฉว่าเราให้พ่อเขาซักกางเกงใน?
“ไม่จริงเลยค่ะ หนูคิดว่าข่าวมันเละเทะไปไกลแล้วค่ะ กลับมาหาหนูนี่ ถามว่าตอนเห็นข่าวนี้ตกใจไหม ก็ตกใจค่ะ ยอมรับว่าแรง หนูเชื่อว่าคนสมัยนี้แยกแยะได้ คนเก่งขึ้น และจะเข้าใจว่าอะไรจริงหรือไม่จริง”

รู้สึกว่ามีคนสร้างเรื่องดิสเครดิตเราไหม?
“ไม่เป็นไรค่ะ ความจริงเป็นยังไงเราก็รู้อยู่”

จริงๆ เรื่องมือที่สามที่เราระแคะระคายเป็นคนเดียวกับในข่าวที่ออกมาไหม?
“ตอบไปหลายครั้งแล้วว่าไม่อยากพูดถึงคนอื่นค่ะ ให้เป็นเรื่องของหนูกับพี่ตามดีกว่า”

กับตูมตามเองเรายังไม่ได้คุยหรือเคลียร์อะไรกันอีกใช่ไหม?
“ยังไม่ได้คุยค่ะ ตอนนี้จะเคลียร์หรือไม่เคลียร์ หนูให้เป็นหน้าที่และเป็นความสมัครใจของเขาละกัน อย่างที่บอกหนูต้องลุกขึ้นและเข้มแข็งให้ได้แล้ว เพราะอย่างที่เห็นไม่ใช่แค่เรา เพื่อนเรา พี่ๆ คนรอบข้างแม้แต่คนที่เขาให้กำลังใจเรา หนูเห็น หนูอ่าน และทุกคนก็บอกว่า ญิ๋งต้องลุกขึ้นได้แล้ว และหนูเห็นด้วยกับตรงนั้น ที่ทุกคนส่งกำลังใจมา เราควรจะลุกขึ้น เข้มแข็งได้แล้ว”

ถ้าเกิดสมมติว่าเขาจะมาอธิบายให้เราฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เราจะเปิดโอกาสให้เขาไหม?
“ให้เป็นสิทธิ์ของพี่เขาเลยค่ะ ถ้าเกิดมีโอกาสได้คุยกันก็ยินดีค่ะ”

ผิดหวังในตัวตูมตามไหม รักกันอยู่ดีๆ มาเป็นแบบนี้?
“อืม…เรื่องแบบนี้มันคาดไม่ถึง คือคนเราทุกคน ไม่ใช่แค่หนูหรือว่าใคร มันสามารถเปลี่ยนได้ คือเราไม่อยากใช้คำว่าผิดหวังหรอก เอาเป็นว่าหนูก็ยอมรับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นดีกว่า เราต้องยอมรับ ณ สถานการณ์ตอนนี้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว เราจะมีวิธีรับมือยังไงให้เราเข้มแข็งขึ้น”

ในอนาคตถ้าเกิดต้องกลับมาร่วมงานกัน จะเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องได้ไหม?
“ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ แต่ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดค่ะ ยังยินดีเสมอถ้ามีโอกาสได้เจอกัน”

ทางตูมตามมีแนวโน้มว่าจะบวชอีกครั้ง?
“จริงๆ หนูเคยคุยกับพี่ตามเรื่องนี้ไว้นะ แล้วหนูไม่รู้ว่าอะไร คือเราเป็นคนทำบุญเหมือนกันก็เลยสนับสนุนมาก ถ้าเกิดเขาอยากจะบวชอีกครั้งหนึ่งก็อนุโมทนาสาธุค่ะ เหตุผลตอนนั้น เขาเคยพูดให้ฟังว่าก่อนที่จะมีครอบครัว อยากจะบวชอีกครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้ค่ะ(หัวเราะ)”

ความรักครั้งนี้เจ็บที่สุดในชีวิตเลยไหม?
“มันก็เจ็บสุดในชีวิตแล้วล่ะคะ เพราะเราค่อนข้างมั่นใจแล้วคิดว่าคนนี้แหละที่เราจะอยู่ด้วย แต่เมื่อผลมันออกมาแบบนี้ก็ต้องยอมรับค่ะ แต่ไม่ถึงกับกลัวเรื่องความรัก อย่างที่ญิ๋งบอกความรักมันเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่ว่าสิ่งที่เราต้องดูให้มันแน่ชัด จริงๆ ก็คือจิตใจคน ไม่ได้ว่าใครนะคะ แต่เราต้องกลับมาดูจิตใจเราเองก่อน ก่อนจะรักใครอีกครั้ง มันจะต้องมั่นใจแล้วว่าอันนี้แหละคือความรักจริงๆ”

