หลังจากที่ได้อัดคลิปยอมรับว่าเป็นเกย์ สำหรับหนุ่ม เต็งหนึ่ง คณิศ ล่าสุดในงานประกาศรางวัล “MThai Top Talk-About 2019” เจ้าตัวได้ออกมาเผยถึงเหตุผลที่ได้ตัดสินใจเปิดตัว ยันครอบครัวเข้าใจ ยอมรับมีผลกระทบกับงานแต่ไม่มาก พร้อมเคลียร์หลังคนโยง เชียร์ ฑิฆัมพร พูดถึงอดีตคนรักแต่จับได้ว่าไม่แมน
กับคลิปวิดิโอเมื่อปีที่แล้วที่เราได้เปิดตัวไปถึงการยอมรับว่าเราเป็นเกย์ ?
“ก็ดีใจครับ จริงๆก็เฉยๆนะ จริงๆที่บ้านเรากับเราคุยเรื่องนี้กันตลอดอยู่แล้ว เหมือนในวิดีโอเลยครับ ถ้าเกิดใครได้ดู ก็เป็นคลิปที่เรารู้สึกว่าสบายใจและไม่ได้มีอะไรเติมแต่งที่สุดแล้วครับ”
อะไรเป็นตัวแปรที่ทำให้เราตัดสินใจแปิดตัว ?
“ก็โตแล้วมั้งครับ ก็ 32 แล้ว ก็รู้สึกว่าพร้อมที่จะฟังและรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น อ่านคอมเมนต์เราไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือว่าอะไร เลยรู้สึกว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่น่าจะเหมาะ”
ตัดสินใจนานไหมเพราะเราเองก็เข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก ?
“ก็จริงๆเราไปอยู่ต่างประเทศนานด้วยแหละ รู้สึกว่าพอเราไปอยู่ต่างประเทศ เราก็เป็นแค่เราครับ ถึงเราจะทำงานหรือไปเล่นละครต่างประเทศก็จริง แต่ว่าเราไม่ได้มีโมเมนต์ของการมาเจอพี่ๆสื่อแบบนี้บ่อยๆ เราเลยรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรต้องคิดเยอะแล้ว และจริงๆที่บ้านผมก็เชียร์อัพให้พูดมาตั้งนานแล้ว เราเองนั่นแหละที่รู้สึก ตอนแรกเราไปทำงานที่ประเทศจีนใช่ไหมครับ ผมก็กลัวว่าผมจะไม่มีงาน แต่ที่จริงแล้ว เรารู้สึกว่าเราอยากสบายใจมากกว่า”
เราก็สบายใจมากขึ้นกว่าเดิมไหม?
“มันไม่มีอะไรเปลี่ยนครับ การที่เราออกมาบอกว่าเราเป็นอะไร เราไม่ได้จะแต่งหญิงครับ เรายังเป็นเราครับ เราเจอกันข้างนอก เราก็ยังเป็นเรา เราก็ยังเป็นเต็งหนึ่งที่ยังเป็นผู้ชายคนเดิม เพียงแต่ว่าเราอยากจะบอกทุกคนว่าเราเป็นผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้ชายเฉยๆ และโลกมันก็มาไกลแล้ว ไม่ต้องมานั่งแบ่งกันแล้วว่าแพทเทิร์นของการเป็น LGBT ต้องเป็นยังไง
มันส่งผลกระทบกับงานไหม หลังจากที่เปิดตัว?
“จริงๆผมไม่ได้ทำงานในวงการเยอะขนาดนั้นอยู่แล้วครับ ก็อาจจะมีบ้าง แต่ตอนนี้เรากลับมาไทยเราก็รับละคร แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นงานที่ทุกคนรู้ว่าผมเป็นเชฟไปแล้ว ทำรายการอาหาร เป็นเกย์ทำได้ครับ (หัวเราะ)”
ฟีดแบคเป็นอย่างไรบ้างหลายคนเสียดายเหมือนกัน ?
“ไม่ต้องเสียดายนะครับ”
มีการตอบคอมเมนต์ไหม เพราะหลายคนเข้ามาชื่นชมที่เราได้ออกมาเปิดเผยตัวตนของเรา ?
