เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เชอรี่ เข็มอัปสร ออกมาเผยแล้วถึงกรณีลงรูปคู่คุณแม่ ก่อนโลกโซเชียลมีการเผยถึงที่มาตัวเองว่าเป็นทายาทผู้ครองนครน่านว่า จริงๆ ตัวเองไม่เคยพูดถึงที่มาของตัวเองมาก่อน มีแค่คนส่วนน้อยที่ทราบ ตัวเองก็ไม่ได้ออกไปเจอใคร เจอแต่คนที่ก็รู้เรื่องของเราอยู่แล้ว

ตอนที่เป็นข่าวไม่รู้เรื่อง เพราะไปปฏิบัติธรรม พอออกมาก็มีคนเล่าให้ฟังว่ามีกระแส ก็ไม่คิดว่าจะกระแสแรงขนาดนี้ งงมีคนมาขอสัมภาษณ์พี่ชาย ถึงที่มาครอบครัว จริงๆ ตัวเองเป็นสามัญชนคนธรรมดา แต่คุณแม่ที่มีเชื้อสาย ทางคุณตา คุณยาย มาจากเจ้าผู้ครองนครน่าน องค์สุดท้าย และ ก่อนองค์สุดท้าย เราไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้ เราไม่ได้อาย เราภูมิใจ กลับไปเราก็ไปไหว้ตลอด แค่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องที่จะต้องพูดถึงหรือเปล่า

ทิ้งทวนละครเรื่องสุดท้ายคือ “กระทิง” จนถึงตอนนี้ นางเอกดัง “เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ” ก็ยังไม่รับละคร นอกจากลุยทำงานเพื่อสังคม และพาครอบครัวพักผ่อนที่เมืองนอกร่วม 2 เดือน โดยเจ้าตัวเปิดใจระหว่างมาร่วมเปิดตัวแคมเปญ “คุณคือตาวิเศษ” เพื่อลดปัญหาขยะล้นเมือง ณ ลานหน้า สยามสแควร์วัน ยันแฟนคลับไม่ต้องร้องไห้ ถึงไม่มีละคร แต่ก็สามารถติดตามตนได้จากบทบาทอื่นๆ “ความตั้งใจคือตั้งใจจะไม่รับ แต่ถ้าวันหนึ่งสมมติว่ามีเรื่องที่เรารู้สึกว่าเราถ่ายทอดได้ดีก็อาจจะรับเล่น อาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหรือประวัติความเป็นมาของประเทศไทยที่เรารู้สึกว่าสนใจและอาจจะทำได้ดีก็อาจจะรับ”

“ถามว่าจะมีทิ้งทวนไหม ทิ้งทวนไม่ทันแล้ว(หัวเราะ) เรื่องสุดท้ายคือเรื่องกระทิง เพราะความสนใจและความทุ่มเท ความพยายามทุกอย่างของเราไปอยู่ที่อื่นแล้ว ก็ยังมีผู้จัดติดต่อ แต่ก็จะติดต่อด้วยความเกรงใจว่ายังรับอยู่ไหมนะ เราก็บอกไปว่าอาจจะรับ พี่ลองส่งบทมาให้ดูก่อนก็ได้ ถ้าเป็นเรื่องที่เราสนใจและเวลาเอื้ออำนวยก็อาจจะทำ” รับไม่ได้ตัดสินใจปุบปับ แต่ค่อยเป็นค่อยไป ตอนถ่ายกระทิงก็คิดในใจว่าจะให้เป็นเรื่องสุดท้าย ประสบการณ์ทั้งหมด 20 ปี

“เชอรี่ไม่ได้ตัดใจแบบตัดฉึบ เราค่อนข้างที่จะค่อยๆ เตรียมตัว ตอนก่อนจะรับเรื่องกระทิงเราก็คิดในใจเอาไว้โดยที่ยังไม่ได้บอกใครว่าละครเรื่องนั้นอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายของเราก็ได้ ฉะนั้นตอนที่เราทำงานเรื่องนั้น เรารู้สึกว่าเราตั้งใจทุกซีน ตื่นเช้ามาทุกวันด้วยความรู้สึกว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เราฝากผลงานในการสั่งสมประสบการณ์การทำงานในวงการบันเทิง 20 ปีของเราในเรื่องนั้น อะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ”

