เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ป๋อ ณัฐวุฒิ วอนแฟนๆ ใจบุญช่วยเหลือ เป้า ปรปักษ์ หลังป่วยจนซูบผอม  ทำเอาพระเอกหนุ่มเข้ม ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ออกอาการช็อก เมื่อเห็นภาพของ วินัย ยืนยง หรือ เป้า ปรปักษ์ ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง ซึ่งในอดีตมีเงินทองมากมาย สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นนักกีฬา แต่มาวันนี้เจ้าตัวกลับต้องเจอโรคร้ายรุมเร้าอย่างหนักจนซูบผอม ประกอบกับไม่มีงานทำ เงินเก็บแทบไม่มี จึงทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก  ซึ่งในอดีตมีเงินทองมากมาย สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นนักกีฬา แต่มาวันนี้เจ้าตัวกลับต้องเจอโรคร้ายรุมเร้าอย่างหนักจนซูบผอม ประกอบกับไม่มีงานทำ เงินเก็บแทบไม่มี จึงทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก

โดยในยูทูบแชนแนล SKIDJAI ได้มีการไลฟ์สดรายการ “คุยนิด…สะกิดใจ กับ ป๋อ ณัฐวุฒิ : พี่เป้า ปรปักษ์ ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง” (ชมคลิป คลิกที่นี่) ซึ่งเป็นคลิปที่ป๋อโทรติดต่อพูดคุยกับเป้า ปรปักษ์ พร้อมทั้งขออนุญาตเผยภาพล่าสุดของเป้า ซึ่งเกิดจากที่น้ำหนักลดลงไปถึง 37 กก. ภายในอาทิตย์เดียว ทำให้หนุ่มป๋อรู้สึกตกใจมาก ซึ่งเป้า ปรปักษ์ เล่าว่า รูปที่เห็นว่าผอมแล้ว ตอนนี้ผอมยิ่งกว่าในรูปที่เห็นอีก คือตอนนี้น้ำหนักไม่เกิน 59 กก. เพราะในรูปตอนนั้นยังหนัก 67-68 กก. จากเดิมหนัก 96 กก. สาเหตุมาจากการกินที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ระบบลำไส้มีปัญหา กินอะไรไม่ได้ กินแล้วท้องเสีย อาเจียน

ซึ่งหนุ่มป๋อเองก็ขอให้ เป้า ปรปักษ์ ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะว่าจริงๆ เป้า ปรปักษ์ ไม่ได้ต้องการที่จะเปิดเผยถึงเรื่องนี้ แต่ตนขอร้องเพราะคิดว่าถึงเวลาที่สังคมจะได้แสดงความรักต่อพี่เป้า มีคนอีกมากมายที่เป็นห่วง ก่อนจะบอกเลขที่บัญชีของ เป้า ปรปักษ์ ชื่อจริง วินัย ยืนยง เลขบัญชีธนาคารกสิกรไทย 0492078613 และในช่วงหนึ่งของไลฟ์สด (ประมาณนาทีที่ 29.40) เป้า ปรปักษ์ ถึงกับร่ำไห้ โดยบอกว่า “ผมต้องการให้ประชาชนคนดูหนังไทยมีความสุข ถึงแม้ตัวเราจะเจ็บป่วยแทบตาย (เริ่มร้องไห้) เราไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตวันนึงจะลำบากถึงขนาดนี้ ถ้าผมยังมีพลังอยู่ก็คงไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ชีวิตพี่ 60-70 ปีไม่เคยเป็นอย่างนี้ เรารู้ว่าสักวันเราจะต้องตายจากโลกใบนี้ เราจะทำอะไรดี แน่นอนเราต้องทำความดีคือทำบุญให้มากที่สุด เพราะเราต้องตายไงครับ ผมโชคดีที่มีน้องที่ช่วยอนุเคราะห์ (ร้องไห้) ผมอธิษฐานจิตว่าถ้าผมยังมีชีวิตอยู่ ผมขอสร้างบุญสร้างกุศล สร้างบารมีถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณทุกคนให้เขาอย่าได้เจอโรคภัยแบบที่ผมได้พบเลย มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ตอนนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุดคือต้องการประคองชีวิตให้อยู่เพื่อเพียรสร้างบุญบารมี”

เมื่อป๋อถามว่าอยากไปตรวจที่ รพ. มั้ย เป้า ปรปักษ์ บอกว่า สาธุ ไว้ถึงวันนั้นก่อน ตอนนี้ยังเดินได้ ยังพอกินอาหารได้เป็นบางอย่าง กำลังใจดีมาก ตอนนี่ยังกินได้ไม่เยอะ พอกินเยอะจะปวดท้องแบบทรมานมาก เราเลยต้องกินให้น้อย กินให้บ่อย แต่ผมไม่มีครัว ชีวิตพเนจร บางครั้งเช้าอยากกินมาก แต่กว่าจะได้กินข้าวก็ 2-3 โมงเย็น จะไม่กินกลางคืน แต่ก็ยังพลาดกิน 3-4 ทุ่ม ซึ่งตรงนี้ทรมานมาก สุดท้ายป๋อขออนุญาตถามว่า ป่วยเป็นมะเร็งใช่มั้ย เป้า ปรปักษ์ ตอบว่า “มันทุกโรคนะป๋อ มีตับ ปอด ม้าม หัวใจ กระเพาะ ลำไส้ มันจะต่อเนื่องถึงกันหมดเลย และที่มันร้ายสุดคือคำว่ามะเร็ง มันเป็นเนื้อร้ายที่อยู่กับร่างกายเรามาหลายสิบปีแล้วไม่ถูกเซลล์ตัวใหม่มารักษาได้ แต่พี่ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ พี่ไม่เคยทำอะไรที่ทำร้ายร่างกายตัวเองนะ บำรุงดูแลตัวเองตลอด