“ก็ตอบเท่าที่ตอบได้ จริงๆผมดีใจนะครับที่ได้เป็นเหมือนเป็นคนที่ออกมาบอก การเป็น LGBT มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ คือก่อนที่ผมจะพูด ก่อนจะโพสต์ หรือหลังจากโพสต์แล้วมันก็คือเราเหมือนเดิม จะไม่มีทางเห็นผมแบบอยู่ดีๆก็กรี๊ดขึ้นมา ไม่มีครับ ไม่น่ามีแน่ๆ “
สบายใจขึ้นไหม ?
“ก็สบายใจขึ้นแหละครับ ก็สบายใจนะครับเวลาเจอใคร ไม่รู้สิ เรารู้สึกสบายใจขึ้นครับ”
สาวๆหลายคนเสียดายเหมือนกัน ?
“ไม่ต้องเสียดายครับ ไม่ต้องเสียดาย (หัวเราะ) เรายังมีความสุขด้วยกันได้อยู่ เรายังเป็นคนเดิม”
ตอนนี้มีความรักหรือยัง ?
“ไม่มีครับ”
พอเราบอกออกไปไม่มีหนุ่มๆเข้ามาสนใจเลยหรอ ?
“ก็ได้ดูแล้วก็เข้ามานะครับ (ยิ้ม)”
เหงาไหม ?
“ไม่เหงา คือเราว่าคนที่มีความสุขกับการอยู่คนเดียวได้แล้ว เราอยู่ต่างประเทศเยอะ และเราทำงานเยอะ เราเลยรู้สึกว่าถ้าเรามีแล้วมาขัดความรู้สึกอย่างอื่นของเรา ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบก็ได้”
มีรายการหนึ่งที่ เชียร์ ฑิฆัมพร ไปออกแล้วบอกว่ารักกับพระเอกคนหนึ่งมาก และรู้สึกง่าผิดหวังมากที่จับได้ คนโยงว่าเป็ยเรา ?
“(หัวเราะ) ไม่ จริงๆกับเชียร์เราสนิทกันมากนะ ทุกวันนี้เวลาเรามีอะไร เขาก็ซัพพอร์ทนะครับ”
ตอนนั้นได้คบกันจริงไหม ?
“ไม่มีครับ เป็นเพื่อนกัน”
ตัวเราเองทราบไหมที่คนโยงว่าเป็นเรา ?
“เอาจริงๆก็ได้เห็นจากสื่อจากอะไร แต่ว่าจริงๆเราคุยกับเชียร์น้อยเหมือนกันนะ ช่วงนี้นะครับ คือต่างคนก็ต่างทำงานไปแล้วครับ”
ไม่ได้ติดต่อกันเลย ?
“เราติดต่อกันในโซเชียลครับ แต่ไม่ได้แฮงค์เอ้าท์กันครับ “
ยืนยันว่าที่เขาพูดถึงไม่ใช่เรา ?
“ไม่ใช่ ใช่ไหมเชียร์ ไม่น่าใช่ ไม่ใช่ครับ”
พอเราตัดสินใจประกาศตัวเองแบบนี้เคยคิดไหมว่าผลกระทบจะออกมาด้านดีหรือเสียมากกว่ากัน ?
“ก็คิดนะครับ เราก็ไม่เคยเห็นใครเปิดตัวเนอะ แต่ว่าก็โอเคนะครับ ผมว่าออกมาก็โอเค”
แสดงว่ามีด้านดีมากกว่า ?
“ก็ด้านดีเยอะครับ แล้วก็ยับไม่เขอด้านร้ายเลยครับ มีบ้างที่แบบพูดทำไม ก็ไม่เป็นไรครับ ก็รับฟังไปครับ”
เราเหมือนเป็นต้นแบบที่ทำให้คนอื่นกล้าเปิดเผยตัวตน ?
“ก็ถ้าเป็นต้นแบบในทางที่ดีนะครับ ก็ดีครับ เราว่า LGBT คือมนุษย์คนหนึ่ง อยากให้ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งที่เท่าเทียมกันครับ ยุคใหม่แล้วครับ”
มาเมืองไทยตอนนี้คืออยู่ถาวรไหม ?
“อยู่ 8 เดือนครับ กลับมาเดี๋ยวมีรายการของช่องโมโน รายการอาหาร ที่เซ็นสัญญาไปแล้ว มาเล่นละครหนึ่งเรื่อง เสร็จแล้วก็กลับจีนครับ”
by TVPOOL ONLINE



