เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
เป็นอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องงาน แต่เรื่องของความรักนั้นกลับติดลบ สำหรับ “ฮาย อาภาพร”
 
สมัยก่อนเนื้อหอมขนาดไหน ?
ฮาย : 
เยอะนะ คือพี่ปิดกั้นตัวเองเกินไป ใครมาจีบก็เป็นศัตรูกับเขาไปหมด คือสวยมากไง พี่ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร คือพี่ไม่ได้อยากอยู่คนเดียวนะ พี่อยากมีคู่
พี่พูดอย่างนี้มาตลอด แต่พี่ก็ไม่เปิดใจ ?
ฮาย :
 ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พี่อยากหาหมอมากเลย หาหมอจิตเวชว่าทำไมเราถึงปลดล็อกตรงนี้ไม่ได้ จนป่านนี้จะมาอะไรนักหนา อายุจะ 50 แล้วจะมากลัวอะไรคนที่เป็นแบบนี้จะช้ำกับความรักมาหนักมาก ?
ฮาย :
 ใช่ ๆ ตอนนั้นอายุ 15-16 ปี ก็จะมีผู้ชายมาจีบ จริง ๆ เขามาจีบพี่สาว แต่ทำไปทำมา มาจีบเราก็ไม่รู้ ซึ่งถ้านับญาติก็เป็นญาติ ถ้าไม่นับก็ห่างมาก ด้านผู้ใหญ่ก็กีดกันกลัวลูกเกิดมามันไม่ดีนะ เป็นญาติกันเอ๋อมั้ง อะไรมั้ง แม่ก็บอกว่าอย่าเลยดีกว่า จนผู้ชายมาทำงานในกรุงเทพฯ ได้ปีกว่า เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาเก็บเงินมาขอนะ สักประมาณปีกว่าก็ได้ยินเสียงดนตรี งานแต่งของเขา พอเป็นงานแต่งเขาเรารู้สึกว่ากินน้ำแล้วกลืนไม่ลง กินข้าวก็กลืนไม่ลง เขาเรียกว่าอกหัก แล้วมันก็จำฝังใจมาตลอด ซึ่งเขาชวนพี่หนีด้วยนะ เราก็กลัวพ่อแม่จะอายก็เลยไม่กล้าที่จะไปกับเขา

ตอนนั้นรักขนาดไหน ?
ฮาย : 
รักรออะ คือเขาพูดอะไรเราฟังหมด เขาซื้อยกทรงให้พี่นะ ซื้อสบู่ที่ทาตัว เมื่อก่อนสบู่นกแก้วสีเขียว ๆ มันหอมมาก เมื่อก่อนนาน ๆ กว่าพี่จะได้ใช้สบู่แบบนี้สักทีนึง เราใช้อะไรก็ได้ของแม่ที่เหลือ ๆ แต่ผู้ชายคนนี้ซื้อมาให้ แล้วดันรู้ไซส์ยกทรงพี่อีกแล้วซื้อพอดีกว่าตัวพี่อีก พี่ไม่รู้ว่าเป็นป๊อบปี้เลิฟหรืออะไร แต่พี่รักเขาไปแล้ว เขาสอนพี่ขับมอเตอร์ไซค์แล้วเขานั่งข้างหลังแล้วรู้สึกว่ามันมีความสุข ตอนนั้นเราคบกันประมาณไม่ถึงปีพอผู้ใหญ่รู้ เขาก็กีดกันเลย แล้วเขาก็ไปมีคนอื่นตอนที่บอกให้เรารอประมาณปีกว่า ๆชื่อนั้นยังอยู่ในความทรงจำเราไหม ?
ฮาย :
 จำได้ ยังจำหน้าเขาได้ เคยเจอตอนที่เขาแต่งงาน มีลูกแล้ว แต่เราก็เฉย ๆ ไม่รู้สึกอะไร เขามาที่บ้านด้วย ถามว่าเขามาขอโทษพี่หรือเปล่า ไม่นะ ซึ่งเขาคงรู้ว่าพี่รอเขาแต่เขาคงทำอะไรไม่ได้ ซึ่งตอนที่เขาแต่งงานพี่ไม่ได้ไป ได้ยินแต่เสียง เพราะพี่สาวบอกว่านั่นคือเสียงเครื่องไฟงานแต่งงานของแฟนเธอนั่นแหละ ได้ยินแค่นั้นมันช็อกอ่ะ กำลังกินข้าวอยู่มันกลืนข้าวไม่ลง กินน้ำ น้ำยังติดคอ เราเลยรู้ว่านี่คือรสชาติของคนอกหัก แล้วมันฝังใจพี่มาตลอดจนพี่เข้าวงการแล้วก็มีผู้ชายอยู่คนนึงก็มาตามแบบนี้ พี่ก็บอกว่าเธอรอฉันได้ 10 ปีก็รอสิ แต่เขารอเราจริง ๆ ซึ่งพี่ก็พูดแบบปากพล่อย ๆ พี่ก็ไม่ได้ชอบเขาหรืออะไรแต่เขาเทคแคร์เรา เราก็รู้สึกมีความสุขนะ ระหว่าง 10 ปีที่เขารอพี่เขาก็ไปสร้างเนื้อ สร้างตัว มีรถ มีบ้าน จนเขาบอกว่าเขาพร้อมแล้ว

แล้วพี่ก็ไม่เลือกเขา ?
ฮาย : 
คือช็อกตอนที่เขามาขอ จนลืมไปแล้ว เขาบอกจำได้หรือยังสัญญาที่เคยให้กันไว้ พี่มาทวงสัญญานั้นคืน เราก็เออ จำได้ว่าเราพูดอะไรไป พี่ก็อึ้งไปพักนึง เขาก็เริ่มเมาแล้ว พี่ก็บอกว่าขอเวลาสักแป๊บนะ ก็ 3-4 วัน เขาก็โทรศัพท์มาทุกวันก็เลยตัดสินใจบอกเขาไปเลยว่าคุณไม่ใช่ ฉันไม่ได้รู้สึกกับคุณแบบนั้น โอ้โห แค่นั้นแหละเขาด่า เขาแช่ง แบบแรงมาก ไม่ให้ประสบความสำเร็จ ถ้าเป็นไปได้ขอให้รูตัน ขอให้ไม่มีความรักในชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป หรือว่ามันเป็นกรรมอันนี้ด้วยก็ไม่รู้ บางครั้งพี่อยากจะเอาดอกไม้ ธูปเทียน ไปขอขมาเขา เมื่อ 2 ปีเขาบอกว่า อโหสิกรรมให้แล้วนะ เรามีความรู้สึกว่าอยากโทรศัพท์ไปหาเขาแล้วทำเป็นเรื่องเป็นราวว่าขอขมาลาโทษจริง ๆไม่แน่ในบั้นปลายชีวิตพี่อาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ได้ ?
ฮาย :
 เป็นเพื่อนที่ดีได้ ถ้าบอกว่ากลับไปอยู่กันแบบนั้นไม่มีทาง แต่พี่ก็ยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายทั้งสองคน เพราะว่าเราเป็นคนหวงตัว มีความรู้สึกว่าแม่จะบอกตลอดว่าการที่จะมีแฟน เราก็ต้องอยู่กับแฟนเราเท่านั้น ซึ่งเราอาจจะโบราณเกินไป