เรากลับไปย้อนคิดบ้างไหมว่าช่วงระหว่างที่คบกัน มันเกิดข้อผิดพลาดตรงไหน มันถึงได้มีรอยร้าวแบบนี้?
“ระหว่างทาง ความสัมพันธ์ของคนสองคน มันไม่มีใครถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วมันก็ไม่มีใครผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างมันอย่างละ 50-50 อย่างที่หนูเคยบอกไป หนูอาจจะมีข้อผิดพลาด พี่ตามก็อาจจะมีข้อผิดพลาด แต่เมื่อมาถึงตรงนี้ มันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องยอมรับ เอาเป็นว่าครั้งหน้าเราจะได้ปรับปรุงให้มันดีขึ้น ทั้งหนูเองและพี่ตาม”

เหมือนในวันนี้ตัวเราเองเริ่มเข้มแข็งขึ้นเยอะ?
“ต้องเข้มแข็งค่ะ อย่างที่ออกรายการไปครั้งที่แล้ว เรากลับไปแล้วเห็นแม่โทร.มา พอกลับไปดูตัวเอง โอ้โห! มันดูไม่ได้เลยจริงๆ ขนาดเรากลับไปดูตัวเองตอนนั้น เรายังรู้สึกว่าสภาพเราแย่มากเลยค่ะ แม่เราเห็นจะขนาดไหน เราก็มีกันอยู่แค่สองคน เพราะคุณพ่อก็เสียไปแล้ว เพราะฉะนั้นหนูก็ต้องเป็นเสาหลักให้แม่ หนูอ่อนแอได้ แต่มันจะอ่อนแอนานไม่ได้ค่ะ เพราะคนที่เจ็บปวดมากที่สุดก็คือแม่เรา”

ทางตูมตามเองก็โดนกระแสโจมตีหนักพอสมควร?
“เรื่องที่โดนโจมตีหนูไม่สามารถจะไปออกความคิดเห็นได้ค่ะ เพราะหนูเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง มีความคิดของตัวเอง เราไม่สามารถห้ามใครได้ เอาเป็นว่าหนูไม่ออกความคิดเห็นดีกว่า”

ถ้ามีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง เราจะตั้งรับมันยังไง?
“มันต้องมีอะไรหนักกว่านี้อีกเหรอคะ หนูว่าเท่านี้มันก็หนักแล้วนะ หนักมากแล้ว ตอนนี้ต้องทำให้ตัวเองเข้มแข็งมากที่สุด จริงๆ วันนี้ก็คิดเหมือนกันนะ ยังโทรปรึกษาปุ๊กลุกเลย เพราะอีเวนต์เพิ่งจะติดต่อมา เราคิดว่าเราจะรับงานดีไหม หรือจะเอายังไงดี ซึ่งเขาบอกว่าถ้ายังไม่เข้มแข็ง อย่าออกมา แต่หนูมีแค่สองทางที่ต้องเลือก หนึ่งคือหนูนั่งเสียใจอยู่ที่บ้านและไม่ได้อะไรขึ้นมา กับสองคือออกมาทำงาน อย่างที่บอกหนูมีแม่ที่ต้องดูแล สู้หนูออกมาทำงานหาเงินดูแลแม่ดีกว่าไหม มันน่าจะดีกว่านะ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเข้มแข็งขึ้น วันนี้เราเลยตัดสินใจมา ที่สำคัญเราบอกพี่ๆ นักข่าวว่า อย่าถามหนูแรงนะ(ยิ้ม)”

มีสัญญากับตัวเองไหม ว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว ?
“พยายามดีกว่าค่ะ ไม่อยากใช้คำว่าสัญญา ถ้าเกิดมันทำไม่ได้ก็เหมือนกับผิดสัญญา เลยขอใช้คำว่าพยายามกับตัวเองว่า ต่อจากนี้เราต้องเข้มแข็งมากๆ”

กำลังใจเข้ามาท่วมท้นเหมือนกัน มีอะไรอยากจะบอกไหม ?
“ขอบคุณกำลังใจทุกๆ กำลังใจค่ะ คือจริงๆ ญิ๋งได้อ่านหมด และบางครั้งเราก็ไม่ได้มีสติ สติเราหายไป แต่ทุกกำลังใจที่ให้เข้ามา มันไม่ใช่เป็นแค่กำลังใจ บางคนให้ข้อคิด ให้คำแนะนำ บอกว่าพี่เคยผ่านมาแล้วแบบนี้ๆ คือพอเราได้อ่านเราก็ได้สติมากขึ้น ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ที่ให้กำลังใจกันเยอะมากๆ หนูอ่าน หนูเห็น มันทำให้หนูมีพลังมากๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ(ยกมือไหว้)”