แอนนี่ บรู๊ค สอนลูกชาย! หลังย้ายบ้านเช่าต้องเดินเท้าไปรร. เพราะการเป็นเสาหลักทำงานหารายได้ทำให้ซิงเกิ้ลมัมอย่าง แอนนี่ บรู๊ค ต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว ดูแลคุณแม่ชราที่ป่วยเดินไม่ได้ และลูกชายวัย 9 ขวบอย่างน้องฑีฆายุ ที่โตขึ้นทุกวัน ภาระค่าใช้จ่ายการศึกษาเล่าเรียนก็ต้องมากขึ้นทุกวัน ก่อนหน้านี้ฝากลูกให้คนอื่นช่วยดูแล ส่วนตัวเองเดินทางไปๆ มาๆ หลายเดือนรับงานร้องเพลงที่ต่างประเทศ ก่อนจะกลับมาทำธุรกิจอาหารเสริมที่เมืองไทยแต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า เมื่อไม่กี่วันก่อน แอนนี่ บรู๊ค โพสต์ภาพขนของย้ายบ้าน บอกเล่าว่าตัดสินใจพาครอบครัวย้ายไปอยู่บ้านเช่าที่ราคาถูกกว่าเดิมเพื่อลดค่าใช้จ่าย
หลังจากย้ายบ้านแอนนี่ บรู๊ค โพสต์ภาพล่าสุดของน้องฑีฆายุ เดินเท้าจากบ้านไปโรงเรียน พร้อมแคปชั่นสอนลูกชายว่า “ความไม่สะดวกสบายบางประการในชีวิต สร้างให้คนเป็นคนที่เข้มแข็ง แม่ดีใจที่ฑีเข้าใจทุกสถานการณ์และปรับตัวได้อย่างดี โลกนี้มีอะไรอีกมาก คนที่เข้มแข็งจะอยู่ได้ไม่ว่าเจออะไรก็ตาม ไม่ต้องขับรถแล้วเดินไปโรงเรียนด้วยกันนะครับ ไม่ไกลได้ออกกำลังด้วย สมัยแม่เป็นนักกีฬาโรงเรียนวิ่งได้เหรียญทองเพราะเดินไปโรงเรียนนี่ล่ะ ที่โพสต์ชีวิตช่วงนี้ไม่ได้ต้องการอะไร หวังเพียงอาจเป็นแรงกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งกันและกัน”
นอกจากนี้แอนนี่ บรู๊ค ยังได้ตอบกลับข้อความจากแฟนๆ ที่เข้ามาคอมเม้นท์ส่งกำลังใจให้ว่า “ติดดิน ก้าวสูงได้ ฝันสูงได้ แต่หัวสูงไม่ได้ เพราะเวลาตกมาจะรับไม่ไหว ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง ไม่ขึ้นตลอดและไม่ลงตลอด อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่ต้องระวังในการใช้ชีวิต แต่ไม่ระแวงที่จะมีชีวิตอยู่” และ “ท้อได้ ร้องไห้ได้ เหนื่อยได้ แต่หยุดไม่ได้” ซึ่งเธอยังเปิดเผยด้วยว่า “รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจไม่ไปทำงานที่อื่นไกลๆ แล้ว แม้เงินจะน้อยนิด แต่ความทรงจำที่กำลังสร้างกับลูกชาย มันมีค่ามหาศาลมากมาย” เหนื่อยได้ แต่หยุดไม่ได้” ซึ่งเธอยังเปิดเผยด้วยว่า “รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจไม่ไปทำงานที่อื่นไกลๆ แล้ว แม้เงินจะน้อยนิด แต่ความทรงจำที่กำลังสร้างกับลูกชาย มันมีค่ามหาศาลมากมาย”