พี่เลยยังมีความมั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นอะไร พี่จะขออยู่ต่อไปด้วยบุญ การที่ป๋อเป็นสะพานบุญ บอกให้พี่น้องแฟนคลับได้มีโอกาส อย่างน้อยๆ ส่งความคิดถึง ไม่ต้องถึงขนาดช่วยเหลือเงินทองก็ได้ ชีวิตที่เหลืออยู่พี่ก็ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ นอกจากอยู่ด้วยบุญที่ป๋อเป็นสะพานบุญ พี่จะเก็บเงินก้อนนี้เอาไว้กินในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถึงเวลาก็ต้องไป หนีไม่พ้น ขอบคุณแฟนภาพยนตร์ไทยทุกคนที่มีจิตเมตตา ที่ไม่เคยลืมเป้า ปรปักษ์ สาธุผ่านป๋อครับ” และในไอจีส่วนตัวของป๋อ ก็ได้โพสต์ภาพในรายการดังกล่าว พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า “ผมชอบคำพี่เป้า ปรปักษ์ ระหว่างการคุยมากๆ …จาก ดวงดาวสู่ก้อนดิน!!! พี่เป้าเคยมีอดีตที่โด่งดัง ยิ่งใหญ่ เงินทองมากมาย แต่มาวันนี้ วันที่โรคร้ายรุมเร้าหนักมาก ประกอบกับไม่มีงานทำ เงินก็แทบจะไม่มี ………เหมือนกับสูตรสำเร็จของดาราใช่มั้ยครับ ดูดีแต่ตอนท้ายจบแทบจะไม่สวย

ผมจะไม่โต้แย้งประเด็นนี้ แต่จะขอเสริมว่า ……พี่เป้ารับได้ครับ!! และพี่เป้าไม่เคยขอร้องเรื่องเงินทองจากใคร ถ้าไม่สุดๆ จริงๆ พี่เป้าเล่าเรื่องที่สุดแสนลำบากของตัวอย่างเรียบง่าย ดูสบายและเข้าใจมัน อธิบายความเจ็บปวดในร่างกายอย่างรู้เจ็บ รู้ปวด และอยู่กับมันอย่างเข้าใจชีวิต ……พี่เป้าจึงปลีกวิเวกไปตามทางของตัวเอง เข้าวัด ทำบุญ เดินทางด้วยตัวเอง ไม่มีใคร และไม่ขอร้องหยิบยืมเงินจากผู้ใด…….. ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายขอร้องให้พี่เป้าเปิดเผยตัว เพราะยังมีสังคมที่น่ารักอีกมากมายที่เคยชื่นชมในผลงานของพี่ อาจจะมีผู้มีจิตเมตตา ผู้มีกำลังทรัพย์ และอยากช่วยเหลือพี่อีกมากมาย ….ในวันพระใหญ่นี้ ผมก็ขอเป็นสะพานเล็กๆ เชื่อมต่อทุกท่านผู้ใจดีกับเรื่องราวของลูกผู้ชายตัวจริงนักบู๊คนนี้นะครับ

เค้าเป็นทั้ง พี่ เพื่อนร่วมงาน ผู้กำกับคิวบู๊ และยังเป็นครูที่สอนให้ผมเห็นว่า…….จงอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท จงทำแต่ความดี และชีวิตนี้สั้นนัก ถ้าทำอะไรแล้วมีความสุข แล้วมันไม่เดือดร้อนต่อใคร……ทำเลยครับ อย่ารอ เพราะโอกาสที่เราจะได้ทำมันอีก อาจจะไม่กลับมาอีกแล้ว…ก็เป็นได้ #เป้าปรปักษ์ #สู้ๆวัยรุ่น#คุยนิดสะกิดใจ”. เค้าเป็นทั้ง พี่ เพื่อนร่วมงาน ผู้กำกับคิวบู๊ และยังเป็นครูที่สอนให้ผมเห็นว่า…….จงอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท จงทำแต่ความดี และชีวิตนี้สั้นนัก ถ้าทำอะไรแล้วมีความสุข แล้วมันไม่เดือดร้อนต่อใคร……ทำเลยครับ อย่ารอ เพราะโอกาสที่เราจะได้ทำมันอีก อาจจะไม่กลับมาอีกแล้ว…ก็เป็นได้ #เป้าปรปักษ์ #สู้ๆวัยรุ่น#คุยนิดสะกิดใจ”.