เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมฆ วินัย ขณะที่เข้ารับการรักษาจากอาการป่วยตุ่มน้ำพอง ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สำหรับภรรยาสาว เอ๋-อรชัญญาช์ ไกรบุตร โดยล่าสุด เอ๋ อรชัญญาช์ ได้ออกมาเปิดใจให้ฟังว่า สามีจิตตกมาก เพราะปวดแสบปวดร้อนกับสิ่งที่เป็น และกลัวลูกเมียจะลำบากหรือรังเกียจตน ซึ่งทางเธอเองเห็นแล้วก็ไม่สบายใจ หากเจ็บปวดแทนกันได้ก็คงจะดี พร้อมบอกเรื่องเงินการรักษาหรือรูปลักษณ์ภายนอกไม่ใช่ปัญหา เพียงแค่อยากให้สามีหาย ถึงเหนื่อยแค่ไหนก็ยินดีที่จะดูแล

“จิตตกค่ะ เพราะว่าเขาทรมานมาก มันเจ็บแสบและปวดมาก เพราะว่าทั้งคัน ปวดแสบปวดร้อน นอนไม่ได้ 2 เดือนที่เราสองคน สามี-ภรรยา ไม่ได้นอนเต็มที่เหมือนคนอื่นเขานอนกัน นอนได้วันละ 1-2 ชั่วโมง เป็นอย่างนี้มา 2 เดือนจนวันหนึ่งเราเหมือนเจอทางสว่าง เจออาจารย์หมอประวิทย์ พอเราเจอปุ๊บแล้วท่านบอกว่าที่นี่มียารักษาและมันสามารถหายขาดได้ มันเหมือนคนแบบว่าอยู่ในที่มืดแล้วเจอที่สว่าง เราก็ดีใจ”

“ตอนนั้นเขาก็คิดว่าเขาอยู่วงการไม่ได้แล้ว มันเป็นช่วงที่เขาจิตตกที่สุด เขาโทรมาบอกว่าเตรียมแผนการณ์ไว้แล้ว ถ้าทำงานไม่ได้ให้ขายที่ มีที่หลายที่ให้ทยอยขายเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูลูก แต่เราว่ามันไม่ใช่ ก็บอกเขาตั้งสติก่อน บอกใจเย็นๆ มันต้องมีวิธีการรักษา โรคนี้ เราก็เชื่อ เรามั่นใจในสถาบันว่าที่นี่รักษาเขาหายได้ ก็ให้เขาค่อยๆ รักษาไปก่อน หรือถ้ามีปัญหาอะไรก็ค่อยมานั่งคุยกันไม่ให้คิดไปคนเดียว”

ณ ตอนนั้นเราเห็นความทรมานของสามีเรา ในฐานะภรรยาคู่ชีวิต เรารู้สึกยังไงบ้าง ?

“เจ็บแทนได้อยากทำ แต่ในความเป็นจริงมันทำแทนกันไม่ได้ เราเห็นเขาแล้วเราสงสารเพราะว่าเขาเป็นคนที่เข้มแข็งมาก การที่เขาบอกว่ามันเจ็บ มันแสบ มันปวด มันทรมานไม่ไหว อันนั้นคือที่สุดแล้ว เพราะว่าพี่เมฆเป็นคนที่ทุ่มเทในทุกเรื่อง ดังนั้นเขาจะไม่บ่นต่อหน้าเมีย ต่อหน้าลูกเลย ถ้าเขาพูดมันคือที่สุดค่ะ”

จากคนหล่อ ณ วันหนึ่งเกิดแผลเป็นพุพอง เป็นน้ำเหลือง เขาหมดกำลังใจขนาดไหน ?

“เขาจิตตกค่ะ เขาคงคิดว่าลูกเมียจะรังเกียจไหม อะไรไหม เราทำให้เขาเห็นว่ามันไม่เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก คนเราเวลาเรารักกัน ตอนที่เขาดีเรารับได้ ตอนที่เขาเป็นอย่างนี้เราก็ต้องรับให้ได้ เราก็ต้องรักให้ได้ แต่ในความรู้สึกเราคือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้น่ารังเกียจ เรารู้สึกว่านี่คือสามีเรา ดูแลทุกอย่างเหมือนเดิม”

เห็นบอกว่า พี่เมฆ เตรียมตัวไว้แล้ว ถ้าไม่หายจะลาออกจากวงการไปเลย ?
“เขาจิตตกมากกว่าค่ะ แล้วเขาก็เครียด เขาคิดว่าไหนจะค่ารักษา โน่น นี่ นั่น หาทางออกไม่ได้ ก็เลยพูดแบบนี้ เขาโทรมาบอกเราว่า เขาเตรียมแผนไว้แล้ว เขากลัวเราเครียด แต่จริงๆ เราไม่เครียดเรื่องค่าใช้จ่ายเลย เครียดเรื่องเดียวคือทำยังไงก็ได้ให้เขาหาย เราไม่อยากให้เขาคิดถึงครอบครัวว่ากินอะไรยังไง จะบอกเลยว่าคือมีน้อย ก็ใช้น้อย ไม่จำเป็น ถ้ามันที่สุดแล้วทุกคนมีหนทางของตัวเอง ไม่อยากให้เขามากังวัลเรื่องนี้เลย”

ลูกสาวว่ายังไงบ้าง ?
“ลูกสาวน่ารักมากค่ะ เขาบอกว่าป๊าไม่เห็นเป็นอะไรเลย ป๊าเป็นแผบนิดเดียว เดี๋ยวก็หาย เขาก็บอกว่าป๊าอย่าดื้อแค่นั้นค่ะ”
เห็นบอกว่าตัวยาราคาค่อนข้างสูงเข็มละ 58,000 บาท ?
“ก็คุยกับคุณหมอ อย่างที่คุณหมอบอกพยายามอยากผลักดันยาตัวนี้ เพราะว่าอย่างที่บอกคนไทยไม่ได้มีเงินทุกคน ดังนั้นถ้ายาตัวนี้มันผ่านแล้วรัฐบาลช่วยเหลือคนในประเทศไทยที่เจ็บป่วยอีกหลายพันคนมันคือชีวิตที่ดีขึ้น มันคืออนาคตของเขาอย่างที่คุณหมอบอกค่ะ”


เรากังวัลเรื่องค่าใช้จ่ายไหม ?
“ไม่กังวลค่ะ ไม่กังวลเลยเราไม่มองเรื่องค่าใช้จ่าย มองแต่ว่าเมื่อไหร่ที่เขาหายหรือเขารู้สึกดีขึ้นอย่างที่เอ๋บอกพี่เมฆเป็นคนแคร์ทุกคน ถ้าเรากังวลเขารู้ทันที ดังนั้นเอ๋จะไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น”