บอกรับได้ทุกช่อง ส่วนแฟนๆ ไม่ต้องร้องไห้ ติดตามได้ในบทบาทอื่น “จริงๆ รับได้ทุกช่อง แต่เราก็อยากจะตอบแทนผู้มีพระคุณ ช่อง 3 คงมาเป็นอันดับต้นๆ แต่ก็ต้องดูที่เวลาด้วย แฟนๆ ไม่ต้องร้องไห้หรอก ติดตามเชอรี่ในบทบาทอื่นๆ ต่อไปดีกว่าค่ะ” นอกจากงานด้านสิ่งแวดล้อม ก็ให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น “ก่อนหน้านี้ก็พาคุณพ่อ พาหลานๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ เชอรี่รู้สึกเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราควรจะกอบโกยเอาไว้ เพราะคุณพ่อยังไปเที่ยวไหวก็ควรจะรีบพาไป เวลาพาไปก็นานเป็นเดือนเลย ล่าสุดไป 2 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นเวลาคุณภาพมาก เพราะเราได้อยู่ด้วยกันทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง มีความสุขมากที่ได้ดูแลท่านทุกอย่าง”

“คุณพ่อก็เดินไหวค่ะ แต่ก็จะมีเหนื่อยเป็นระยะๆ ตามวัย เราก็หาจุดพัก หาร้านนั่งชิลๆ ไป เวลาไปพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ ก็หาจุดนัดพบกัน แล้วแต่สถานที่ เรื่องสุขภาพคุณพ่อก็มีปัญหาตามอายุของวัย แต่ก็ถือว่ายังแข็งแรง เรื่องกี่ครั้งต่อเดือนก็ไม่มีตกลงค่ะ เอาตามสะดวก อย่างทริปล่าสุดที่ไปอยู่ 2 เดือน ก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปอยู่นานขนาดนั้น เป็นไปตามแพลน คุณพ่อท่านไปทำธุระด้วย เวลาไปทริปแบบนี้ก็จะมีจุดที่เรายังอยากไป ก็ไปได้เรื่อยๆ โชคดีที่คุณพ่อสุขภาพแข็งแรง ไปเที่ยวกับเราได้ เป็นความโชคดีที่เรามีโอกาสได้ดูแลด้วยค่ะ”

รับเป็นอีกสาเหตุทำให้เฟดตัว ครอบครัวมีค่าที่สุด “ใช่ค่ะ นี่คือส่วนหนึ่ง คือหลังจากที่เราโตแล้ว เริ่มรู้ว่าชีวิตเราต้องการอะไร เริ่มเลือกได้ เราก็จะตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าจะทำอะไร สิ่งที่เราไม่สามารถเรียกร้องให้มีมากขึ้นหรือย้อนกลับไปได้คือเวลา ฉะนั้นเวลาคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุด และเราจะเอาเวลามีค่าของเราทำอะไรทุกอย่างต้องมีค่าสำหรับเราหมด ครอบครัวมีค่า อยากช่วยใคร อยากเรียนรู้อะไร อยากทำเรื่องสิ่งแวดล้อม เรารู้สึกว่าเราไม่อยากจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์”

พาร์ทความรักไม่เปิดเผยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว “จริงๆ พาร์ทเรื่องความรักไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นอยู่แล้ว เชอรี่มองว่าเป็นธรรมดาของชีวิตเราที่เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ต้น ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องเปิดหรือมาพร้อมกัน ไม่เคยได้แพลนไว้ ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของเรา ที่เรารู้สึกว่าอยากไปก็ไป”

ลูกไม่ใช่ปัจจัยทำให้ต้องแต่งงาน “คือเรื่องลูกไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราแต่งหรือไม่แต่ง จริงๆ เชอรี่มองว่าการใช้ชีวิตของแต่ละคนมีรูปแบบที่เราสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ของเราขึ้นมาได้ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกับขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามในสิ่งที่สังคมส่วนใหญ่บอกว่าอายุเท่านี้ควรจะต้องทำอะไร เราสามารถออกแบบชีวิตในแบบที่เป็นเรา และรู้สึกมีความสุข ไม่ฝืนความเป็นธรรมชาติของเราได้”