ชีวิตต้องสู้ ไม่ใช่ผู้หลักผู้ใหญ่วัยทำงานเท่านั้น ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อชีวิต ปากกัดตีนถีบเพื่อตัวเองเพื่อครอบครัวเพื่อความอยู่รอด และไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปแต่ว่าคนในวงการบันเทิงเอง ก็ต้องปากกัดตีนถีบเช่นกันเพราะว่าชีวิต ในวันหนึ่งก็อาจต้องหล่นตุ๊บ ลงบนพื้นดิน เหมือนคนธรรมดาธรรมดา เช่นเดียวกับดาราสาว “แอนนี่ บรู๊ค” ที่ในอดีตเธอเคยมีงานมากมายและจัดว่าเธอคือสาวฮอตคนหนึ่งที่มีงานละคร งานอื่นๆไม่ขาดสาย แต่ชีวิตพลิกผัน เมื่อเธอนั้นได้เบนโลและเผชิญกับดราม่ามากมายในช่วงนั้นซึ่งแอนนี่ก็สามารถก้าวผ่านจุดนั้นมาได้อย่างลำเค็ญ ท่ามกลางน้ำลาย ของผู้คนที่สาดใส่ ตามประสาชาวโลกที่มีอารมณ์ รัก โลภ โกรธ เม้าท์ เผือกชาวบ้านเป็นเรื่องปกติ
หลังจากที่มีลูกชาย ดาราสาวสุดสตรอง ก็ต้องต่อสู้ต่อไปต้องแกร่งยกกำลัง2 เพราะว่า “น้องฑีฆายุ” ลูกชายของเธอนั้น มีอาการโรคสมาธิสั้นในระยะเริ่มแรกทำให้แอนนี่ ต้องยกเลิกต่างประเทศทั้งหมดกลับมาดูแลลูก แถมยังต้องดูแลคุณแม่ที่ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้นอนแแช่อึ-ฉี่ อย่างที่เป็นข่าว เรียกว่ารายได้ เงินทองของเธอที่เคยมีก็หดหายไป เงินเก็บร่อยหรอ ส่วนผู้ที่มีเมตตาเคยประกาศตัวว่าจะอุปถัมภ์ค้ำชูดูแลการศึกษาของบุตรชายให้เธอ ก็มีเหตุผล ในการยกมาอ้างอิงอิดออด จนดาราสาวขอยืนด้วยขาตัวเองดีกว่า
อย่างไรก็ตามในความชีวิตดราม่าถาโถม ดาราสาวสุดสตรอง ก็ไม่ถอย เดินหน้าสู้ชีวิต ด้วยการทำงานแลกเงิน ทั้งนี้น้องฑีฆายุลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ทำในสิ่งที่แอนนี่ ปลื้มใจซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลในความโชคดีของตัวเองที่ได้ลูกชายเป็นอภิชาตบุตร นอกจากจะตั้งหน้าตั้งตาเรียนแล้วน้องฑีฆายุยังช่วยแม่ทำมาหากิน หอบหิ้วขนมไปขายเพื่อนๆเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ หารายได้ให้กับคุณแม่ นอกจากนี้แล้วในส่วนของการใช้ชีวิต แทนที่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เด็กชายจะออกไปวิ่งเล่นเที่ยวเตร่ใช้ชีวิตพักผ่อน แต่พ่อหนูน้อยกลับไม่ทำแบบนั้น แต่ขอมานั่งช่วยคุณแม่ ทำปลาร้า แพ็คปลาร้า เพื่อนำส่งลูกค้าที่ออเดอร์เข้ามามือเป็นระวิง มีความขยันขันแข็งมีความเป็นลูกผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษ ตั้งแต่เล็ก ทำเอาเหล่าแฟนคลับชาวไซเบอร์ แต่ก็น้ำตาซึม ปลื้มปิติดีใจไปกับแอนนี่ที่มีลูกชายเป็นคนดีหน้าตาดี นิสัยดี มีความกตัญญู ดูแล้วเป็นพลัง ในการสู้ชีวิต
